ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม
ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์
ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๘
-----------------
๑.
ผู้หมั่นเจริญกัมมัฏฐาน
ย่อมได้รับประโยชน์อย่างไร
?
ก.
มีสุขภาพดี ข.
ทำงานอย่างมีสติ
ค.
นอนหลับง่าย ง.
ผิวพรรณผ่องใส
๒.
ผู้เริ่มเจริญกัมมัฏฐาน
ควรเลือกสถานที่เช่นไร ?
ก.
ในอุโบสถ ข.
ป่าช้า
ค.
ที่สงบเงียบ ง.
ที่ใดก็ได้
๓.
ข้อใดเป็นอาการเบื้องต้นในการเจริญอานาปานสติ
?
ก.
นั่งกายตรงกำหนดลม ข.
นั่งกายตรงภาวนา
“พุทโธ”
ค.
นั่งกายตรงพิจารณาลม ง.
นั่งกายตรงดำรงสติมั่น
๔.
ผลของการเจริญวิปัสสนาเบื้องต้นคืออะไร
?
ก.
จิตผ่องใส ข.
ความจำดี
ค.
มีเหตุผล ง.
รู้อดีตอนาคต
๕.
การเจริญวิปัสสนา
เป็นเหตุให้รู้แจ้งอะไร ?
ก.
สภาวธรรม ข.
คำสั่งสอน
ค.
อภิญญา
ง.
ไตรเพท
๖.
ผลสูงสุดแห่งการเจริญวิปัสสนา
คือข้อใด ?
ก.
ละนิวรณ์ได้ ข.
ละกามคุณได้
ค.
ละความยึดมั่นได้ ง.
สำเร็จเป็นพระโสดาบัน
๗.
สิ่งที่ทำให้สัตว์ต้องข้องอยู่ในโลก
เรียกว่าอะไร ?
ก.
กาม
ข.
กิเลส
ค.
ภพ ง.
ชาติ
๘.
ข้อใด
ไม่ใช่กิเลสกาม ?
ก.
ราคะ ข.
โทสะ
ค.
อิจฉา ง.
อิสสา
๙.
ข้อใด
เป็นปฏิบัติบูชาแท้จริง ?
ก.
ตักบาตรทุกเช้า ข.
ถวายสังฆทานทุกวัน
ค.
ฟังเทศน์เป็นประจำ ง.
ทำความดีตลอดเวลา
๑๐.
คำว่า
“ทำให้ชีวิตก้าวหน้า
พาไปสู่สวรรค์ ป้องกันภัยพิบัติ
กำจัดสรรพกิเลส” เป็นอานิสงส์ของข้อใด
?
ก.
กัมมัฏฐาน ข.
ทาน
ค.
ศีล ง.
บูชา
๑๑.
ผู้มีปฏิสันถารดี
ย่อมมีบุคลิกภาพเช่นไร ?
ก.
ต้อนรับด้วยอาหารน้ำดื่ม ข.
กล่าวธรรมให้ฟัง
ค.
ใจเย็น
หน้ายิ้ม อารมณ์ดี ง.
หัวเราะอยู่เสมอ
๑๒.
ผู้ทำการต้อนรับในข้อใด
ชื่อว่าปฏิบัติธรรมปฏิสันถาร
?
ก.
ต้อนรับด้วยอาหารน้ำดื่มเป็นต้น ข.
ต้อนรับตามสมควรแก่ฐานะ
ค.
ต้อนรับโดยการแนะนำประโยชน์ให้ ง.
ข้อ
ข. และข้อ
ค. ถูก
๑๓.
เจตสิกสุข
คือสุขทางใจ มีลักษณะเช่นไร
?
ก.
สุขเพราะได้ลาภลอย ข.
สุขเพราะได้รับมรดก
ค.
สุขเพราะได้เลื่อนยศ ง.
สุขเพราะไม่ถูกกิเลสครอบงำ
๑๔.
