Samstag, 21. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๙.ปาฬินยาทิสงฺคห

๙ - ปาฬินยาทิสงฺคห

——————

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ ปาฬินยาทิสงฺคหํ.

ปญฺญาเวปุลฺลกรณํ ปีติปาโมชฺชวฑฺฒนํ.

ตตฺถ ปาฬินโย อฏฺฐกถานโย ฏีกานโย ปกรณนฺตรนโยติ จตฺตาโร นยา อธิปฺเปตา. ตตฺร ปาฬินโยติ เตปิฏเก พุทฺธวจเน ปาฬิคติ. อฏฺฐกถานโยติ อฏฺฐกถาสุ อาคตา สทฺทคติ. ฏีกานโยติ ฏีกาสุ อาคตา สทฺทคติ. ปกรณนฺตรนโยติ อญฺเญสุ ปกรเณสุ อาคตา สทฺทคติ. ตตฺร ปาฬิคติยํ พฺยญฺชนฉกฺกอตฺถฉกฺเก ปธาเน กตฺวา อฏฺฐกถาฏีกาทีสุ ปวตฺตสทฺทคติวินิจฺฉเยน สห ยถารหํ คเหตฺวา ปาฬินยาทิสงฺคหํ ทสฺเสสฺสาม.

ตตฺร อกฺขรํ ปทํ พฺยญฺชนํ อาการโร นิรุตฺติ นิทฺเทโสติ ฉ พฺยญฺชนปทานิ. สงฺกาสนา ปกาสนา วิวรณํ วิภชนํ อุตฺตานีกรณํ ปญฺญตฺตีติ ฉ อตฺถปทานิ เอตานิเยว “พฺยญฺชนฉกฺกํ, อตฺถฉกฺก”นฺติปิ วุจฺจนฺติ. ตตฺร พฺยญฺชนปเทสุ อกฺขรํ นาม “รูปํ อนิจฺจนฺติ วุจฺจมาโน รูติ โอปาเตตี”ติ วจนโต อตฺถโชตกปทนฺโตคธเมกกฺขรมิห อกฺขรนฺติ คเหตพฺพํ. อถวา “โย ปุพฺเพ”ติ เอตฺถ โยกาโร วิย อตฺถโชตกเมกกฺขรมตฺร อกฺขรนฺติ คเหตพฺพํ; “สฏฺฐิวสฺสสหสฺสานี”ติ วตฺตุกาเมน วุตฺตํ อาทิอกฺขรมิว อปริสมตฺเต จ ปเท วณฺณมกฺขรมิติ คเหตพฺพํ.

วีตตณฺโห อนาทาโน นิรุตฺติปทโกวิโท.

อกฺขรานํ สนฺนิปาตํ ชญฺญา ปุพฺพาปรานิ จาติ

เอตฺถ วุตฺตนเยน วิภตฺติยนฺตํ อตฺถโชตกํ อกฺขรปิณฺฑํ ปทํ นาม, “สีเล ปติฏฺฐายา”ติ เอตฺถ “สีเล”ติ ปทํ วิย. อตฺถสมฺพนฺโธปเทสปริโยสาโน ปทสมูโห พฺยญฺชนํ นาม, “จตฺตาโรเม ภิกฺขเว สติปฏฺฐานา”ติอาทิ วิย. พฺยญฺชนวิภาโค วิภาคปฺปกาโร อากาโร นาม, “กตเม จตฺตาโร; อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี”ติอาทีสุ วิย. อาการวิภาวิตสฺส นิพฺพจนํ นิรุตฺติ นาม, “ผุสตีติ ผสฺโส; เวทยตีติ เวทนา”ติอาทิ วิย. นิพฺพจนตฺถสฺส วิตฺถาโร นิสฺเสสโต เทโส นิทฺเทโส นาม, “สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา. สุขยตีติ สุขา; ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา; เนว ทุกฺขยติ น สุขยตีติ อทุกฺขมสุขา เวทนา”ติอาทิ วิย; อิมานิ ฉ พฺยญฺชนปทานิ.

Freitag, 20. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๘.จตุปทวิภาค

๘-จตุปทวิภาค

——————

นามปท

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ จตุนฺนนฺตุ วิภาชนํ.

วาโจคธปทานนฺตํ สุณาถ สุสมาหิตา.

ตตฺถ นามิกปทํ อาขฺยาตปทํ อุปสคฺคปทํ นิปาตปทนฺติ จตฺตาริ วาโจคธปทานิ นาม โหนฺติ. เอตสฺมิญฺหิ ปทจตุกฺเก ติปิฏเก วุตฺตานิ สพฺพานิ วิมุตฺติรสสาธกานิ วจนานิ โอภาสนฺติ. เอเตสุ จตูสุ นามิกปทนฺติ เอตฺถ–

เหฏฺฐา การกภาเวน ทสฺสิตานิ กฺริยํ ปติ.

ปทานิ สสมาสานิ ตทฺธิตานิ กิตานิ จ.

รูฬฺหีนามญฺจ ตํ สพฺพํ นามมิจฺเจว ภาสิตํ.

ตโต อาขฺยาติกํ วุตฺตํ ติกาลาทิสมายุตํ.

นามํ อาขฺยาติกญฺเจตํ ทุวิธํ สมุทีริตํ.

เอวํ สนฺเตปิ เอเตสุ นาเม กิญฺจิ วทามหํ.

ตตฺร นามนฺติ อตฺถาภิมุขํ นมตีติ นามํ; อตฺตนิ จ อตฺถํ นาเมตีติ นามํ; ฆฏปฏาทิโก โย โกจิ สทฺโท. โส หิ สยํ ฆฏปฏาทิอตฺถาภิมุขํ นมติ, อตฺเถ สติ ตทภิธานสฺส สมฺภวโต; ตํ ตํ อตฺถํ อตฺตนิ นาเมติ, อสติ อภิธาเน อตฺถาวโพธนสฺเสว อสมฺภวโต; ตญฺจ นามํ ทุวิธํ อนฺวตฺถรูฬฺหีวเสน. ตตฺถ–

เอกนฺเตเนว อนฺวตฺถํ “โลโก พุทฺโธ”ติอาทิกํ.

“เยวาปโน เตลปายี” อิจฺจาเทกนฺตรูฬฺหิกํ.

Donnerstag, 19. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๗.กิตกปฺป

๗-กิตกปฺป

——————

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ กิพฺพิธานํ หิตกฺกรํ.

โกสลฺลตฺถาย วิญฺญูนํ ปาฬิธมฺเม สุภาสิเต.

๑๑๐๖. กมฺมาทิมฺหิ ธาตุโต โณ.1

กมฺมาทิมฺหิ ธาตุโต ปจฺจโย โหติ. 

กมฺมํ กโรตีติ กมฺมกาโร; เอวํ มาลกาโร; กุมฺภกาโร อิจฺจาทิ.

๑๑๐๗. สญฺญายมนฺวาคโม.2

สญฺญายมภิเธยฺยายํ กมฺมาทิมฺหิ ธาตุโต ปจฺจโย โหติ; นามมฺหิ จ นุการาคโม โหติ. อรึ ทเมตีติ อรินฺทโม; เอวํ เวสฺสนฺตโร อิจฺจาทิ.

๑๑๐๘. ปุเร ททา จ อึ.3

ปุรสทฺเท อาทิมฺหิ ททอิจฺเจตาย ธาตุยา การปจฺจโย โหติ; ปุรสทฺทสฺส การสฺส อึ จ โหติ. ปุเร ทานํ ททาตีติ ปุรินฺทโท.

๑๑๐๙. ณฺวุตฺวาวี วา สพฺพาหิ.4

สพฺพาหิ ธาตูหิ กมฺมาทิมฺหิ วา อกมฺมาทิมฺหิ วา การณฺวุตุอาวี อิจฺเจเต ปจฺจยา โหนฺติ. ตํ กโรตีติ ตกฺกโร; หิตํ กโรตีติ หิตกฺกโร; วิเนติ เตน, ตสฺมึ วาติ วินโย. นิสฺสาย นํ วสตีติ นิสฺสโย. 

ณฺวุมฺหิ– รถํ กโรตีติ รถการโก. อนฺนํ ททาตีติ อนฺนทายโก, สตฺเต วิเนตีติ วินายโก.* กโรตีติ การโก. ททาตีติ ทายโก; เนตีติ นายโก. ตุมฺหิ– ตสฺส กตฺตา ตกฺกตฺตา; โภชนสฺส ทาตา โภชนทาตา; กโรตีติ กตฺตา; สรตีติ สริตา. 