คนถูกกามวิตกครอบงำ
มักมีพฤติกรรมเช่นไร ?
ก.
อยากได้ของคนอื่น
ข.
ถ่ายรูปอนาจาร
ค.
วางแผนต้มตุ๋น
ง.
ถูกทุกข้อ
๑๕.
พฤติกรรมฆ่ารายวัน
สงเคราะห์เข้าในอกุศลวิตกใด
?
ก.
กามวิตก ข.
พยาบาทวิตก
ค.
วิหิงสาวิตก ง.
ข้อ
ข.และข้อ
ค.ถูก
๑๖.
ความดำริในเรื่อง
“สมานฉันท์” จัดเป็นกุศลวิตกใด
?
ก.
เนกขัมมวิตก
ข.
อัพยาบาทวิตก
ค.
อวิหิงสาวิตก ง.
ถูกทุกข้อ
๑๗.
ความดำริให้อภัยมีเมตตาไม่เบียดเบียนกัน
เป็นกุศลวิตกใด ?
ก.
เนกขัมมวิตก ข.
อัพยาบาทวิตก
ค.
อวิหิงสาวิตก
ง.
ข้อ
ข. และข้อ
ค. ถูก
๑๘.
ผู้มีพฤติกรรมเช่นใด
ชื่อว่าถูกไฟคือโมหะแผดเผา
?
ก.
ข่มขืนแล้วฆ่า ข.
หงุดหงิดฉุนเฉียว
ค.
ยกพวกตีกัน
ง.
ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอหวย
๑๙.
เหตุใด
ราคะ โทสะ โมหะ จึงเรียกว่าไฟ
?
ก.
เพราะทำให้เครียด ข.
เพราะทำให้ใจเร่าร้อน
ค.
เพราะทำให้กายร้อน
ง.
เพราะทำให้เกิดโรค
๒๐.
ประชาธิปไตยจะสมบูรณ์
ต้องมีธรรมอะไรเป็นพื้นฐาน
?
ก.
อัตตาธิปเตยยะ ข.
โลกาธิปเตยยะ
ค.
ธัมมาธิปเตยยะ ง.
ข้อ
ข. และข้อ
ค.รวมกัน
๒๑.
เผด็จการทุกรูปแบบ
ตรงกันข้ามกับอธิปเตยยะใด
?
ก.
อัตตาธิปเตยยะ ข.
โลกาธิปเตยยะ
ค.
ธัมมาธิปเตยยะ ง.
ถูกทุกข้อ
๒๒.
“แย่งอาหารกันกิน
แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันพิศวาส
แย่งอำนาจกันครอง” จัดเป็นตัณหาอะไร
?
ก.
กามตัณหา ข.
ภวตัณหา
ค.
วิภวตัณหา ง.
กามตัณหาและภวตัณหา
๒๓.
ความอยากได้อิฏฐารมณ์
เรียกว่าอะไร ?
ก.
กามตัณหา ข.
ภวตัณหา
ค. วิภวตัณหา ง. กิเลสตัณหา
ค. วิภวตัณหา ง. กิเลสตัณหา
๒๔.
ปฏิบัติอย่างไร
ชื่อว่าปฏิบัติครบทั้ง ๓
ปิฎก ?
ก.
รักษากายไม่ให้วิปริต ข.
รักษาจิตอย่าให้วิปลาส
ค.
วาจามีศีลสุขล้ำ ง.
ทั้ง
๓ ข้อรวมกัน
๒๕.
วัฏฏะ
วนหรือหมุน หมายเอาอาการเช่นไร
?
ก.
การหมุนไปแห่งธรรม ข.
การเวียนศพรอบเมรุ
ค.
การแก่
เจ็บ ตาย ง.
การเวียนว่ายตายเกิด
๒๖.
“กรรมใดใครก่อ
กรรมนั้นย่อมตามสนอง”
ตรงกับวัฏฏะข้อใด ?
ก.
กิเลส ข.
กรรม
ค.
วิบาก ง.
สงสาร
๒๗.
ผู้ถือว่า
“แมว ๕ หมา ๖” เลี้ยงไว้เป็นอัปมงคล
ต้องนำไปปล่อยวัด จัดเป็นคนจริตอะไร
?
ก.
สัทธาจริต ข.
โมหจริต
ค.
พุทธิจริต ง.
ราคจริต
๒๘.
ข้อใด
เป็นความหมายที่แท้จริงของสิกขา
๓ ?
ก.
การศึกษาเล่าเรียนทั่วไป ข.
การเรียนพระพุทธพจน์
ค.
การฝึกฝนพัฒนา ง.
การท่องจำพระไตรปิฎกได้
๒๙.
สาระสำคัญของการศึกษาสิกขา
๓ คืออะไร ?
ก.
ทำให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์ ข.
ทำให้โลกสงบร่มเย็น
ค.
ทำให้โลกเจริญก้าวหน้า ง.
ทำให้โลกทันสมัย
๓๐.
เหตุใด
คนสมัยนี้จึงคอร์รัปชั่นมากขึ้นทุกวัน
?
ก.
เพราะกิเลสมาก
ข.
เพราะบาปมาก
ค.
เพราะตัณหามาก
ง.
เพราะโลภมาก
๓๑.
พิจารณาแล้วอดกลั้น
ตรงกับข้อใด ?
ก.
งดเหล้าเข้าพรรษา
ข.
เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
ค.
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ง.
เวรระงับด้วยการไม่จองเวร
๓๒.
ทำอย่างไร
จึงจะไม่ริษยาผู้อื่น ?
ก.
หมั่นแผ่เมตตา ข.
หมั่นแผ่กรุณา
ค.
หมั่นเจริญมุทิตา
ง.
หมั่นเจริญอุเบกขา
๓๓.
อัปปมัญญาข้อใด
เป็นคุณให้เกิดความเที่ยงธรรม
?
ก.
เมตตา ข.
กรุณา
ค.
มุทิตา ง.
อุเบกขา
๓๔.
เมื่อมีคนอื่นโกรธเรา
ควรปฏิบัติอย่างไร ?
ก.
ไม่โกรธตอบ ข.
แผ่เมตตาให้เสมอ
ค.
หมั่นทำดีไว้ ง.
ถูกทุกข้อ
๓๕.
พุทธบริษัทเช่นไร
ควรเรียกว่า “ใกล้เกลือกินด่าง”
?
ก.
เชื่อเรื่องทรงเจ้าเข้าผี ข.
เชื่อเรื่องเสน่ห์ยาแฝด
ค.
เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาล
ง.
ถูกทุกข้อ
๓๖.
ผู้ใดอุปมาเหมือนดอกบัวเสมอน้ำ
จักบานในวันพรุ่ง ?
ก.
ผู้พอแนะนำได้ ข.
ผู้รู้ธรรมพอยกหัวข้อแสดง
ค.
ผู้จำได้เฉพาะบท ง.
ผู้รู้ธรรมเมื่ออธิบายความ
๓๗.
ในอนุปุพพีกถา
ทรงยกทานกถาขึ้นแสดงก่อน
เพื่อพระประสงค์ใด ?
ก.
เพื่อสละความเห็นแก่ตัว ข.
เพื่อเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น
ค.
เพื่อขจัดความตระหนี่ ง.
ถูกทุกข้อ
๓๘.
“บูชาพระคุณ
ค้ำจุนพระศาสนา พาสู่ความสงบ
จบแค่นิพพาน”
เป็นอนุปุพพีกถาข้อใด
?
ก.
ทานกถา ข.
ศีลกถา
ค.
สัคคกถา
ง.
เนกขัมมานิสังสกถา
๓๙.
“โตงเตงโตงเต้า
กินแต่ของเขา ของเราเก็บไว้”
เป็นพฤติกรรมของคนเช่นไร
?
ก.
คนตระหนี่
ข.