อาวิมฺหิ– ภยํ ปสฺสตีติ ภยปสฺสาวี อิจฺเจวมาทิ.

๑๑๑๐. วิสรุชปทาทีหิ โณ.1

ปวิสตีติ ปเวโส. ชุรตีติ โรโค. อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาโท; ผุสตีติ ผสฺโส. อุจฺจตีติ โอโก; ภวตีติ ภาโว; อยตีติ อาโย; สมฺมา พุชฺฌตีติ สมฺโพโธ.

Mittwoch, 18. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๖.อาขฺยาตกปฺป

๖-อาขฺยาตกปฺป

——————

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ สทฺธมฺเม พุทฺธภาสิเต.

โกสลฺลตฺถาย โสตูนํ กปฺปมาขฺยาตสวฺหยํ.

ตตฺถ กฺริยํ อกฺขายตีติ อาขฺยาตํ, กฺริยาปทํ.

๘๖๕. ปุพฺพานิ วิภตฺตีนํ ฉ ปรสฺสปทานิ.1

วตฺตมานาทีนํ วิภตฺตีนํ ยานิ ยานิ ปุพฺพกานิ ฉ ปทานิ; ตานิ ตานิ ปรสฺสปทานิ นาม. ติ อนฺติ; สิ ถ; มิ ม.

๘๖๖. ปรานิ อตฺตโนปทานิ.2  

เต อนฺเต; เส เวฺห; เอ เมฺห.

๘๖๗. เทฺว เทฺว ปฐมมชฺฌิมุตฺตมปุริสา.3

ติ อนฺติอิติ ปฐมปุริสา. สิ ถอิติ มชฺฌิมปุริสา. มิ มอิติ อุตฺตมปุริสา. ตถา เต อนฺเตอิติ ปฐมปุริสา. เส เวฺหอิติ มชฺฌิมปุริสา. เอ เมฺหอิติ อุตฺตมปุริสา. วตฺตมานวเสเนตํ วุตฺตํ. เสสาสุปิ อยํ นโย เนตพฺโพ.

๘๖๘. เอกาภิธาเน ปโร ปุริโส.4

โส จ ปจติ, ตฺวญฺจ ปจสิ, ตุมฺเห ปจถ. อถวา ตฺวญฺจ ปจสิ, โส จ ปจติ, ตุมฺเห ปจถ. โส จ ปจติ, ตฺวญฺจ ปจสิ, อหญฺจ ปจามิ, มยํ ปจาม. อถวา อหญฺจ ปจามิ, ตฺวญฺจ ปจสิ, โส จ ปจติ, มยํ ปจาม. เอวํ เสสาสุ วิภตฺตีสุ ปโร ปุริโส โยเชตพฺโพ. เอกาภิธาเนติ กิมตฺถํ ? “โส ปจติ, ตฺวํ ปจิสฺสสิ, อหํ ปจิ”นฺติ เอตฺถ ภินฺนกาลตฺตา “มยํ ปจิมฺหา”ติ น ภวตีติ ทสฺสนตฺถํ.

๘๖๙. นาเม ปยุชฺชมาเนปิ ตุลฺยาธิกรเณ ปฐโม.1

โส คจฺฉติ; ปิสทฺเทน อปฺปยุชฺชมาเนปิ ภาสติ วา กโรติ วา. 

ตุลฺยาธิกรเณติ กึ ? 

เตน หญฺญเส ตฺวํ เทวทตฺเตน.

Dienstag, 17. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๕.ตทฺธิตกปฺป

๕-ตทฺธิตกปฺป

——————

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ; โสตารานํ หิตาวหํ.

ตทฺธิตสวฺหยํ กปฺปํ; ตํ สุณาถ สมาหิตา.

ตทฺธิตนฺติ อปจฺจาทิอตฺเถสุ ปวตฺตานํ าทิปจฺจยานํ นามํ. ปริกปฺปาทิวเสน นิปฺผาเทตพฺพสฺส วิธิโนปิ นามํ. เอวญฺหิ สติ ปุริโส จ ปุริโส จ ปุริสาติ จ, ทส จ ทส จ วีสตีติ จ, จตูหิ อธิกา ทส จุทฺทสาติ จ, อฑฺเฒน จตุตฺโถ อฑฺฒุฑฺโฒติ จ อาทีนิ ปจฺจยรหิตปทานิปิ ตทฺธิตปทานีติ คเหตพฺพานิ โหนฺติ, นาญฺญถา. 

เกจิ ปน “ตทฺธิตนฺติ าทิปจฺจยสฺเสว นามนฺติ คเหตฺวา ‘ปุริสา’ติ กเตกเสสปทํ ปจฺจยรหิตตฺตา น ตทฺธิตปทํ สุทฺธนามปทํเยวา”ติ วทนฺติ ตํ น คเหตพฺพํ, ปจฺจย-รหิตสฺสาปิ สโต ปริกปฺปวเสนาปิ อตฺถสฺส คเหตพฺพตฺตา. 

ปุริสาติ ปทสฺส หิ พหุปุริสวาจกตฺตํ ญาเปตุํ ปุริโส จ ปุริโส จ ปุริสาติ เอกเสสํ ปริกปฺเปตฺวา เอกเสสญฺจ กตฺวา พหุวจนนฺตตา กตา; เอโส วิธิ “ตทฺธิต”นฺติ วุจฺจติ. อยญฺจ วิธิ อนิยโม. เอวญฺหิ ปริกปฺปํ อกตฺวา “ปูเรนฺตีติ ปุริสา”ติ คหเณ ตํ ปทํ อิสปจฺจยปรตฺตา กิตนฺตํ นาม ภวติ; ตเทว ปทํ “ปุริ เสนฺตีติ ปุริสา”ติ คหเณ อุปปทสมาสํ ภวติ; อิติ อธิปฺปายนฺตเรน “ปุริสา”ติ ปทสฺส พหุปุริสวาจกตฺตํ ญาเปตุํ พุทฺธิยา ปริกปฺเปตฺวา กเตกเสสํ “ปุริสา”ติ ปทํ ตทฺธิตํเยว ภวติ, น สุทฺธนามํ. ตสฺมา ตทฺธิตนฺติ อปจฺจาทิอตฺเถสุ ปวตฺตานํ าทิปจฺจยานํ นามํ ปริกปฺปาทิวเสน นิปฺผาเทตพฺพสฺส วิธิโนปิ นามํ; กปฺโป ปน ตทาธารตฺตา “ตทฺธิต”นฺติ ปวุจฺจติ. 

ตตฺรายํ วจนตฺโถ– ปจฺจยายตฺตตฺตา สทฺทตฺถาธิคมสฺส เตสํ อปจฺจาทิอตฺถานํ หิตํ อนุกูลนฺติ ตทฺธิตํ. โคตฺตาทิวาจกสทฺทโต วา ภวิตพฺพตฺตา เตสํ วสิฏฺฐสทฺทาทีนํ สทฺทคณานํ หิตํ อนุกูลนฺติ ตทฺธิตํ; าทิปจฺจโย. อถวา อตฺถาธิคมาย ปฏิปนฺนานํ ตทตฺถสาธกตฺตา เตสํ สวนุคฺคหณธารณาภิยุตฺตานํ กุลปุตฺตานํ หิตํ อนุกูลนฺติ ตทฺธิตํ; าทิปจฺจโย เจว ตตฺถ ตตฺถ เอกเสสโลปาเทสาทิกตฺตพฺพวิธิ จ.

Montag, 16. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๔.สมาสกปฺป

๔ - สมาสกปฺป

——————

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ; สมาเสน หิตาวหํ.

สมาสมตฺถสทฺทานํ; สมาสปริทีปนํ.

ตตฺถ ทุวิธํ สมสนํ สทฺทสมสนํ อตฺถสมสนญฺจ. เตสุ สทฺทสมสนํ ลุตฺตสมาเส ลพฺภติ “สมณพฺราหฺมณา”ติอาทีสุ. อตฺถสมสนํ อลุตฺตสมาเส “ทูเรนิทานํ; ควํปติ; อุรสิโลโม; เทวานํปิยติสฺโส”ติอาทีสุ; ตทุภยมฺปิ วา ลุตฺตสมาเส ลพฺภติ “สหาโย เต มหาราช; มหาราชา มรุปฺปิโย”ติอาทีสุ. เอตฺถ จ มรุปฺปโยติ เทวานํปิยติสฺโส.

๖๗๕. นาโมปสคฺคนิปาตานํ ยุตฺตตฺโถ สมาโส.1

เตสํ นาโมปสคฺคนิปาตานํ ปยุชฺชมานปทตฺถานํ โย ยุตฺตตฺโถ; โส สมาสสญฺโญ โหติ. กถินสฺส ทุสฺสํ กถินทุสฺสํ อิจฺจาทิ. นาโมปสคฺคนิปาตานนฺติ กิมตฺถํ ? “เทวทตฺโต ปจตี”ติอาทีสุ อาขฺยาเตน สมาโส น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. ยุตฺตตฺโถติ กิมตฺถํ ? “ภโฏ รญฺโญ; ปุตฺโต เทวทตฺตสฺสา”ติอาทีสุ อญฺญมญฺญานเปกฺเขสุ, “พกสฺส เสตานิ ปตฺตานี”ติ-อาทีสุ อญฺญสาเปกฺเขสุ อยุตฺตตฺถตาย สมาโส น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. สมาสอิจฺจเนน กฺวตฺโถ ? สมาสนฺตคตานมนฺโต กฺวจตฺตํ.

เอตฺถ จาขฺยาตคฺคหณํ กสฺมา น กตํ; นนุ อาขฺยาตสฺมิมฺปิ สมาโส ทิสฺสติ “โย นํ ปาติ รกฺขติ; ตํ โมกฺเขติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหิ โมเจตีติ ปาติโมกฺโข”ติ สนิพฺพจนสฺส ปทสฺส ทสฺสนโตติ ? ตนฺน, ตสฺมิญฺหิ นิพฺพจเน “ปาติโมกฺโข”ติ ปทํ ตทฺธิตวเสน สิชฺฌติ; น สมาสวเสน “เอหิปสฺสิโก”ติ ปทมิวาติ. นนุ จ โภ “เอหิปสฺสิโก”ติ เอตฺถ “เอหิ ปสฺสาติ อิมํ วิธึ อรหตี”ติ อตฺเถ ตทฺธิโต ณิกปจฺจโย ทิสฺสติ; “ปาติโมกฺโข”ติ เอตฺถ ปน ตทฺธิโต ปจฺจโย น ทิสฺสตีติ ? ทิสฺสติ เอว; “ปาติโมกฺโข”ติ เอตฺถ สกตฺเถ ปจฺจโย ภวตีติ. นนุ จ โภ ปจฺจโย อปจฺจเยว ทิสฺสตีติ ? น อปจฺเจเยว, “เตน รตฺต”มิจฺจาทีสฺวตฺเถสุปิ ทิสฺสนโต. “ณ ราคา ตสฺเสทมญฺญตฺเถสุ จา”ติ หิ ลกฺขณํ วุตฺตนฺติ. เอวํ โหตุ; นนุ จ โภ “อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริย”นฺติ เอตฺถ อาขฺยาเตน สมาโส ทิสฺสตีติ ? สจฺจํ; กิญฺจาปิ เอตฺถ อาขฺยาตปทํ ทิสฺสติ; ตถาปิ อิติสทฺเทน สมฺพนฺธตฺตา ตํ ปทํ นิปาตปกฺขิตํ หุตฺวา สมาสปทตฺตมุปคจฺฉตีติ.

Sonntag, 15. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๓.การกกปฺป

๓-การกกปฺป

 ——————

อิโต ปรํ สสมฺพนฺธํ; วิภตฺติปฺปภวํ ฉธา.

การกํ วิภชิตฺวาน; ปวกฺขามิ สุณาถ เม.

๕๔๗. กฺริยานิมิตฺตํ การกํ.

ยํ สาธนสภาวตฺตา มุขฺยวเสน วา อุปจารวเสน วา กฺริยาภินิปฺผตฺติยา นิมิตฺตํ; ตํ วตฺถุ การกํ นาม ภวติ. มุโขฺยปจารวเสน หิ กฺริยํ กโรตีติ การกํ; ตํ ฉพฺพิธํ กตฺตุกมฺมกรณสมฺปทานาปาทาโนกาสวเสน; กฺริยาภิสมฺพนฺธลกฺขณํ การกํ.

๕๔๘. โย กุรุเต โย วา ชายติ; โส กตฺตา.1

โย อตฺตปฺปธาโน หุตฺวา คมนปจนาทิกํ กฺริยํ กุรุเต โย วา ชายติ; โส การโก กตฺตา นาม ภวติ; วาสทฺโท วิกปฺปนตฺโถ. เตน อญฺโญปิ อตฺโถ โยเชตพฺโพ. กฺริยํ กโรตีติ กตฺตา. โส ติวิโธ สุทฺธกตฺตา เหตุกตฺตา กมฺมกตฺตาติ. 

ตตฺถ โย สยเมว กฺริยํ กโรติ; โส สุทฺธกตฺตา นาม. ตํ ยถา ? ปุริโส มคฺคํ คจฺฉติ; สูโท ภตฺตํ ปจติ; ปุตฺโต ชายติ; พุทฺเธน ชิโต มาโร; อุปคุตฺเตน พทฺโธ มาโร. 

โย อญฺญํ กมฺมนิ โยเชติ; โส เหตุกตฺตา นาม. โส หิ ปรสฺส กฺริยาย การณภาเวน หิโนติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ เหตุ; เหตุ จ โส กตฺตา จาติ อตฺเถน เหตุกตฺตา. ยญฺญทตฺโต เทวทตฺตํ คมยติ. 

โย ปน ปรสฺส กฺริยํ ปฏิจจ กมฺมภูโตปิ สุกรตฺตา สยเมว สิชฺฌนฺโต วิย โหติ; โส กมฺมกตฺตา นาม กมฺมญฺจ ตํ กตฺตา จาติ อตฺเถน. สยเมว กโฏ กริยติ; สยเมว ปจิยติ โอทโนติ; เอวํ ติวิธา ภวนฺติ กตฺตาโร. อปิจ อภิหิตกตฺตา อนภิหิตกตฺตา จาติ อิเม เทฺว, เต จ ตโยติ กตฺตูนํ ปญฺจวิธตฺตมปิ อิจฺฉนฺติ ครู. 

Samstag, 14. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๒.นามกปฺป

๒-นามกปฺป

——————

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ; นามกปฺปํ หิตาวหํ

โสตูนํ ปาฏวตฺถาย; ปรเม โสคเต มเต.

๑๙๒. วิสทตฺตาทิสหิตํ ลีนตฺถคมกํ นิปฺผนฺนวจนํ ลิงฺคํ.

วิสทภาวาทิสหิตํ ลีนสฺสตฺถสฺส คมกํ นิปฺผนฺนวจนํ ลิงฺคํ นาม ภวติ. 

พุทฺโธ; ภควา อิจฺจาทิ. 

วุตฺตญฺหิ—

รุกฺโขติ วจนํ ลิงฺคํ; ลิงฺคตฺโถ เตน ทีปิโต.

เอวํ ลิงฺคญฺจ ลิงฺคตฺถํ; ญตฺวา โยเชยฺย ปณฺฑิโตติ.

๑๙๓. วิสทํ ปุลฺลิงฺคํ.

วิสทํ วจนํ ปุลฺลิงฺคํ นาม ภวติ. 

ปุริโส; นปุํสโก; อาโป; มาตุคาโม; ราชา อิจฺจาทิ.

๑๙๔. อวิสทมิตฺถิลิงฺคํ.

เทวตา; รตฺติ; วีสติ อิจฺจาทิ.

๑๙๕. เนววิสทํ นาวิสทํ นปุํสกลิงฺคํ.

จิตฺตํ; รูปํ; กลตฺตํ; อกฺขํ อิจฺจาทิ.

๑๙๖. ธาตุปจฺจยวิภตฺติวชฺชิตมตฺถวํ ลิงฺคํ.

ธาตุปจฺจยวิภตฺตีหิ วิวิชฺชิตํ อตฺถวนฺตํ ปฏิจฺฉนฺนมงฺคํ นิปฺผนฺนปทานํ ปฐมํ ฐเปตพฺพรูปํ ลิงฺคํ นาม ภวติ. ปุริส; จิตฺต; มาลา อิจฺจาทิ.

Freitag, 13. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) ๑.สนฺธิกปฺป

สทฺทนีติปฺปกรณํ

สุตฺตมาลา

——————

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

๑- สนฺธิกปฺป

อิโต ปรํ อุทฺเทสานุกฺกเมน สลกฺขโณ สนฺธินามาทิเภโท ภวิสฺสติ. เอตฺถ จ ลกฺขณนฺติ สุตฺตํ วุจฺจติ. สุตฺตสฺส หิ อเนกานิ นามานิ “สุตฺตํ ลกฺขณํ วจนํ โยโค อารมฺโภ สตฺถํ วากฺยํ ยตน”นฺติ.

เย สนฺธินามาทิปเภททกฺขา;

หุตฺวา วิสิฏฺเฐ ปิฏกตฺตยสฺมึ.

กุพฺพนฺติ โยคํ ปรมานุภาวา;

วินฺทนฺติ กามํ วิวิธตฺถสารํ.

เย ตปฺปเภทมฺหิ อโกวิทา เต;

โยคํ กโรนฺตาปิ สทา มหนฺตํ.

สมฺมูฬฺหภาเวน ปเทสุ กามํ;

สารํ น วินฺทุํ ปิฏกตฺตยสฺมึ.

ตสฺมา อหํ โสตุหิตตฺถมาโท;

สนฺธิปฺปเภทํว ปกาสยิสฺสํ.

สญฺํญาวิธานาทิวิจิตฺรนีตึ;

ธมฺมานุรูปํ กตสาธุนีตึ.

ตตฺถ ยสฺมา สนฺธิกิจฺจํ นาม โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยญฺชเนสุ สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺพราชกิจฺเจสุ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ; ตสฺมา สนฺธินามการกสมาสาทิปฺปเภเทสุ สนฺธิปฺปเภทํว ปฐมํ ปกาสยิสฺสามิ. เอวํ ตํ ปกาเสนฺโต จาหํ ปฐมตรํ วณฺณตฺตมุปคตสฺส สทฺทสฺสุปฺปตฺตึเยว สญฺํญาวิธานาทีหิ สทฺธึ ปกาเสสฺสามิ. อากาสานิลปฺปเภโท เทหนิสฺสิโต จิตฺตชสทฺโทเยว วณฺณตฺตมุปคโต สทฺโท; เอวํภูโต เจส น สกลกาเย อุปฺปชฺชติ. 

Donnerstag, 12. November 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (สุตฺตมาลา) - สุตฺตสงฺคห

สทฺทนีติปฺปกรณํ

สุตฺตมาลา

๑- สนฺธิกปฺป

๑. อปฺปภุเต'กตาลีส สทฺทา วณฺณา.

๒. อกฺขรา จ เต.1

๓. ตตฺถฏฺฐาโท สรา.2

๔. เอกมตฺตา อาทิตติยปญฺจมา รสฺสา.1

๕. อญฺเญ ทฺวิมตฺตา ทีฆา.2

๖. เสสา อฑฺฒมตฺตา พฺยญฺชนา.3

๗. กาทิมนฺตา วคฺคา.4

๘. อํ อึ อุมิติ ยํ สรโต ปรํ สุยฺยติ. ตํ นิคฺคหีตํ.1

๙. ทีโฆ ครุ.1

๑๐. สํโยคปโร จ.2

๑๑. อสฺสรพฺยญฺชนโต ปุพฺพรสฺโส จ.

๑๒. รสฺโส ลหุ.

๑๓. อสํโยคปโร จ.

Montag, 12. Oktober 2015

ปัญหาและเฉลย (วิชาธรรม) ธรรมศึกษาชั้นตรี ปี ๒๕๔๓

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  ธรรมศึกษาชั้นตรี
สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓
วันเสาร์ ที่  ๑๘  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓
----------------------------------------
๑. บุคคลทำอะไรมักผิดพลาด เพราะขาดธรรมข้อใด ?
ก. หิริ – โอตตัปปะ
ข. สติปัฏฐาน
ค. สติ – สัมปชัญญะ
ง. อริยสัจ


๒. คนดี ท่านว่ามีอะไรเป็นเครื่องหมาย ?
ก. ศีล
ข. กตัญญูกตเวที
ค. สมาธิ
ง. บุญกิริยาวัตถุ

Sonntag, 11. Oktober 2015

ปัญหาและเฉลย (วิชาธรรม) ธรรมศึกษาชั้นตรี ปี ๒๕๔๘

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.. ๒๕๔๘
คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
....................................................... 
. ผู้มีความรอบคอบ ทำงานมีประสิทธิภาพ เพราะมีธรรมอะไร ?
. ธรรมมีอุปการะมาก
. ธรรมเป็นโลกบาล
. ธรรมอันทำให้งาม
. ธรรมเป็นเครื่องเจริญ


. มียศอย่าประมาท มีอำนาจอย่ามัวเมา” สอนให้มีธรรมอะไร ?
. ขันติ
. สติ
. โสรัจจะ
. สัมปชัญญะ

Dienstag, 25. August 2015

พจนานุกรมกริยาอาขตยาต (ฉบับธรรมเจดีย์)

พจนานุกรมธาตุ เรียงตามหมวดธาตุ


๑ หมวด ภู ธาตุ

อกฺ คติยํ
ไป เดิน เดินไป ดำเนิน ดำเนินไป ถึง บรรลุ อกติ. น. อกฺข (ปุ.) คะแนน เกวียน กลุ่ม,ดุม,เพลา,เพลารถ. อกฺข อกฺขก (ปุ) ไหปลาร้า,รากขวัญ,กระดูกคร่อมต้นคอ.

อกฺ กุฎิลคติยํ
คด โค้งโกง งอ บิด บิดเป็นเกลียว ก. อกติ น. อกฺข (ปุ.) ลูกบาสก์ ลูกสกา,ลูกขลุบ,ลูกเต๋า,การพนัน.

อกฺขฺ ทสฺสเน
เห็น ดู แล แลดู มอง. ก. อกฺขติ. น. อกฺข. น. อกฺข. (ปุ.) ศาล (สถานที่ตัดสินคดี). อกฺข (นปุ) ตา,ดวงตา,อินทรีย์.

อกฺขฺ อพฺยตฺตทสฺสเน
เห็นแจ้ง เห็นแจ่มแจ้ง ฯลฯ ก. อกฺขติ. น. อกฺข (ปุ.) ศาล. อกฺขิ (นปุ) ตา.ดวงตา,นัยน์ตา (หมายเอาลูกตาที่กลอกไปมา)

Samstag, 22. August 2015

พจนานุกรมไทย-บาฬี (ฉบับวัดสวนดอก เชียงใหม่)

๑ ครึ่ง    ทิยฑฺฒ ค. ทิวฑฺฒ ค.
๑ ใน ๑๖    กลา อิต. 
๑ ใน ๔ ของคาถา    ปาท ป.
๑ วัน ๑ คืน    อโหรตฺต ป.
๑ วัน    อห ป. นป.
๑ ส่วน ๔    ปาท ป.
๑    เอก
๑,๐๐๐    สหสฺสํ
๑,๐๐๐,๐๐๐    ทสสตสหสฺสํ
๑๐ ขณลยะ    มุหุตฺต ป.
๑๐ ขณะ    ลย ป.
๑๐ ลยะ    ขณลย ป.
๑๐ ล้าน    โกฏิ อิต.
๑๐    ทส
๑๐,๐๐๐    ทสสหสฺสํ
๑๐๐ ล้าน    ปโกฏิ อิต.
๑๐๐    โกฏิปโกฏิ อิต.
๑๐๐    สตํ

Samstag, 27. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๑๔. อตฺถตฺติกวิภาค

๑๔. อตฺถตฺติกวิภาค


ภูธาตุ ตาย นิปฺผนฺน-รูปญฺจาติ อิทํ ทฺวยํ;

กตฺวา ปธานมมฺเหหิ, สพฺพเมตํ ปปญฺจิตํฯ

ภวติสฺส วสา ทานิ, วกฺขามตฺถตฺติกํ วรํ;

อตฺถุทฺธาโร ตุมนฺตญฺจ, ตฺวาทิยนฺตํ ติกํ อิธฯ

ตสฺมา ตาว ภูธาตุโต ปวตฺตสฺส ภูตสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาโร นียเต –

ขนฺธสตฺตามนุสฺเสสุ, วิชฺชมาเน จ ธาตุยํ;

ขีณาสเว รุกฺขาทิมฺหิ, ภูตสทฺโท ปวตฺตติฯ

อุปฺปาเท จาปิ วิญฺเญยฺโย, ภูตสทฺโท วิภาวินา;

วิปุเล โสปสคฺโคยํ, หีฬเน วิธเมปิ จ;

ปราชเย เวทิยเน, นาเม ปากฎตาย จฯ

วุตฺตญฺเหตํ – ภูตสทฺโท ปญฺจกฺขนฺธามนุสฺสธาตุวิชฺชมานขีณาสวสตฺตรุกฺขาทีสุ ทิสฺสติฯ ‘‘ภูตมิทนฺติ ภิกฺขเว สมนุปสฺสถา’’ติอาทีสุ หิ อยํ ปญฺจกฺขนฺเธสุ ทิสฺสติฯ ‘‘ยานีธ ภูตานิ สมาคตานี’’ติ เอตฺถ อมนุสฺเสฯ ‘‘จตฺตาโร โข ภิกฺขุ มหาภูตา เหตู’’ติ เอตฺถ ธาตูสุฯ ‘‘ภูตสฺมึ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทีสุ วิชฺชมาเนฯ ‘‘โย จ กาลฆโส ภูโต’’ติ เอตฺถ ขีณาสเวฯ ‘‘สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ, ภูตา โลเก สมุสฺสย’’นฺติ เอตฺถ สตฺเตฯ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตายา’’ติ เอตฺถ รุกฺขาทีสูติฯ มูลปริยายสุตฺตฎฺฐกถาย วจนํ อิทํฯ ฎีกายมาทิสทฺเทน อุปฺปาทาทีนิ คยฺหเรฯ วุตฺตญฺเหตํ – ‘‘ชาตํ ภูตํ สงฺขต’’นฺติอาทีสุ ภูตสทฺโท อุปฺปาเท ทิสฺสติฯ สอุปสคฺโค ปน ‘‘ปภูตมริโย ปกโรติ ปุญฺญ’’นฺติอาทีสุ วิปุเลฯ ‘‘เยภุยฺเยน ภิกฺขูนํ ปริภูตรูโป’’ติอาทีสุ หีฬเนฯ ‘‘สมฺภูโต สาณวาสี’’ติอาทีสุ ปญฺญตฺติยํฯ ‘‘อภิภูโต มาโร วิชิโต สงฺคาโม’’ติอาทีสุ วิธมเนฯ ‘‘ปราภูตรูโปโข อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต’’ติอาทีสุ ปราชเยฯ ‘‘อนุภูตํ สุขทุกฺข’’นฺติอาทีสุ เวทิยเนฯ ‘‘วิภูตํ ปญฺญายา’’ติอาทีสุ ปากฎีกรเณ ทิสฺสติ, เต สพฺเพ ‘‘รุกฺขาทีสู’’ติอาทิสทฺเทน สงฺคหิตาติ ทฎฺฐพฺพาติฯ

Freitag, 26. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๑๓. สวินิจฺฉยสงฺขฺยานามนามิกปทมาลา

๑๓. สวินิจฺฉยสงฺขฺยานามนามิกปทมาลา


อิโต ปรํ ปวกฺขามิ, สงฺขฺยานามิกปนฺติโย;

ภูธาตุเชหิ รูเปหิ, อญฺเญหิ จุปโยชิตุํฯ

ยา หิ สา เหฎฺฐา อมฺเหหิ เอก ทฺวิติ จตุอิจฺเจเตสํ สงฺขฺยาสพฺพนามานํ นามิกปทมาลา กถิตา, ตํ ฐเปตฺวา อิธ อสพฺพนามานํ ปญฺจ ฉ สตฺตาทีนํ สงฺขฺยานามานํ นามิกปทมาลา ภูธาตุมเยหิ อญฺเญหิ จ รูเปหิ โยชนตฺถํ วุจฺจเต –

ปญฺจ, ปญฺจหิ, ปญฺจภิ, ปญฺจนฺนํ, ปญฺจสุฯ สตฺตนฺนํ วิภตฺตีนํ วเสน เญยฺยํฯ ‘‘ปญฺจ ภูตา, ปญฺจ อภิภวิตาโร, ปญฺจ ปุริสา, ปญฺจ ภูมิโย, ปญฺจ กญฺญาโย, ปญฺจ ภูตานิ, ปญฺจ จิตฺตานี’’ติอาทินา สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํฯ ฉ, ฉหิ, ฉภิ, ฉนฺนํ, ฉสุ, ฉสฺสุ อิติปิฯ ‘‘ฉสฺสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสฺสุ กฺรุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ หิ ปาฬิฯ สตฺต, สตฺตหิ, สตฺตภิ, สตฺตนฺนํ, สตฺตสุฯ อฎฺฐ, อฎฺฐหิ, อฎฺฐภิ, อฎฺฐนฺนํ, อฎฺฐสุฯ นว, นวหิ, นวภิ, นวนฺนํ, นวสุฯ ทส, ทสหิ, ทสภิ, ทสนฺนํ, ทสสุฯ เอวํ เอกาทสฯ ทฺวาทส, พารสฯ เตรส, เตทส, เตฬสฯ จตุทฺทส, จุทฺทสฯ ปญฺจทส, ปนฺนรสฯ โสฬสฯ สตฺตรสฯ อฎฺฐารส, อฎฺฐารสหิ, อฎฺฐารสภิ, อฎฺฐารสนฺนํ, อฎฺฐารสสุฯ สพฺพเมตํ พหุวจนวเสน คเหตพฺพํฯ

เอกูนวีสติ, เอกูนวีสํ อิจฺจาทิปิฯ เอกูนวีสาย, เอกูนวีสายํ, เอกูนวีส ภิกฺขู ติฎฺฐนฺติ, เอกูนวีสํ ภิกฺขู ปสฺสติ, เอวํ ‘‘กญฺญาโย จิตฺตานี’’ติ จ อาทินา โยเชตพฺพํฯ เอกูนวีสาย ภิกฺขูหิ ธมฺโม เทสิโต, เอกูนวีสาย กญฺญาหิ กตํ, เอกูนวีสาย จิตฺเตหิ กตํ, เอกูนวีสาย ภิกฺขูนํ จีวรํ เทติ, เอกูนวีสาย กญฺญานํ ธนํ เทติ, เอกูนวีสาย จิตฺตานํ รุจฺจติ, เอกูนวีสาย ภิกฺขูหิ อเปติ ฯ เอวํ กญฺญาหิ จิตฺเตหิฯ เอกูนวีสาย ภิกฺขูนํ สนฺตกํ, เอวํ กญฺญานํ จิตฺตานํฯ เอกูนวีสายํ ภิกฺขูสุ ปติฎฺฐิตํฯ เอวํ ‘‘กญฺญาสุ จิตฺเตสู’’ติ โยเชตพฺพํฯ เอกูนวีสติ, เอกูนวีสติํ, เอกูนวีสติยา, เอกูนวีสติยํฯ

Dienstag, 23. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๑๒. สพฺพนามตํสทิสนามนามิกปทมาลา

๑๒. สพฺพนามตํสทิสนามนามิกปทมาลา


อิโต ปรํ ปวกฺขามิ, สพฺพนามญฺจ ตสฺสมํ;

นามญฺจ โยชิตํ นานา-นาเมเหว วิเสสโตฯ

ยานิ โหนฺติ ติลิงฺคานิ, อนุกูลานิ ยานิ จ;

ติลิงฺคานํ วิเสเสน, ปทาเนตานิ นามโตฯ

‘‘สพฺพสาธารณกานิ, นามานิ’’จฺเจว อตฺถโต;

สพฺพนามานิ วุจฺจนฺติ, สตฺตวีสติ สงฺขโตฯ

เตสุ กานิจิ รูเปหิ, เสสาญฺเญหิ จ ยุชฺชเร;

กานิจิ ปน สเหว, เอเตสํ ลกฺขณํ อิทํฯ

เอตสฺมา ลกฺขณา มุตฺตํ, น ปทํ สพฺพนามิกํ;

ตสฺมาตีตาทโย สทฺทา, คุณนามานิ วุจฺจเรฯ

สพฺพนามานิ นาม – สพฺพ กตร กตม อุภย อิตร อญฺญอญฺญตร อญฺญตม ปุพฺพ ปร อปร ทกฺขิณ อุตฺตร อธร ย ต เอต อิม อมุ กึ เอก อุภทฺวิ ติ จตุ ตุมฺห อมฺห อิจฺเจตานิ สตฺตวีสฯ

เอเตสุ สพฺพสทฺโท สกลตฺโถ, โส จ สพฺพสพฺพาทิวเสน เญยฺโยฯ กตร กตมสทฺทา ปุจฺฉนตฺถาฯ อุภยสทฺโท ทฺวิอวยวสมุทายวจโนฯ อิตรสทฺโท วุตฺตปฎิโยคีวจโนฯ อญฺญสทฺโท อธิคตาปรวจโนฯ อญฺญตร อญฺญตมสทฺทา อนิยมตฺถาฯ ปุพฺพาทโย อุตฺตรปริยนฺตา ทิสากาลาทิววตฺถาวจนาฯ ตถา หิ ปุพฺพ ปรา ปร ทกฺขิณุตฺตรสทฺทา ปุลฺลิงฺคตฺเต ยถารหํ กาลเทสาทิวจนา, อิตฺถิลิงฺคตฺเต ทิสาทิวจนา, นปุํสกลิงฺคตฺเต ฐานาทิวจนาฯ อธรสทฺโทปิ เหฎฺฐิมตฺถวาจโก ววตฺถาวจโนเยว, โส จ ติลิงฺโค ‘‘อธโร ปตฺโตฯ อธรา อรณี, อธรํ ภาชน’’มิติ, ยํสทฺโท อนิยมตฺโถฯ ตํสทฺโท ปรมฺมุขาวจโนฯ เอตสทฺโท สมีปวจโนฯ อิมสทฺโท อจฺจนฺตสมีปวจโนฯ อมุสทฺโท ทูรวจโนฯ กึสทฺโท ปุจฺฉนตฺโถฯ เอกสทฺโท สงฺขาทิวจโนฯ วุตฺตญฺหิ –

Montag, 22. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๑๑. วาจฺจาภิเธยฺยลิงฺคาทิปริทีปนนามิกปทมาลา

๑๑. วาจฺจาภิเธยฺยลิงฺคาทิปริทีปนนามิกปทมาลา


วาจฺจาภิเธยฺยลิงฺคาทิ-วเสนปิ อิโต ปรํ;

ภาสิสฺสํ ปทมาลาโย, ภาสิตสฺสานุรูปโตฯ

ตตฺถ วาจฺจลิงฺคานีติ อปฺปธานลิงฺคานิ, คุณนามสงฺขาตานิ วา ลิงฺคานิฯ อภิเธยฺยลิงฺคานีติ ปธานลิงฺคานิ, คุณีปทสงฺขาตานิ วา ลิงฺคานิฯ ยสฺมา ปน เตสุ วาจฺจลิงฺคานิ นาม อภิเธยฺยลิงฺคานุวตฺตกานิ ภวนฺติ, ตสฺมา สพฺพานิ ภูธาตุมยานิ จ วาจฺจลิงฺคานิ อภิเธยฺยลิงฺคานุรูปโต โยเชตพฺพานิฯ เตสํ ภูธาตุมยานิ วาจฺจลิงฺคานิ สรูปโต นามิกปทมาลาย อโยชิตานิปิ ตตฺถ ตตฺถ นยโต โยชิตานิ , ตสฺมา น ทานิ ทสฺเสสฺสามฯ อภูธาตุ มยานิปิ กิญฺจาปิ นยโต โยชิตานิ, ตถาปิ โสตารานํ ปโยเคสุ โกสลฺลชนนตฺถํ กถยาม, นามิกปทมาลญฺจ เนสํ ทสฺเสสฺสาม กิญฺจิ ปโยคํ วทนฺตาฯ

ทีโฆ รสฺโส นีโล ปีโต, สุกฺโก กณฺโห เสฏฺโฐ ปาโป;

สทฺโธ สุทฺโธ อุจฺโจ นีโจ, กโตตีโต อิจฺจาทีนิฯ

ทีฆา ชาครโต รตฺติ, ทีฆํ สนฺตสฺส โยชนํ;

ทีโฆ พาลาน สํสาโร, สทฺธมฺมํ อวิชานตํฯ

ทีโฆ, ทีฆาฯ ทีฆํ, ทีเฆฯ ทีเฆน, ทีเฆหิ, ทีเฆภิฯ ทีฆสฺส, ทีฆานํฯ ทีฆา, ทีฆสฺมา, ทีฆมฺหา, ทีเฆหิ, ทีเฆภิฯ ทีฆสฺส, ทีฆานํฯ ทีเฆ, ทีฆสฺมึ, ทีฆมฺหิ, ทีเฆสุฯ โภทีฆ, ภวนฺโต ทีฆาฯ ‘‘ทีฆาติ มํ ปกฺโกเสยฺยาถา’’ติ อิทเมตฺถ นิทสฺสนํฯ

ทีฆา, ทีฆา, ทีฆาโยฯ ทีฆํ, ทีฆา, ทีฆาโยฯ ทีฆายฯ เสสํ กญฺญานเยน เญยฺยํฯ

ทีฆํ, ทีฆานิ, ทีฆาฯ ทีฆํ, ทีฆานิ, ทีเฆฯ ทีเฆนฯ เสสํ จิตฺตนเยน เญยฺยํฯ รสฺสาทีนิ จ เอวเมว วิตฺถาเรตพฺพานิฯ อยํ วาจฺจลิงฺคานํ นามิกปทมาลา, ‘‘คุณนามานํ นามิกปทมาลา’’ติ วตฺตุํ วฎฺฎติฯ

Freitag, 19. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๑๐. ลิงฺคตฺตยมิสฺสกนามิกปทมาลา

๑๐. ลิงฺคตฺตยมิสฺสกนามิกปทมาลา


อธิกูนกโต เจก-กฺขรโต จ อิโต ปรํ;

ตีณิ ลิงฺคานิ มิสฺเสตฺวา, ปทมาลมนากุลํฯ

นานาสุขุมสงฺเกต-คเตสฺวตฺเถสุ วิญฺญุนํ;

คมฺภีรพุทฺธิจารตฺถํ, ปวกฺขามิ ยถาพลํฯ

อิตฺถี ถี จ ปภา ภา จ, คิรา รา ปวนํ วนํ;

อุทกญฺจ ทกํ กญฺจ, วิตกฺโก อิติ จาทโยฯ

ภู ภูมิ เจว อรญฺญํ, อรญฺญานีติ จาทโย;

ปญฺญา ปญฺญาณํ ญาณญฺจ, อิจฺจาที จ ติธา สิยุํฯ

โก วิ สา เจว ภา รา จ, ถี ธี กุ ภู ตเถว กํ;

ขํ โค โม มา จ สํ ยํ ตํ, กิมิจฺจาที จ เอกิกาติฯ

อยํ ลิงฺคตฺตยมิสฺสโก นามิกปทมาลาอุทฺเทโสฯ ตตฺร อิตฺถี, อิตฺถี, อิตฺถิโยฯ อิตฺถึ…เป.… โภติโย อิตฺถิโยฯ

ถี ถี, ถิโยฯ ถึ, ถี, ถิโยฯ ถิยา, ถีหิ, ถีภิฯ ถิยา, ถีนํฯ ถิยา, ถีหิ, ถีภิฯ ถิยา, ถีนํฯ ถิยา, ถิยํ, ถีสุฯ โภติ ถิ, โภติโย ถี, โภติโย ถิโยฯ เอตฺถ –

‘‘กุกฺกุฎา มณโย ทณฺฑา, ถิโย จ ปุญฺญลกฺขณา;

อุปฺปชฺชนฺติ อปาปสฺส, กตปุญฺญสฺส ชนฺตุโน;

ถิยา คุยฺหํ น สํเสยฺย; ถีนํ ภาโว ทุราชาโน’’ติ

อาทีนิ นิทสฺสนปทานิฯ

Donnerstag, 18. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๙. นปุํสกลิงฺคนามิกปทมาลา

๙. นปุํสกลิงฺคนามิกปทมาลา


อถ ปุพฺพาจริยมตํ ปุเรจรํ กตฺวา นิคฺคหีตนฺตนปุํสกลิงฺคานํ ‘‘ภูตํ’’อิจฺจาทิกสฺส ปกติรูปสฺส นามิกปทมาลํ วกฺขาม –

จิตฺตํ, จิตฺตานิฯ จิตฺตํ, จิตฺตานิฯ จิตฺเตน, จิตฺเตหิ, จิตฺเตภิฯ จิตฺตสฺส, จิตฺตานํฯ จิตฺตา, จิตฺตสฺมา, จิตฺตมฺหา, จิตฺเตหิ, จิตฺเตภิฯ จิตฺตสฺส, จิตฺตานํฯ จิตฺเต, จิตฺตสฺมึ, จิตฺตมฺหิ, จิตฺเตสุฯ โภจิตฺต, โภจิตฺตา, ภวนฺโต จิตฺตานิฯ ยมกมหาเถรมตํฯ

เอตฺถ กิญฺจาปิ ‘‘จิตฺตา’’ติ ปจฺจตฺตพหุวจนํ ‘‘จิตฺเต’’ติ อุปโยคพหุวจนญฺจ อนาคตํ, ตถาปิ ตตฺถ ตตฺถ อญฺเญสมฺปิ ตาทิสานํ นิคฺคหีตนฺตนปุํสกรูปานํ ทสฺสนโต วิภงฺคปาฬิยญฺจ ‘‘ฉ จิตฺตา อพฺยากตา’’ติอาทิทสฺสนโต คเหตพฺพเมว , ตสฺมา ‘‘จิตฺตํ, จิตฺตานิ, จิตฺตาฯ จิตฺตํ, จิตฺตานิ, จิตฺเต’’ติ กโม เวทิตพฺโพฯ นิคฺคหีตนฺตานญฺหิ นปุํสกลิงฺคานํ กตฺถจิ โอกา รนฺตปุลฺลิงฺคานํ วิย ปจฺจตฺโตปโยคพหุวจนานิ ภวนฺติฯ ตานิ จ ปุลฺลิงฺเคน วา สลิงฺเคน วา อลิงฺเคน วา สทฺธึ สมานาธิกรณานิ หุตฺวา เกวลานิ วา ปาวจเน สญฺจรนฺติฯ อตฺร ‘‘จตฺตาโร สติปฎฺฐานาฯ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาฯ สพฺเพ มาลา อุเปนฺติมํฯ ยสฺส เอเต ธนา อตฺถิฯ จตฺตาโร มหาภูตาฯ ตีณินฺทฺริยาฯ เทฺว อินฺทฺริยาฯ ทสินฺทฺริยาฯ เทฺว มหาภูเต นิสฺสาย เทฺว มหาภูตา, ปญฺจ วิญฺญาณา, จตุโร องฺเค อธิฎฺฐาย, เสมิ วมฺมิกมตฺถเก, รูปา สทฺทา รสา คนฺธาฯ รูเป จ สทฺเท จ อโถ รเส จฯ จกฺขุญฺจ ปฎิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณ’’นฺติ เอวมาทโย อเนกสตา ปาฬิปฺปเทสา ทฎฺฐพฺพาฯ

เอตฺถ ปน ‘‘สติปฎฺฐานา’’ติอาทีนิ ปทานิ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตานีติ น คเหตพฺพานิ สติปฎฺฐานสทฺทาทีนํ ปฐเมกวจนฎฺฐาเน โอกา รนฺตปุลฺลิงฺคภาเวน ฐิตภาวสฺส อทสฺสนโตฯ ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทีนิเยว ปน ปทานิ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตานีติ คเหตพฺพานิ นิโยคา นิคฺคหีตนฺเตหิ นปุํสกลิงฺเคหิ สติปฎฺฐานสทฺทาทีหิ สทฺธึ เตสํ สมานาธิกรณภาวสฺส ทสฺสนโตติฯ

Dienstag, 16. Juni 2015

ปทมัญชรี ตอนที่ 22 : มาตุ (แม่)

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๘. อิตฺถิลิงฺคนามิกปทมาลา

๘. อิตฺถิลิงฺคนามิกปทมาลา


อถ อิตฺถิลิงฺเคสุ อาการนฺตสฺส ภูธาตุมยสฺส ปกติรูปภูตสฺส ภาวิกาสทฺทสฺส นามิกปทมาลายํ วตฺตพฺพายมฺปิ ปสิทฺธสฺส ตาว กญฺญาสทฺทสฺส นามิกปทมาลํ วกฺขาม –

กญฺญา, กญฺญา, กญฺญาโยฯ กญฺญํ, กญฺญา, กญฺญาโยฯ กญฺญาย, กญฺญาหิ, กญฺญาภิฯ กญฺญาย, กญฺญานํฯ กญฺญาย, กญฺญาหิ, กญฺญาภิฯ กญฺญาย, กญฺญานํฯ กญฺญาย, กญฺญายํ, กญฺญาสุฯ โภติ กญฺเญ, โภติโย กญฺญา, กญฺญาโยฯ อยมมฺหากํ รุจิฯ

เอตฺถ ‘‘กญฺญา’’ติ เอกวจนพหุวจนวเสน วุตฺตํ, นิรุตฺติปิฎเก พหุวจนวเสน วุตฺโต นโย นตฺถิฯ ตถา หิ ตตฺถ ‘‘สทฺธา ติฎฺฐติ, สทฺธาโย ติฎฺฐนฺติฯ สทฺธํ ปสฺสติ, สทฺธาโย ปสฺสตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ‘‘สทฺธา’’ติ พหุวจนํ น อาคตํฯ กิญฺจาปิ นาคตํ, ตถาปิ ‘‘พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, สิวิกญฺญา สมาคตาฯ อเหตุ อปฺปจฺจยา ปุริสสฺส สญฺญา อุปฺปชฺชนฺติปิ นิรุชฺฌนฺติปี’’ติอาทิปาฬิทสฺสนโต พาหากญฺญา สญฺญาสทฺทาทีนํ พหุวจนตา คเหตพฺพาฯ จูฬนิรุตฺติยํ ‘‘โภติ กญฺเญ, โภติ กญฺญา’’ติ เทฺว เอกวจนานิ วตฺวา ‘‘โภติโย กญฺญาโย’’ติ เอกํ พหุวจนํ วุตฺตํฯ นิรุตฺติปิฎเก ปน ‘‘โภติ สทฺธา’’ติ เอกวจนํ วตฺวา ‘‘โภติโย สทฺธาโย’’ติ เอกํ พหุวจนํ วุตฺตํฯ มยํ ปเนตฺถ ‘‘เอหิ พาเล ขมาเปหิ, กุสราชํ มหพฺพลํฯ ผุสฺสตี วรวณฺณาเภฯ เอหิ โคเธ นิวตฺตสฺสู’’ติอาทิปาฬิทสฺสนโต ‘‘โภติ กญฺเญ, โภติโย กญฺญา, กญฺญาโย’’ติ เอวํปการานิเยว อาลปเนกวจนพหุวจนานิ อิจฺฉามฯ เอตฺถ ‘‘โภติ กญฺเญ’’ติ อยํ นโย อมฺมาทีสุ มาตาทีสุ จ น ลพฺภติฯ

ภาวิกา, ภาวิกา, ภาวิกาโยฯ ภาวิกํ, ภาวิกา, ภาวิกาโยฯ ภาวิกาย, ภาวิกาหิ, ภาวิกาภิฯ ภาวิกาย, ภาวิกานํฯ ภาวิกาย, ภาวิกาหิ, ภาวิกาภิฯ ภาวิกาย, ภาวิกานํฯ ภาวิกาย, ภาวิกายํ, ภาวิกาสุฯ โภติ ภาวิเก, โภติโย ภาวิกา, ภาวิกาโยฯ

เอวํ เหฎฺฐุทฺทิฎฺฐานํ สพฺเพสํ ภูธาตุมยานํ ‘‘ภาวนา วิภาวนา’’อิจฺเจวมาทีนํอาการนฺตปทานํ อญฺเญสญฺจาการนฺตปทานํ นามิกปทมาลา โยเชตพฺพาฯ เอตฺถญฺญานิ อาการนฺตปทานิ นาม สทฺธาทีนิฯ

Sonntag, 14. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๗. นิคฺคหีตนฺตปุลฺลิงฺคนามิกปทมาลา

๗. นิคฺคหีตนฺตปุลฺลิงฺคนามิกปทมาลา


อถ ปุพฺพาจริยมตํ ปุเรจรํ กตฺวา นิคฺคหีตนฺตปุลฺลิงฺคานํ ภวนฺต กโรนฺตอิจฺจาทิกสฺส ปกติรูปสฺส นามิกปทมาลํ วกฺขาม –

คจฺฉํ มหํ จรํ ติฎฺฐํ, ททํ ภุญฺชํ สุณํ ปจํ;

ชยํ ชรํ จวํ มียํ, สรํ กุพฺพํ ชปํ วชํฯ

คจฺฉํ, คจฺฉนฺโต, คจฺฉนฺตาฯ คจฺฉนฺตํ, คจฺฉนฺเตฯ คจฺฉตา, คจฺฉนฺเตหิ, คจฺฉนฺเตติฯ คจฺฉโต, คจฺฉนฺตสฺส, คจฺฉนฺตานํ, คจฺฉตํฯ คจฺฉตา, คจฺฉนฺเตหิ, คจฺฉนฺเตภิฯ คจฺฉโต, คจฺฉนฺตสฺส, คจฺฉนฺตานํ, คจฺฉตํฯ คจฺฉติ, คจฺฉนฺเตสุฯ โภคจฺฉํ, โภคจฺฉา, ภวนฺโต คจฺฉนฺโตฯ

คจฺฉาทีนิ อญฺญานิ จ ตํสทิสานํ เอวํ เญยฺยานีติ ยมกมหาเถรมตํฯ กิญฺจาเปตฺถ ตติเยกวจนฎฺฐานาทีสุ ‘‘คจฺฉนฺเตน, คจฺฉนฺตา, คจฺฉนฺตสฺมา, คจฺฉนฺตมฺหา, คจฺฉนฺตสฺมึ, คจฺฉนฺตมฺหี’’ติ อิมานิ ปทานิ นาคตานิ, ตถาปิ ตตฺถ ตตฺถ ปโยคทสฺสนโต คเหตพฺพานิฯ

ตตฺร ยมกมหาเถเรน อาลปนวจนฎฺฐาเนเยว ‘‘คจฺฉนฺโต, มหนฺโต, จรนฺโต’’ติอาทีนํ พหุวจนตฺตํ กถิตํ, ปจฺจตฺตวจนฎฺฐาเน เอกวจนตฺตํฯ เกหิจิ ปน ปจฺจตฺตวจนฎฺฐาเน เอกวจนพหุวจนตฺตํ, อาลปนวจนฎฺฐาเน พหุวจนตฺตํเยว กถิตํฯ ‘‘คจฺฉํ, มหํ, จร’’นฺติอาทีนํ ปน อาลปนฎฺฐาเน เอกวจนตฺตํฯ มยํ ปน พุทฺธวจเน อเนกาสุ จาฎฺฐกถาสุ ‘‘คจฺฉนฺโต, มหนฺโต’’ติอาทีนํ พหุวจนปฺปโยคานํ ‘‘คจฺฉํ, มหํ’’อิจฺจาทีนญฺจ สานุสาราลปเนกวจนปฺปโยคานํ อทสฺสนโต ‘‘คจฺฉนฺโต ภารทฺวาโชฯ ส คจฺฉํ น นิวตฺตติฯ มหนฺโต โลกสนฺนิวาโส’’ติอาทีนํ ปน ปจฺจตฺเตกวจนปฺปโยคานญฺเญว ทสฺสนโต ตาทิสานิ รูปานิ อนิชฺฌานกฺขมานิ วิย มญฺญามฯ นิรุตฺติปิฎเก ปจฺจตฺตาลปนฎฺฐาเน ‘‘มหนฺโต, ภวนฺโต, จรนฺโต’’ติอาทีนํ พหุวจนตฺตเมว กถิตํ, น เอกวจนตฺตํฯ ตถา หิ ตตฺถ ‘‘มหํ ภวํ จรํ ติฎฺฐ’’นฺติ คาถํ วตฺวา ‘‘มหํ ติฎฺฐติ, มหนฺโต ติฎฺฐนฺตี’’ติ จ, ‘‘โภมหา, ภวนฺโต มหนฺโต’’ติ จ, ‘‘ภวํ ติฎฺฐติ, ภวนฺโต ติฎฺฐนฺตี’’ติ จ อาทิ วุตฺตํฯ

Freitag, 12. Juni 2015

สทฺทนีติปฺปกรณํ (ปทมาลา) ๖. อาการนฺตปุลฺลิงฺคนามิกปทมาลา

๖. อาการนฺตปุลฺลิงฺคนามิกปทมาลา


อถ ปุพฺพาจริยมตํ ปุเรจรํ กตฺวา อาการนฺตปุลฺลิงฺคานํ ปกติรูเปสุ อภิภวิตุ อิจฺเจตสฺส ปกติรูปสฺส นามิกปทมาลํ วกฺขาม – สตฺถา, สตฺถา, สตฺถาโรฯ สตฺถารํ, สตฺถาโรฯ สตฺถารา, สตฺถาเรหิ, สตฺถาเรภิฯ สตฺถุ, สตฺถุสฺส, สตฺถุโน, สตฺถานํ, สตฺถารานํฯ สตฺถารา, สตฺถาเรหิ, สตฺถาเรภิฯ สตฺถุ, สตฺถุสฺส, สตฺถุโน, สตฺถานํ, สตฺถารานํฯ สตฺถริ, สตฺถาเรสุฯ โภสตฺถ, โภสตฺถา, ภวนฺโต สตฺถาโรฯ

อยํ ยมกมหาเถเรน กตาย จูฬนิรุตฺติยา อาคโต นโยฯ เอตฺถ จ นิรุตฺติปิฎเก จ กจฺจายเน จ ‘‘สตฺถุนา’’ติ ปทํ อนาคตมฺปิ คเหตพฺพเมว ‘‘ธมฺมราเชน สตฺถุนา’’ติ ทสฺสนโตฯ ‘‘สตฺถารา, สตฺถุนา, สตฺถาเรหิ, สตฺถาเรภี’’ติ กโม จ เวทิตพฺโพฯ เอตฺถ จ อสติปิ อตฺถวิเสเส พฺยญฺชนวิเสสวเสน, พฺยญฺชนวิเสสาภาเวปิ อตฺถนานตฺถตาวเสน สทฺทนฺตรสนฺทสฺสนํ นิรุตฺติกฺกโมติ ‘‘สตฺถา’’ติ ปทํ เอกวจนพหุวจนวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ นิรุตฺติปิฎกาทีสุ ปน ‘‘สตฺถา’’ติ ปฐมาพหุวจนํ น อาคตํฯ กิญฺจาปิ น อาคตํ, ตถาปิ ‘‘อวิตกฺกิตา มจฺจุมุปพฺพชนฺตี’’ติ ปาฬิยํ ‘‘อวิตกฺกิตา’’ติ ปฐมาพหุวจนสฺส ทสฺสนโต ‘‘สตฺถา’’ติ ปทสฺส ปฐมาพหุวจนตฺตํ อวสฺสมิจฺฉิตพฺพํฯ ตถา วตฺตา, ธาตา, คนฺตาทีนมฺปิ ตคฺคติกตฺตาฯ ตถา นิรุตฺติปิฎเก ‘‘สตฺถาเร’’ติ ทุติยาพหุวจนญฺจ ‘‘สตฺถุสฺส, สตฺถาน’’นฺติ จตุตฺถีฉฏฺเฐกวจนพหุวจนานิ จ อาคตานิ, จูฬนิรุตฺติยํ ปน น อาคตานิฯ ตตฺถ ‘‘มาตาปิตโร โปเสติฯ ภาตโร อติกฺกมตี’’ติ ทสฺสนโต ‘‘สตฺถาเร’’ติ ทุติยาพหุวจนรูปํ อยุตฺตํ วิย ทิสฺสติฯ กจฺจายนาทีสุ ‘‘โภสตฺถ, โภสตฺถา’’ อิติ รสฺสทีฆวเสน อาลปเนกวจนทฺวยํ วุตฺตํฯ นิรุตฺติปิฎเก ‘‘โภสตฺถ’’ อิติรสฺสวเสน อาลปเนกวจนํ วตฺวา ‘‘ภวนฺโต สตฺถาโร’’ติ อาราเทสวเสน อาลปนพหุวจนํ วุตฺตํฯ จูฬนิรุตฺติยํ ‘‘โภสตฺถ’’ อิติ รสฺสวเสน อาลปเนกวจนํ วตฺวา ‘‘โภสตฺถา’’ อิติ ทีฆวเสน อาลปนพหุวจนํ ลปิตํฯ สพฺพเมตํ อาคเม อุปปริกฺขิตฺวา ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา คเหตพฺพํฯ