คนเห็นแก่ตัว
ค.
คนประหยัด
ง.
คนมักน้อย
๔๐.
ข้อใด
เป็นอาวาสมัจฉริยะ ?
ก.
รังเกียจคนต่างชาติ
ข.
ไม่อยากแต่งงานด้วย
ค.
หวงแหนศิลปวิทยา ง.
ไม่อยากให้คนอื่นดีกว่า
๔๑.
เกิดโรคร้าย
จนเป็นเหตุถึงกับฆ่าตัวตาย
เพราะถูกมารใดครอบงำ ?
ก.
มารคือปัญจขันธ์ ข.
มารคือกิเลส
ค.
มารคือความตาย ง.
มารคือเทวบุตร
๔๒.
ฆ่ากันทุกวันเพื่อเอาชนะ
เป็นพฤติกรรมของคนจริตอะไร
?
ก.
คนโทสจริต
ข.
คนโมหจริต
ค.
คนวิตักกจริต
ง.
คนสัทธาจริต
๔๓.
เมื่อผู้น้อยไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา
จึงโกรธนินทาผู้ใหญ่
เพราะมีจริตอะไร ?
ก.
ราคจริต
ข.
โทสจริต
ค.
โมหจริต ง.
ทั้ง
๓ จริตระคนกัน
๔๔.
“วิชาเป็นอำนาจ
มารยาทเป็นเสน่ห์”
สงเคราะห์เข้าในข้อใด ?
ก.
อรหํ
ข.
สมฺมาสมฺพุทฺโธ
ค.
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ง.
สุคโต
๔๕.
พระสงฆ์ปฏิบัติอย่างไร
จึงเป็นนาบุญยอดเยี่ยมของโลก
?
ก.
เป็นผู้ปฏิบัติดี ข.
เป็นผู้ควรของคำนับ
ค.
เป็นผู้ควรของต้อนรับ ง.
เป็นผู้ควรของทำบุญ
๔๖.
ตั้งใจเลิกสิ่งเสพติด
งดเหล้าเข้าพรรษา ชื่อว่าบำเพ็ญบารมีใด
?
ก.
ขันติบารมี
ข.
ศีลบารมี
ค.
อธิษฐานบารมี ง.
อุเบกขาบารมี
๔๗.
เมื่อชีวิตเกิดอุปสรรค
ตั้งใจว่า “ชีวิตยังมีอยู่
ต้องสู้ต่อไป” ชื่อว่าบำเพ็ญบารมีใด
?
ก.
ขันติบารมี
ข.
วิริยบารมี
ค.
เมตตาบารมี
ง.
สัจจบารมี
๔๘.
“ยามบุญมาวาสนาช่วย
ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก”
ตรงกับข้อใด ?
ก.
กุศลชนกกรรม ข.
กุศลอุปัตถัมภกกรรม
ค.
กุศลอาสันนกรรม ง.
กุศลอาจิณณกรรม
๔๙.
“ยังไม่ถึงที่ตายไม่วายชีวาวาตม์
....”
เพราะกรรมใดกำลังให้ผล
?
ก.
ชนกกรรม ข.
อุปัตถัมภกกรรม
ค.
อาสันนกรรม ง.
พหุลกรรม
๕๐.
อโหสิกรรม
ในคำว่า “รดน้ำศพอโหสิกรรมแก่ผู้ตาย”
หมายความว่าอย่างไร ?
ก.
ให้อภัยไม่จองเวร
ข.
ขอให้ไปสู่ที่ชอบ
ค.
อย่ามีทุกข์เลย ง.
หมดกรรมเสียที
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
๑.
|
พระราชปริยัติโมลี
|
วัดพระงาม
|
|
|
๒.
|
พระศรีธีรวงศ์
|
วัดพระประโทณเจดีย์
|
|
|
๓.
|
พระวีรธรรมมุนี
|
วัดไตรมิตรวิทยาราม
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
|
สนามหลวงแผนกธรรม
|
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen