๓-การกกปฺป
——————
อิโต ปรํ สสมฺพนฺธํ; วิภตฺติปฺปภวํ ฉธา.
การกํ วิภชิตฺวาน; ปวกฺขามิ สุณาถ เม.
๕๔๗. กฺริยานิมิตฺตํ การกํ.
ยํ สาธนสภาวตฺตา มุขฺยวเสน วา อุปจารวเสน วา กฺริยาภินิปฺผตฺติยา นิมิตฺตํ; ตํ วตฺถุ การกํ นาม ภวติ. มุโขฺยปจารวเสน หิ กฺริยํ กโรตีติ การกํ; ตํ ฉพฺพิธํ กตฺตุกมฺมกรณสมฺปทานาปาทาโนกาสวเสน; กฺริยาภิสมฺพนฺธลกฺขณํ การกํ.
๕๔๘. โย กุรุเต โย วา ชายติ; โส กตฺตา.1
โย อตฺตปฺปธาโน หุตฺวา คมนปจนาทิกํ กฺริยํ กุรุเต โย วา ชายติ; โส การโก กตฺตา นาม ภวติ; วาสทฺโท วิกปฺปนตฺโถ. เตน อญฺโญปิ อตฺโถ โยเชตพฺโพ. กฺริยํ กโรตีติ กตฺตา. โส ติวิโธ สุทฺธกตฺตา เหตุกตฺตา กมฺมกตฺตาติ.
ตตฺถ โย สยเมว กฺริยํ กโรติ; โส สุทฺธกตฺตา นาม. ตํ ยถา ? ปุริโส มคฺคํ คจฺฉติ; สูโท ภตฺตํ ปจติ; ปุตฺโต ชายติ; พุทฺเธน ชิโต มาโร; อุปคุตฺเตน พทฺโธ มาโร.
โย อญฺญํ กมฺมนิ โยเชติ; โส เหตุกตฺตา นาม. โส หิ ปรสฺส กฺริยาย การณภาเวน หิโนติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ เหตุ; เหตุ จ โส กตฺตา จาติ อตฺเถน เหตุกตฺตา. ยญฺญทตฺโต เทวทตฺตํ คมยติ.
โย ปน ปรสฺส กฺริยํ ปฏิจจ กมฺมภูโตปิ สุกรตฺตา สยเมว สิชฺฌนฺโต วิย โหติ; โส กมฺมกตฺตา นาม กมฺมญฺจ ตํ กตฺตา จาติ อตฺเถน. สยเมว กโฏ กริยติ; สยเมว ปจิยติ โอทโนติ; เอวํ ติวิธา ภวนฺติ กตฺตาโร. อปิจ อภิหิตกตฺตา อนภิหิตกตฺตา จาติ อิเม เทฺว, เต จ ตโยติ กตฺตูนํ ปญฺจวิธตฺตมปิ อิจฺฉนฺติ ครู.
ตตฺถ ปุริโส มคฺคํ คจฺฉติ; อยํ อภิหิตกตฺตา อาขฺยาเตน กถิตตฺตา. สูเทน ปจิยติ โอทโน; อหินา ทฏฺโฐ นโร; อยํ อนภิหิตกตฺตา อาขฺยาเตน กิเตน วา อกถิตตฺตา. อภินิปฺผาทนลกฺขณํ กตฺตุการกํ.
กตฺตาอิจฺจเนน กฺวตฺโถ ? กตฺตริ ปฐมา ตติยา จ.
๕๔๙. อสนฺตํ สนฺตํว กปฺปิยติ; ตญฺจ.
ยํ อสนฺตํ สนฺตํ วิย พุทฺธิยา ปริกปฺปิยติ; ตญฺจ กตฺตุสญฺญํ ภวติ.
สญฺโญโค ชายติ. อภาโว โหติ.
สสวิสาณํ ติฏฺฐติ. อุทุมฺพรปุปฺผํ วิกสติ.
วญฺฌาปุตฺโต ธาวติ.
๕๕๐. โย กาเรติ โย วา อุฏฺฐาปยติ; โส เหตุ.1
อิธาปิ วาสทฺโท วิกปฺปนตฺโถ; เตน อญฺเญปิ อตฺถา โยเชตพฺพา. เอวมุตฺตรตฺราปิ.
ปุริโส ปุริสํ กมฺมํ กาเรติ;
อาสนา อุฏฺฐาเปติ; ปาสาณํ อุฏฺฐาปยติ.
๕๕๑. ยํ กุรุเต ยํ วา ปสฺสติ; ตํ กมฺมํ.2
กริยเต ตํ กฺริยาย ปาปุณิยเตติ กมฺมํ; กฺริยาปตฺติลกฺขณํ กมฺมการกํ. ตํ ติวิธํ นิปฺผตฺตนียาทิวเสน. สตฺตวิธมปิ เกจิ อิจฺฉนฺติ อิจฺฉิตาทิวเสน.
ตตฺถ รถํ กโรติ; สุขํ ชนยติ; ปุตฺตํ วิชายติ; อลทฺธํ ปตฺเถติ; อิทํ นิปฺผตฺตนียํ นาม. กฏฺฐมงฺคารํ กโรติ; สุวณฺณํ เกยูรํ กฏกํ วา กโรติ. วีหโย ลุนาติ; อิทํ วิกรณียํ นาม. ตํ ทุวิธํ ปริจฺจตฺตการณํ อปริจฺจตฺตการณนฺติ. ตตฺถ ปริจฺจตฺตการณํ นาม ยํ การณสฺส วินาเสน สมฺภูตํ. อปริจฺจตฺตการณํ นาม ยตฺถ การณภูเต วตฺถุมฺหิ วิชฺชมาเนเยว คุณนฺตรุปฺปตฺติยา โวหารเภโท ทิสฺสติ. อุภยํ ปเนตํ ยถาทสฺสิตปฺปโยควเสน ทฏฺฐพฺพํ. นิเวสนํ ปวิสติ; อาทิจฺจํ นมสฺสติ; รูปํ ปสฺสติ; ธมฺมํ สุณาติ; ปณฺฑิเต ปยิรุปาสติ; มนสา ปาฏลิปุตฺตํ คจฺฉติ; อิทํ ปาปนียํ นาม. ตถา หิ “นิเวสนํ ปวิสตี”ติอาทีสุ นิเวสนาทีนํ กฺริยาย น โกจิ วิเสโส กริยติ อญฺญตฺร สมฺปตฺติมตฺตา.
“ภตฺตํ ภุญฺชติ”อิจฺจาทีสุ ภตฺตาทิ อิจฺฉิตกมฺมํ นาม.
“วิสํ คิลติ”อิจฺจาทีสุ วิสํ อนิจฺฉิตกมฺมํ นาม.
“คามํ คจฺฉนฺโต รุกฺขมูลมุปสงฺกมติ”อิจฺจาทีสุ รุกฺขมูลาทิ เนวิจฺฉิตนานิจฺฉิตกมฺมํ นาม.
“อชํ คามํ นยติ; ยญฺญทตฺตํ กมฺพลํ ยาจติ พฺราหฺมโณ; สมิทฺธํ ธนํ ภิกฺขติ; ราชานํ เอตทพฺรวิ”อิจฺจาทีสุ อชาทโย กถิตกมฺมํ นาม;
คามาทโย อกถิตกมฺมํ นาม. ตถา หิ “อชํ คามํ นยตี”ติ เอตฺถ อโช กถิตกมฺมํ ทฺวิกมฺมิกาย นยนกฺริยาย ปตฺตุมิจฺฉิตตรตฺตา; คาโม ปน อปฺปธานตฺตา อกถิตกมฺมํ.
เอส นโย อิตเรสุปิ.
“ปุริโส ปุริสํ กมฺมํ กาเรติ”อิจฺจาทีสุ ปน อาณตฺตปุริสาทโย กตฺตุกมฺมํ นาม กตฺตา จ โส กมฺมญฺจาติ อตฺเถน.
“มยา อิชฺชเต พุทฺโธ; ยญฺญทตฺโต กมฺพลํ ยาจิยเต พฺราหฺมเณน; นาโค มณึ ยาจิโต พฺราหฺมเณน”๑ อิจฺเจวมาทีสุ พุทฺธาทโย อภิหิตกมฺมํ นาม อาขฺยาเตน ปจฺจเยน วา กถิตตฺตา. “ฉตฺตํ กโรติ; ฆฏํ กโรติ”อิจฺจาทีสุ ฉตฺตาทโย อนภิหิตกมฺมํ นาม อาขฺยาเตน อกถิตตฺตา.
๕๕๒. เยน กุรุเต, เยน วา ปสฺสติ; ตมฺปิ กรณํ.1
กริยติ กฺริยํ ชเนติ อเนน กตฺตุโน อุปกรณภูเตน วตฺถุนาติ กรณํ. เอตฺถ จ สติปิ สพฺพการกานํ กฺริยาสาธกตฺเต “เยน กุรุเต”ติอาทึ วิเสเสตฺวา วจนํ กตฺตูปกรณภูเตสุ สาธเนสุ สาธกตมสฺเสว คหณตฺถํ; กฺริยาสมฺภารลกฺขณํ กรณการกํ.
ตํ ทุวิธํ อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน.
จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ; โสเตน สทฺทํ สุณาติ;
มนสา ธมฺมํ วิชานาติ.๑
หตฺเถน กมฺมํ กโรติ; ปรสุนา รุกฺขํ ฉินฺทติ.
๕๕๓. ยสฺส ทาตุกาโม ยสฺส วา รุจฺจติ; ตํ สมฺปทานํ.1
ยสฺส วา ทาตุกาโม, ยสฺส วา รุจฺจติ, ยสฺส วา ขมติ, ยสฺส วา ธารยเต; ตํ การกํ สมฺปทานสญฺญํ โหติ.
สมณสฺส ทานํ ทาตุกาโม; สมณสฺส จีวรํ ททาติ;
ตสฺส ปุริสสฺส ภตฺตํ รุจฺจติ; คมนํ มยฺหํ รุจฺจติ.๒
มา อายสฺมนฺตานมฺปิ สํฆเภโท รุจฺจิตฺถ.๓
เทวทตฺตสฺส สุวณฺณจฺฉตฺตํ ธารยเต ยญฺญทตฺโต.
สมฺมา ปกาเรน อสฺส ททาตีติ สมฺปทานํ; ปฏิคฺคาหโก. ปฏิคฺคหณลกฺขณํ สมฺปทานการกํ. ตํ ปเนตํ สมฺปทานํ ติวิธํ โหติ อนิรากรณชฺเฌสนานุมติวเสน.
ตถา หิ กิญฺจิ ทียมานสฺส อนิรากรเณน สมฺปทานสญฺญํ ลภติ; ยถา “พุทฺธสฺส ปุปฺผํ ททาติ; รุกฺขสฺส ชลํ ททาตี”ติ. กิญฺจิ อชฺเฌสเนน ยาจกานํ โภชนํ ททาตีติ. กิญฺจิ อนุมติยา นารายนสฺส พลึ ททาติ; ภิกฺขุสฺส ภตฺตํ ททาตีติ.
เอตฺถ จ สาสเน ยุตฺติโต โรจนตฺเถ สมฺปทานวจนญฺจ อุปโยควจนญฺจ ทิสฺสติ, “สมณสฺส โรจเต สจฺจํ; ตสฺส เต สคฺคกามสฺส; เอกตฺตมุปโรจิตํ.๔ กิสฺสสฺสุ เอกธมฺมสฺส; วธํ โรเจสิ โคตม.๕ ปุริสสฺส วธํ น โรเจยฺยํ.๖ กึ นุ ชาตึ น โรเจสี”ติ๗อาทีสุ; รุจฺจนตฺเถ ปน สมฺปทานวจนเมว ทิสฺสติ “น เม รุจฺจติ ภทฺทนฺเต; อุลูกสฺสาภิเสจน”นฺติ๘อาทีสุ. ตสฺมา อยํ นีติ สาธุกํ มนสิ กาตพฺพา.
๕๕๔.สิลาฆหนุฐาสปธารปิหกุธทุหิสฺสาสฺสุยฺยราธิกฺขปจฺจาสุณ-อนุปติคิณปุพฺพกตฺตาโรจนตฺถตทตฺถตุมตฺถาลมตฺถมญฺญานาทรปฺปาณินิ นยนคตฺยตฺถกมฺมนิ อาสีสตฺถสมฺมุติตติยตฺถาทีสุ จ.2
สิลาฆ หนุ ฐา สปธาร ปิห กุธ ทุห อิสฺสอิจฺเจเตสํ ธาตูนํ ปโยเค จ อุสฺสุยฺยตฺถานญฺจ ปโยเค ราธิกฺขปโยเค จ ปจฺจาสุณอนุปติคิณานํ ปุพฺพกตฺตริ จ อาโรจนตฺถโยเค ตทตฺเถ ตุมตฺเถ อลมตฺถปฺปโยเค จ มญฺญติปฺปโยเค อนาทเร อปฺปาณินิ จ นยนคตฺยตฺถานํ กมฺมนิ จ อาสีสตฺถปฺปโยเค จ สมฺมุติปฺปโยเค จ ตติยตฺถาทีสุ จ ตํ การกํ สมฺปทานสญฺญํ โหติ. เอตฺถาทิสทฺเทน ปญฺจมีฉฏฺฐีสตฺตมีนมตฺโถ จ สารตฺโถ จ พหุวิโธ อกฺขรปฺปโยโค จ คหิโต; เอเตสุปิ จตุตฺถี วิภตฺติ ภวติ.
สิลาฆปโยเค ตาว—
พุทฺธสฺส สิลาฆเต; สกํ อุปชฺฌายสฺส สิลาฆเต อิจฺเจวมาทิ.
เอตฺถ จ สิลาฆเตติ กตฺถติ โถเมตีติ อตฺโถ.
หนุปโยเค— หนุเต มยฺหเมว; หนุเต ตุยฺหเมว อิจฺเจวมาทิ.
เอตฺถ จ หนุเตติ อปณยติ; อปลปติ อลฺลาปสลฺลาปํ น กโรตีติ อตฺโถ.
ฐาปโยเค— อุปติฏฺเฐยฺย สกฺยปุตฺตานํ วฑฺฒกี อิจฺเจวมาทิ.
เอตฺถ จ อุปฏฺฐานํ นาม อุปคมนํ สทฺทตฺถวเสน; สงฺเกตตฺถวเสน ปน อุปฏฺฐหนนฺติ อตฺโถ.ตถา หิ ครู “อนฺเนน1 ปาเนน อุปฏฺฐิโตสฺมี”ติ๑ อุปคนฺตฺวา ฐิโต อสฺมีติ อตฺถํ วทนฺติ สทฺทตฺถวเสน; สงฺเกตตฺถวเสน ปน “มาตาปิตุอุปฏฺฐาน”นฺติ๒อาทีสุ วิย อุปฏฺฐหนํ อธิปฺเปตํ.
สป2ปโยเค— สปถมฺปิ เต สมฺม อหํ กโรมิ.๓ มยฺหํ สปเต; ตุยฺหํ สปเตติ. เอตฺถ จ สปเตติ สปถํ กโรตีติ อตฺโถ. สปถญฺจ นาม ปเรสํ โตสาปนตฺถํ สจฺจกรณํ—
อลงฺกตา สุวสนา; มาลินี จนฺทนุสฺสทา.
เอกิกา สยเน เสตุ; ยา เต อมฺเพ อวาหรีติ๑
อาทีสุ วิย.
“ปุริโส อตฺตโน เวรึ สปตี”ติอาทีสุ ปน ปเรสํ โตสาปนตฺถํ สจฺจกรณํ น โหติ; ตสฺมา ตาทิเสสุ ฐาเนสุ สมฺปทานสญฺญา น โหตีติ ทฏฺฐพฺพํ.
ธารยติปฺปโยเค— อิธ คหปติ กุลปุตฺโต น กสฺสจิ กิญฺจิ ธาเรติ อปฺปํ วา พหุํ วา.๒ สุวณฺณํ เต ธารยเต. ตสฺส รญฺโญ มยํ นาคํ ธารยาม. ตตฺถ ธารยเตติ อิณวเสน คณฺหาติ; อิณํ กตฺวา คณฺหาตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ธนิโกเยว สมฺปทานํ.
ปิหปฺปโยเค— เทวาปิ เตสํ ปิหยนฺติ; สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ.๓ พุทฺธสฺส อญฺญติตฺถิยา ปิหยนฺติ. เทวา ทสฺสนกามา เต๔ อิจฺเจวมาทิ. อิโต อิจฺฉามิ ภทนฺตสฺสาติ อิทํ ปน สริจฺฉาโยเค กมฺมนิ ฉฏฺฐิยนฺตํ ปทนฺติ ทฏฺฐพฺพํ.
กุธทุหอิสฺสอุสฺสุยฺยตฺถานํ ปโยเค— กุชฺฌติ เทวทตฺตสฺส; ตสฺส กุชฺฌ มหาวีร.๕ ยทิ หนฺตสฺส กุปฺเปยฺยํ.๖ ทุหยติ ทิสานํ เมโฆ. โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.๗
เกจิ ปน “น ทุหตี”ติ ปฐนฺติ.
ติตฺถิยา อิสฺสยนฺติ สมณานํ; เทวา น อิสฺสนฺติ ปุริสปรกฺกมสฺส.๘ อญฺญติตฺถิยา สมณานํ อุสฺสุยฺยนฺติ ลาภเคเธน; ทุชฺชนา คุณวนฺตานํ อุสฺสุยฺยนฺติ คุณสมิทฺธิยา; กา อุสฺสุยา วิชานตํ.๙ ทุติยา จ พฺราหฺมโณ วสฺสการํ พฺราหฺมณํ อุสฺสุยติ.๑๐
ราธอิกฺขอิจฺเจเตสํ ธาตูนํ ปโยเค ยสฺส วิปุจฺฉนํ กมฺมวิขฺยาปนตฺถํ; ตํ การกํ สมฺปทานสญฺญํ โหติ. ตตฺถ จ ทุติยา; อาราโธหํ รญฺโญ. อาราโธหํ ราชานํ; กฺยาหํ อยฺยานํ อปรชฺฌามิ;๑ กฺยาหํ อยฺเย อปรชฺฌามิ. อายสฺมโต อุปาลิสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข อุปติสฺโส.๒ อายสฺมนฺตํ อุปาลึ วา. จกฺขุํ ชนสฺส ทสฺสนาย ตํ วิย มญฺเญ1.๓
สุโณติสฺส ธาตุสฺส ปจฺจาโยเค โย เอตสฺส กมฺมุโน กตฺตา; โส สมฺปทานสญฺโญ โหติ. ตํ ยถา ? ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ภิกฺขโวติ; ภทนฺเตติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ.๔ เอตฺถ จ ภควา อามนฺตนกฺริยาวเสน กมฺมภูตานํ ภิกฺขูนํ กตฺตา หุตฺวา ปจฺฉา สวนกฺริยาวเสน สมฺปทานํ โหติ. เอวํ อกฺขรจินฺตกานํ มตวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อาคมิกา ปน ภควโต วจนํ ปจฺจสฺโสสุนฺติ ฉฏฺฐีปโยคมิจฺฉนฺติ.
สุโณติสฺส ธาตุสฺส ปโยเค ทฺวีสุ กมฺเมสุ ยํ กมฺมํ ปุพฺพํ กถิตกมฺมตฺตา; ตสฺส กมฺมุโน ปุพฺพสฺส โย กตฺตา; โส สมฺปทานสญฺโญ โหติ.
ตํ ยถา ? ภิกฺขุ ชนํ ธมฺมํ สาเวติ; ตสฺส ภิกฺขุโน ชโน อนุคิณาติ. ตสฺส ภิกฺขุโน ชโน ปติคิณาติ. สาธุการทานาทินา ตํ อุสฺสาหยตีติ อตฺโถ.
เอตฺถ จ ชนนฺติ อกถิตกมฺมํ. ธมฺมนฺติ กถิตกมฺมํ. ภิกฺขุ ปน สวนกฺริยาวเสน กมฺมภูตสฺส กตฺตา หุตฺวา อนุคายนปฏิคายนกฺริยาวเสน สมฺปทานํ โหตีติ ทฏฺฐพฺพํ.
อาโรจนตฺเถ— อาโรเจมิ โข เต มหาราช; ปฏิเวเทมิ โข เต มหาราช.๕
อามนฺตนตฺเถ ทุติยาเยว, น จตุตฺถี. หนฺท ทานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว.๖ อามนฺตยสฺสุ โว ปุตฺเต๗ อิจฺเจวมาทิ.
ตทตฺเถ— อูนสฺส ปาริปูริยา.๑ พุทฺธสฺส อตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชามิ; อตฺถาย วต เม ภทฺทา; สุณิสา ฆรมาคตา.๒
ตุมตฺเถ— โลกานุกมฺปาย;๓ โลกํ อนุกมฺปิตุนฺติ อตฺโถ. ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย;๔ ผาสุวิหริตุนฺติ อตฺโถ.
อลมตฺถปโยเค จ สมฺปทานสญฺญา. เอตฺถ จ อลํสทฺทสฺส อตฺโถ อรหปฏิกฺเขปา. ตตฺถ อรหตฺเถ— อลํ เม พุทฺโธ; อลํ เม รชฺชํ; อลํ ภิกฺขุ ปตฺตสฺส; อลํ มลฺโล มลฺลสฺส; อรหติ มลฺโล มลฺลสฺส. ปฏิกฺเขเป— อลํ เต อิธ วาเสน.๕ อลํ เม หิรญฺญสุวณฺเณน; กึ เต ชฏาหิ ทุมฺเมธ.๖
มญฺญติปฺปโยเค อนาทเร อปฺปาณินิ— กฏฺฐสฺส ตุวํ มญฺเญ; กลิงฺครสฺส ตุวํ มญฺเญ. อนาทเรติ กิมตฺถํ ? สุวณฺณํ ตํ มญฺเญ.
อปฺปาณินีติ กิมตฺถํ ? คทฺรภํ ตุวํ มญฺเญ.
นยนคตฺยตฺถกมฺมนิ— โย มํ คเหตฺวาน ทกาย เนติ.๗ คามสฺส ปาเทน คโต; อปฺโป สคฺคาย คจฺฉติ.๘ สคฺคสฺส คมเนน วา.๙ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย.๑๐ กสฺส คติยนฺติ ธาตุ; ปฏิกสฺเสยฺยาติ อากฑฺเฒยฺย; ภิกฺขุํ อาปตฺติมูลํ อาเนยฺยาติ อตฺโถ. ทุติยา จ; ทกํ เนติ; คามํ ปาเทน คโต; อปฺโป สคฺคํ คจฺฉติ; มูลํ ปฏิกสฺเสยฺย.
อาสีสตฺเถ จ— อายสฺมโต ทีฆายุ โหตุ; ภทฺทํ ภวโต โหตุ; กุสลํ ภวโต โหตุ; สฺวาคตํ ภวโต โหตุ อิจฺเจวมาทิ.
สมฺมุติปฺปโยเค— สาธุ สมฺมุติ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนาย.
ตติยตฺเถ— อสกฺกตา จสฺม ธนญฺจยาย;๑ มยํ ธนญฺจเยน รญฺญา อสกฺกตา ภวามาติ อตฺโถ.
อาทิสทฺเทน ปญฺจมิยตฺเถ จ; ภิยฺโยโส มตฺตาย.๒ อยญฺหิ “ภิยฺโยโส มตฺตายา”ติ ปโยโค ปญฺจมีปโยโค “โย จ สีตญฺจ อุณฺหญฺจ; ติณา ภิยฺโย น มญฺญตี”ติ๓ ปโยโค วิย. ตตฺถ ภิยฺโยโสติ อิทํ ภิยฺโยสทฺเทน อติเรกตฺถวาจเกน นิปาเตน สมานตฺถํ นิปาตปทํ “อหํ ภิกฺขเว ยาวเท อากงฺขามิ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี”ติ๔ เอตฺถ ยาวเทวสทฺเทน สมานตฺถํ ยาวเทติ นิปาตปทํ วิย. น เจตฺถ วตฺตพฺพํ “ภิยฺโยโสติ นิปาตปทํ นาม อตฺถีติ อาจริเยหิ นิทฺทิฏฺฐํ น ทิฏฺฐปุพฺพ”นฺติ; อาจริเยหิ นิปาตา นามาติ อนิทฺทิฏฺฐานมฺปิ พหูนํ นิปาตานํ สาสเน ทิสฺสนโต; “มํ กเต สกฺก กสฺสจี”ติ๕ เอตฺถ หิ มนฺติ อมฺหตฺเถ อุปโยควจนํ สพฺพนามิกปทํ. กเตติ นิปาตปทํ; ตสฺมา สํสยํ อกตฺวา ภิยฺโยโส มตฺตายาติ เอตฺถ มตฺตโต ภิยฺโยติ อตฺโถ คเหตพฺโพ “ติณา ภิยฺโย”ติ เอตฺถ ติณโต ภิยฺโยติ อตฺโถ วิย.
อิมมตฺถํเยว สนฺธาย โปราณา “ภิยฺโยโส มตฺตายาติ อติเรกปฺปมาเณนา”ติ๖ ตติยาวิภตฺติวเสน อตฺถํ กถยึสุ. ปญฺจมีวิภตฺติ หิ กตฺถจิ ตติยาย สมานตฺตา “มตฺตา สุขปริจฺจาคา”ติ๗ เอตฺถ วิย. อปฺปมตฺติกสฺส สุขสฺส ปริจฺจาเคนาติ หิ อตฺโถ.
เกจิ ปเนตฺถ วเทยฺยุํ “มตฺตา สุขปริจฺจาคา’ติอาทีสุ ยสฺมา มตฺตาสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค; ตสฺมา ‘ภิยฺโยโส มตฺตายา’ติ เอตฺถปิ ‘มตฺตายา’ติ อิทํ อิตฺถิลิงฺคตติเยกวจนนฺตํ; เตเนว หิ อติเรกปฺปมาเณนาติ วิวรณํ กต”นฺติ; ตนฺน; กิญฺจาปิ “มตฺตา สุขปริจฺจาคา”ติอาทีสุ มตฺตาสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค; ตถาปิ “มตฺต”นฺติ นปุํสกลิงฺคมฺปิ พหูสุ ฐาเนสุ ทิสฺสติ; ตสฺมา นปุํสกลิงฺคโต มตฺตสทฺทโต จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทเส กเต “มตฺตายา”ติ รูปํ ภวติ; ตญฺจ “ภิยฺโยโส”ติ นิปาตปทโยคโต ปญฺจมิยตฺเถ “จตุตฺถี”ติ วิญฺญายติ.
เกจิ ปน “ภิยฺโยโส มตฺตายา”ติ เอตฺถ “โส ปุคฺคโล มตฺตาย มทนตาย ภิยฺโย”ติ อตฺถํ วทนฺติ; ตํ สาสเน ปหารทานสทิสํ อติวิย น ยุชฺชติ; ฉฏฺฐิยตฺเถ จ มหาคณาย๑ ภตฺตา เม.๒ สตฺตมิยตฺเถ จ ตุยฺหญฺจสฺส อาวิกโรมิ. ตสฺส เม สกฺโก ปาตุรโหสิ.
สารตฺเถ จ วตฺตพฺเพ จตุตฺถี วิภตฺติ ภวติ.
สารตฺโถ นาม อุตฺตมตฺโถ, จินฺตาปนตฺโถ วา. เทเสตุ ภนฺเต ภควา ธมฺมํ ภิกฺขูนํ; เตสํ ผาสุ เอตสฺส ปหิเณยฺย; ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย; ตถา เตสํ พฺยากริสฺสามิ; กปฺปติ สมณานํ อาโยโค; อมฺหากํ มณินา อตฺโถ; พหูปการา ภนฺเต มหาปชาปติโคตมี ภควโต.๓ พหูปการา ภิกฺขเว มาตาปิตโร ปุตฺตานํ๔ อิจฺเจวมาทิ.
ตถา อาทิสทฺเทน พหูสุ อกฺขรปฺปโยเคสุ จตุตฺถิยา ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
ตํ ยถา ?
อุปมํ เต กริสฺสามิ.๕
ธมฺมํ โว เทเสสฺสามิ.๖
โก อตฺโถ สุปเนน เต.๗
กิมตฺโถ เม พุทฺเธน. กถินสฺส ทุสฺสํ. อาคนฺตุกสฺส ภตฺตํ อิจฺเจวมาทิ.
“ตติยตฺถาทีสุ จา”ติ จสทฺทคฺคหณํ อวุตฺตตฺถสมุจฺจยตฺถญฺเจว สมฺปทานคฺ-คหณตฺถญฺจ; กจฺจายเน ปน “สตฺตมฺยตฺเถสุ จา”ติ จสทฺทคฺคหณํ วิกปฺปนตฺถวาคฺ-คหณานุกฑฺฒนตฺถเมว.
เอตฺถ ปน ฐตฺวา กิญฺจิ วทาม.
สทฺทสตฺถวิทูนํ มตวเสน หิ “รชกสฺส วตฺถํ ททาติ; ยญฺญทตฺโต เทวทตฺตสฺส อิณํ ททาตี”ติอาทีสุ สมฺปทานสญฺญาย น ภวิตพฺพํ.
สทฺทสตฺเถสุ หิ “ยสฺส1 สมฺมาปูชาพุทฺธิยา อนุคฺคหพุทฺธิยา วา ทียเต; ตํ สมฺปทาน”นฺติ๑ วุตฺตํ. รชกสฺส วตฺถทานญฺเจว เทวทตฺตสฺส อิณทานญฺจ ปูชาวเสน วา อนุคฺคหวเสน วา น โหติ; อจฺจนฺตวจนญฺจ น โหติ;
ตสฺมา “สมฺมา ปกาเรน อสฺส ททาตีติ สมฺปทาน”นฺติ อตฺเถน วิโรธนโต สมฺปทานสญฺญา น โหตีติ เตสํ ลทฺธิ; เตเนว “รชกาย เทวทตฺตายา”ติ จ จตุตฺถีวิภตฺติ เตหิ น วิหิตา; ฉฏฺฐีเยว วิหิตา “รชกสฺสา”ติอาทินาติ.
เอตฺถ อสฺมากํ วินิจฺฉโย เอวํ เวทิตพฺโพ—
ยทิ รชกสทฺโท วตฺถสทฺเทน สมฺพนฺธนีโย สิยา; รชกสฺส วตฺถํ อญฺญสฺส กสฺสจิ ททาตีติ อตฺโถ สิยา; รชโก จ สามี สิยา.
ยทิ ปน โธวาปนตฺถาย วตฺถํ รชกสฺส ททาตีติ ทาเนน รชโก สมฺพนฺธนีโย สิยา; โส รชโก กถํ สมฺปทานํ นาม น สิยา, ทานกฺริยาย ปฏิคฺคาหกภาเว ฐิตตฺตา. ตถา หิ “ยสฺส ทาตุกาโม”ติ จ อจิตฺตึ กตฺวา อสกฺกตฺวา “ภิกฺขุสฺส ภตฺตํ อทาสี”ติ จ อาทีสุปิ ทาตุกามตามตฺเตน วา อสกฺกจฺจทานมตฺเตน วา โย ทานํ คณฺหิสฺสติ; โย จ ทานํ คณฺหาติ; เต สพฺเพ สมฺปทานา โหนฺติเยว สาสนยุตฺติวเสน.
อปิจ สาสเน “อตฺถาย หิตายา”ติ ตทตฺถปฺปโยคํ ฐเปตฺวา “ทกาย เนติ; สคฺคาย คจฺฉติ; อสกฺกตา จสฺม ธนญฺจยาย; ภิยฺโยโส มตฺตาย; คณาย ภตฺตา”ติ ปโยเคสุ วิภตฺติวิปลฺลาสนยญฺจ ฐเปตฺวา นโมโยคทานโยคาทีสุ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทโส น ลพฺภติ. เตน สงฺคีติตฺตยารูฬฺเห ปาวจเน “พุทฺธาย เทติ; นโม พุทฺธายา”ติอาทีนิ ปทานิ น สนฺติ. “พุทฺธเสฏฺฐสฺส’ทาสาหํ; นโม กโรหิ นาคสฺสา”ติ๑ เอวรูปานิเยว อายา-เทสรหิตานิ ปทานิ ทิสฺสนฺติ. ตสฺมา ยํ อฏฺฐสาลินิยา อาคตํ “เอโก ปุริโส กิลิฏฺฐวตฺถํ รชกสฺส อทาสี”ติ๒ ปทํ; ตตฺถ รชกสฺสาติ จตุตฺถิยา ภวิตพฺพํ จตุตฺถีฉฏฺฐีนํ สพฺพปฺปกาเรน สนํวิภตฺตีนํ รูปโต ฐิตฏฺฐาเน สทิสตฺตา.
ตถา หิ “อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี”ติ๓ อิมิสฺสา ปาฬิยา อตฺถํ วทนฺเตหิ ครูหิ “อคฺคสฺส ทาตาติ อคฺคสฺส รตนตฺตยสฺส ทาตา; อถ วา อคฺคสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทาตา”ติ จตุตฺถีฉฏฺฐีนมตฺโถ วุตฺโต.
อิติ สทฺทสตฺถยุตฺติโต รชโก สามี โหตุ ฉฏฺฐีวิภตฺติวเสน วุตฺตตฺตา; สาสนยุตฺติโต ปน สมฺปทานํ โหตุ จตุตฺถีฉฏฺฐีนํ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา, กตฺถจิ กตฺถจิ ฐาเน เยภุยฺเยน ปาฬินยสทฺทสตฺถนยานํ อญฺญมญฺญํ อจฺจนฺตวิรุทฺธตฺตา จ.
ตถา หิ สทฺทสตฺเถ อาปสทฺโท พหุวจนนฺตํ อิตฺถิลิงฺคํ; ภควตา อาหจฺจภาสิเต ปุลฺลิงฺคํ เอกวจนนฺตํ; ตถา สทฺทสตฺเถ ทารสทฺโท พหุวจนนฺตํ ปุลฺลิงฺคํ; ปาวจเน วจนทฺวยยุตฺตํ ปุลฺลิงฺคํ. สทฺทสตฺเถ ธาตุสทฺโท เอกนฺตปุลฺลิงฺคํ; ปาวจเน เอกนฺตอิตฺถิลิงฺคํ; เอวมาทโย อญฺญมญฺญํ วิรุทฺธสทฺทคติโย ทิสฺสนฺติ.
กิญฺจ ภิยฺโย สทฺทสตฺเถ “เทวทตฺตายา”ติ จตุตฺถี; ตํ “เทวทตฺตายา”ติ ปทํ ปาฬินยํ ปตฺวา วิภตฺติวิปลฺลาสวเสน ตติยาปญฺจมีฉฏฺฐีนมตฺเถ จตุตฺถี สิยา; น สุทฺธจตุตฺถี “ยญฺญทตฺโต เทวทตฺตาย อสกฺกโต”ติอาทินา โยเชตพฺพตฺตา “อสกฺกตา จสฺม ธนญฺจยายา”ติอาทีสุ วิย.
กิญฺจ ภิยฺโย “คุโณ อสฺส อตฺถีติ คุณวา”ติ เอตฺถ สทฺทสตฺถนเยน “อสฺสา”ติ ปทํ ฉฏฺฐิยนฺตํ ภวติ; ปาฬินเย อฏฺฐกถานเย จ โอโลกิยมาเน อตฺถิสทฺทโยคโต จตุตฺถิยนฺตํเยว ภวติ. กถํ ? “อุเทตยํ จกฺขุมา เอกราชา.๔
อาสาวตี นาม ลตา; ชาตา จิตฺตลตาวเน.
ตสฺสา วสฺสสหสฺเสน; เอกํ นิพฺพตฺตเต ผลํ.
ตํ เทวา ปยิรุปาสนฺตี”ติ.๑
อิมา เทฺว ปาฬิโย “อสฺสา”ติ ปทสฺส จตุตฺถิยนฺตตฺตํ สาเธนฺติ.
ตตฺถ จกฺขุมาติ สกลจกฺกวาฬวาสีนํ อนฺธการํ วิธเมตฺวา จกฺขุปฏิลาภกรเณน ยํ เตน เตสํ ทฺวินฺนํ จกฺขุ; เตน จกฺขุมา สูริโย.
อตฺริทํ นิพฺพจนํ—
จกฺขุ เอตสฺส อตฺถีติ จกฺขุมา; จกฺขูติ จ กสฺส จกฺขุ ? อาโลกทสฺสนสมตฺถํ มหาชนสฺส จกฺขุ; ตํ มหาชนสฺส จกฺขุ เอตสฺส สูริยสฺส อตฺถิ เตน ทินฺนตฺตาติ อตฺถวเสน สูริโย สมฺปทานํ ภวติ; น สามี, ทฺวินฺนํ สามีนํ เอตฺถ อนิจฺฉิตพฺพตฺตา;
ตถา อาสา เอติสฺสา อตฺถีติ อาสาวตี; เอวํนามิกา ลตา. อาสาติ จ กสฺส อาสา ? เทวานํ อาสา; สา เทวานํ อาสา เอติสฺสา ลตาย อตฺถิ, ตํ ปฏิจฺจอุปฺปชฺชนโตติ อตฺถวเสน ลตา สมฺปทานํ ภวติ; น สามี, ทฺวินฺนํ สามีนํ เอตฺถาปิ อนิจฺฉิตพฺพตฺตา. เอวมาทิเก ปาฬินเย อฏฺฐกถานเย จ อุปปริกฺขิยมาเน ยถาวุตฺโต อตฺโถเยว ปาสํโส; กึ สทฺทสตฺถนโย กริสฺสติ. อถวา “รชกสฺส วตฺถํ ททาตี”ติ เอตฺถ สทฺทสตฺถนเยน ฉฏฺฐี โหตุ; รชกสฺส หตฺเถ วตฺถํ ททาตีติ อตฺถเมว มยํ คณฺหาม วจนเสสนยสฺสปิ ทสฺสนโต. เอวญฺจ สติ อุภินฺนํ นยานํ น โกจิ วิโรโธ.
๕๕๕. ยโต อเปติ, ยโต วา อาคจฺฉติ; ตทปาทานํ.1
ยโต วา อเปติ, ยโต วา อาคจฺฉติ; ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ. อเปจฺจ อิโต อาททาตีติ อปาทานํ; อิโต วตฺถุโต กายวเสน จิตฺตวเสน วา อาคนฺตฺวา อญฺญํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. เกจิ ปน “อปเนตฺวา อิโต อาททาตีติ อปาทาน”นฺติ วทนฺติ; เตสํ มเต อิโต อตฺตานํ จิตฺตํ วา อปเนตฺวาติ อตฺโถ; อยมฺปิ สญฺญา สมฺปทานสญฺญา วิย อนฺวตฺถโต รูฬฺหีโต จ กตาติ ทฏฺฐพฺพํ; ตํ ปน อปาทานํ ทุวิธํ กายสํโยคปุพฺพกจิตฺต-สํโยคปุพฺพกาปคมวเสน; ตถา จลาวธินิจฺจลาวธิวเสน.
อถวา ตํ ปน ติวิธํ จลาวธินิจฺจลาวธิเนวจลาวธินนิจฺจลาวธิวเสน; ตถา นิทฺทิฏฺฐ-วิสยอุปฺปตฺติวิสยอนุเมยฺยวิสยวเสน. ตํ สพฺพปฺปเภทํ อุปริ เอกโต ปกาเสสฺสาม.
คามา อเปนฺติ มุนโย.
นครา นิคฺคโต ราชา.
ภูมิโต นิคฺคโต รโส.
หตฺถิกฺขนฺธา โอตรติ.
เคหา นิกฺขมติ. สาวตฺถิโต อาคจฺฉติ.
อปาทานมิจฺจเนน กฺวตฺโถ ? อปาทาเน ปญฺจมี.
๕๕๖. ภยาทฺยุปฺปตฺติ เหตุ.
ยํ ภยาทีนํ อุปฺปตฺติยา เหตุ โหติ; ตญฺจ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
โจรา ภยํ ชายติ.
กามโต ชายเต ภยํ.๑
ตณฺหาย ชายติ โสโก.๑
๕๕๗. ยโต ปจติ วิชฺโชตติ วา.
ยโต นีหริตฺวา ปจติ, ยโต วา นิกฺขมฺม วิชฺโชตติ; ตมฺปิ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
กุสูลโต ปจติ.
วลาหกา วิชฺโชตติ จนฺโท.
๕๕๘. ปราทิปุพฺพชิธาตาทิปฺปโยเค.1
ยถารหํ ปราอิจฺจาทิอุปสคฺคปุพฺพานํ ชิธาตาทีนํ ปโยเค จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ. ตถา หิ ชิอิจฺเจตสฺส ธาตุสฺส ปราปุพฺพสฺส ปโยเค โย อสโห; โส อปาทานสญฺโญ โหติ. ตํ ยถา ? พุทฺธสฺมา ปราเชนฺติ อญฺญติตฺถิยา. ภูอิจฺเจตสฺส ธาตุสฺส ปปุพฺพสฺส ปโยเค ยโต อจฺฉินฺนปฺปภโว; โส อปาทานสญฺโญ โหติ.
ตํ ยถา ? หิมวตา ปภวนฺติ ปญฺจ มหานทิโย.๑ อโนตตฺตมฺหา มหาสรา ปภวนฺติ. อจิรวติยา ปภวนฺติ กุนฺนทิโย.
๕๕๙. อญฺญาทินามปฺปโยเค.1
อญฺญสทฺทาทีนํ นามานํ ปโยเค จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
ตโต กมฺมโต อญฺญํ กมฺมํ; ตโต ปรํ.
๕๖๐. วชฺชนตฺถาปปริโยเค.1
วชฺชนตฺเถหิ อปปริอิจฺเจเตหิ โยเค จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
อปสาลาย อายนฺติ วาณิชา. อุปริปพฺพตา เทโว วสฺสติ.
เอตฺถ จ สุทฺธนามานํ อุปสคฺเคหิ โยโค อุปสคฺคโยโค นามาติ คเหตพฺโพ; น คุณนามานํ อุปสคฺเคหิ โยโค. ตถา หิ "อุภโต สุชาโต ปุตฺโต”ติ๒อาทีสุ อุปสคฺเค วิชฺชมาเนปิ อุปสคฺคโยโค นาม น ภวติ.
๕๖๑. อุทฺธํสมนฺตตฺถุปริโยเค.1
อุอิจฺจุปสคฺเคน ปริอิจฺจุปสคฺเคน จาติ ทฺวีหิ อุปสคฺเคหิ ยถากฺกมํ อุทฺธํ สมนฺตโตติ อตฺถวนฺเตหิ ปโยเค จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
อุปริปพฺพตา เทโว วสฺสติ;
ปพฺพตสฺส อุทฺธํ สมนฺตโต เทโว วสฺสตีติ อตฺโถ.
อตฺรายํ วินิจฺฉโย— อุอิติ จ ปรีติ จ อุปสคฺคทฺวยํ วุตฺตํ; อุปรีติ นิปาตปทมฺปิ อตฺถิ. ยทิ ปน “อุปริปพฺพตา เทโว”ติ เอตฺถ “อุปรี”ติ นิปาตปทํ สิยา; “ปพฺพตา”ติ อวตฺวา “ปพฺพตสฺสา”ติ วา “ปพฺพเต”ติ วา วตฺตพฺพํ สิยา; เอวํ อวจเนน วิญฺญายติ “อุปรีติ อิทํ อุปสคฺคทฺวยเสน วุตฺต”นฺติ.
อุทฺธํ สมนฺตตฺถุปรีติ กิมตฺถํ ?
วิวิธานิ ผลชาตานิ; อสฺมึ อุปริปพฺพเต”ติ๑ เอตฺถ อุปริสทฺโท นิปาตตฺตา อุทฺธนฺติ อตฺถมตฺตเมว ทีเปติ; น อุทฺธํ สมนฺตโตติ อตฺถนฺติ ญาปนตฺถํ.
๕๖๒. มริยาทาภิวิธตฺถอายาวโยเค.1
มริยาทาภิวิธิอตฺเถน อาอิจฺจุปสคฺเคน ยาวอิตินิปาเตน จ โยเค ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ. อาปพฺพตา เขตฺตํ. อานครา ขทิรวนํ. อาพฺรหฺมโลกา สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. ยาว เจตุตฺตรนครา มคฺคํ อลงฺกริ.๒ ยาว พฺรหฺมโลกา สทฺโท อพฺภุคฺคญฺฉิ.๓ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ ชาตํ.
เอตฺถ จ อาปพฺพตาติอาทโย ปโยคา สทฺทสตฺถนยวเสน วุตฺตา; ยาว เจตุตฺตรนคราติอาทโย ปน ปาฬินยวเสนาติ เวทิตพฺพา.
๕๖๓. ปตินิธิปติทานตฺถปติโยเค.1
ปตินิธิปติทานตฺเถน ปติอิจฺจุปสคฺเคน โยเค จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
พุทฺธสฺมา ปติ สาริปุตฺโต ธมฺมเทสนาย อาลปติ เตมาสํ; ฆตมสฺส เตลสฺมา ปติ ททาติ; อุปฺปลมสฺส ปทุมสฺมา ปติ ททาติ; กนกมสฺส หิรญฺญสฺมา ปติ ททาติ.
๕๖๔. วิสุํปุถโยเค.1
วิสุํปุถอิจฺเจเตหิ นิปาเตหิ โยเค จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
เตหิ วิสุํ; ตโต วิสุํ อริเยหิ ปุถเควายํ ชโน.
๕๖๕. อญฺญตฺรโยเค ปญฺจมี ตติยา จ.1
อญฺญตฺรอิจฺเจเตน นิปาเตน โยเค ปญฺจมีวิภตฺติ โหติ ตติยา จ.
นาญฺญตฺร สพฺพนิสฺสคฺคา; โสตฺถึ ปสฺสามิ ปาณินํ.๔ อญฺญตฺร พุทฺธุปฺปาทา โลกสฺส สจฺจาภิสมโย นตฺถิ. ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อญฺญตฺร ตถาคเตน.๕
๕๖๖. ริเตวินาโยเค ทุติยา จ.1
ริเตวินาอิจฺเจเตหิ นิปาเตหิ โยเค ปญฺจมี ตติยา ทุติยา จ โหติ.
ริเต สทฺธมฺมา กุโต สุขํ ภวติ; ริเต สทฺธมฺมํ; ริเต สทฺธมฺเมน วา. วินา สทฺธมฺมา นตฺถญฺโญ โกจิ นาโถ โลเก วิชฺชติ; วินา สทฺธมฺมํ; วินา สทฺธมฺเมน วา. วินา พุทฺธมฺหา; วินา พุทฺธํ; วินา พุทฺเธน วา.
๕๖๗. ปภุตฺยาทฺยตฺเถ ตทตฺถปฺปโยเค จ.1
ปภุติอาทิอตฺเถ จ ตทตฺถปฺปโยเค จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
ยโตหํ ภคินิ อริยาย ชาติยา ชาโต.๑ ยโต สรามิ อตฺตานํ; ยโต ปตฺโตสฺมิ วิญฺญุตํ.๒ ยโต ปภุติ. ยโต ปฏฺฐาย. ตโต ปฏฺฐาย. อิโต ปฏฺฐาย. อชฺชโต ปฏฺฐาย.
๕๖๘. การกกฺริยานํ มชฺฌฏฺฐา กาลทฺธา จ.1
อตฺถโยชนกฺกมวเสน ปน ทฺวินฺนํ อปาทานกมฺมการกานํ วา ปุพฺพาปรกฺริยานํ วา มชฺเฌ ฐิตา กาลทฺธา จ อปาทานสญฺญา โหนฺติ.
ปกฺขสฺมา วิชฺฌติ มิคํ; โกสา วิชฺฌติ กุญฺชรํ; มาสสฺมา ภุญฺชติ โภชนํ. ตตฺร ลุทฺทโก อิโต ปกฺขสฺมา มิคํ วิชฺฌตีติ อตฺถโยชนกฺกโม การกวเสน; กฺริยาวเสน ปน ลุทฺทโก อชฺช มิคํ วิชฺฌิตฺวา ปกฺขสฺมา วิชฺฌตีติ. เอส นโย อิตรตฺราปิ.
๕๖๙. รกฺขณตฺถานมิจฺฉิตมนิจฺฉิตญฺจ.2
รกฺขณตฺถานํ ธาตูนํ ปโยเค ยํ อิจฺฉิตํ, ยญฺจ อนิจฺฉิตํ,
ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
กาเก รกฺขนฺติ ตณฺฑุลา; อุจฺฉูหิ คเช รกฺขนฺติ; มนฺติโน มนฺเตน ทารเกหิ ปิสาเจ รกฺขนฺติ; ยวา ปฏิเสเธนฺติ คาโว; นานาโรคโต วา นานาอุปทฺทวโต วา อารกฺขํ คณฺหนฺตุ; อกุสเลหิ ธมฺเมหิ มานสํ นิวาเรติ. ปาปา จิตฺตํ นิวารเย.๓
๕๗๐. ยสฺสาทสฺสนมิจฺฉมนฺตรธายติ.1
ยสฺส อทสฺสนมิจฺฉนฺโต โกจิ อนฺตรธายติ; ตตฺถ ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนฏฺฐาเน ภเยน นิลียติ; ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
อุปชฺฌายา อนฺตรธายติ สิสฺโส.
มาตรา จ ปิตรา จ อนฺตรธายติ ปุตฺโต.
อิทํ ลกฺขณํ ภเยน อนฺตรธานํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิทฺธิยา อทสฺสนคมนสงฺขาเต อนฺตรธาเน ปน สตฺตมีวิภตฺติ โหติ; ตสฺส จ ลกฺขณํ อุปริ ภวิสฺสติ
๕๗๑. ทูรนฺติกทฺธกาลนิมฺมานตฺวาโลปทิสาโยควิภตฺตารปฺปโยค-สุทฺธปฺปโมจนเหตุวิวิตฺตปฺปมาณปุพฺพาทิโยคพนฺธนคุณวจนปญฺหกถน-โถกกิจฺฉกติปยากตฺตูสุ จ.2
ทูรตฺเถ อนฺติกตฺเถ อทฺธนิมฺมาเน กาลนิมฺมาเน ตฺวาโลเป ทิสาโยเค วิภตฺเต อารปฺปโยเค สุทฺธตฺเถ ปโมจเน เหตุตฺเถ วิวิตฺตตฺเถ ปมาเณ ปุพฺพาทิโยเค พนฺธเน คุณวจเน ปญฺเห กถเน โถเก กิจฺเฉ กติปเย อกตฺตริ จ อิจฺเจเตสฺวตฺเถสุ ปโยเคสุ จ ตํ การกํ อปาทานสญฺญํ โหติ.
ทูรตฺถปฺปโยเค ตาว—
กีวทูโร อิโต นฬการคาโม; ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ.๑ คามโต นาติทูเร; อารกา เต โมฆปุริสา อิมสฺมา ธมฺมวินยา. อารกา เตหิ ภควา.
ทูรตฺเถ - ทูรโตวาคมฺม; ทูรโตว นมสฺสนฺติ.๒ อทฺทส ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ.๓
ทูรตฺถปฺปโยเค ทุติยา จ ตติยา จ; ทูรํ คามํ อาคโต; ทูเรน คาเมน อาคโต; ทูรโต คามา อาคโตติ อตฺโถ. ทูรํ คาเมน วา.
อารกาสทฺทโยเค ทุติยา จ ตติยา จ ฉฏฺฐี จ. อารกา อิมํ ธมฺมวินยํ. อเนน ธมฺมวินเยน; อารกา มนฺทพุทฺธีนํ๔ อิจฺเจวมาทิ.
อนฺติกตฺถปฺปโยเค—
อนฺติกํ คามา; อาสนฺนํ คามา; สมีปํ คามา; คามสฺส สมีปนฺติ อตฺโถ.
ยถาสมฺภวํ ทุติยา จ ตติยา จ ฉฏฺฐี จ. อนฺติกํ คามํ; อนฺติกํ คาเมน; อาสนฺนํ คามํ; อาสนฺนํ คาเมน; สมีปํ สทฺธมฺมํ; สมีปํ สทฺธมฺเมน. นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก.๑ อารกา จ วิชานตํ.๒ เอตฺถ ปน อารกาสทฺโท สมีปวาจโก ทฏฺฐพฺโพ; ภควา หิ วิชานตํ สนฺติเกติ อตฺโถ.
อทฺธกาลนิมฺมาเน—
อิโต มธุราย จตูสุ โยชเนสุ สงฺกสฺสํ;
ราชคหโต ปญฺจจตฺตาลีสโยชนมตฺถเก สาวตฺถิ; อิโต โข ภิกฺขเว เอกนวุติกปฺเป.๓ อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ปรินิพฺพายิสฺสามิ๔ อิจฺเจวมาทิ.
ตฺวาโลเป กมฺมาธิกรเณสุ—
ปาสาทา สงฺกเมยฺย; หตฺถิกฺขนฺธา สงฺกเมยฺย.๕
อาสนา วุฏฺฐเหยฺย อิจฺเจวมาทิ.
เอตฺถ จ ตฺวาโลโป นาม อตฺถสมฺภเวปิ สติ ตฺวาปจฺจยนฺตสฺส สทฺทสฺส อวิชฺชมานตา. ตถาหิ ปาสาทา สงฺกเมยฺยาติ เอตฺถ ปาสาทมภิรูหิตฺวา ตมฺหา ปาสาทา อญฺญํ ปาสาทํ สงฺกเมยฺยาติ อตฺโถ. เอส นโย หตฺถิกฺขนฺธา สงฺกเมยฺยาติ เอตฺถาปิ. อาสนา วุฏฺฐเหยฺยาติ เอตฺถ ปน อาสเน นิสีทิตฺวา ตมฺหา อาสนา วุฏฺฐเหยฺยาติ อตฺโถ. เอวํ กมฺมาธิกรเณสุ ปญฺจมีวิภตฺติ ภวติ; กมฺมาธิกรณภูตานิเยว วตฺถูนิ ตฺวาโลปวิสเย อปาทานํ นาม โหนฺตีติ อตฺโถ.
ทิสาโยเค จ ปญฺจมี ภวติ. ตตฺถ ทิสา จ ทิสาโยโค จ ทิสาโยโค สรูเปกเสสนเยน; ตสฺมึ ทิสาโยเค. เอตฺถ จ ทิสาวจเนน ทิสตฺโถ คหิโต; ทิสาโยควจเนน ทิสตฺถวาจีหิ โยโค. ตตฺถ ทิสตฺถวาจีหิ โยเค ตาว— อิโต สา ปุริมา ทิสา.๑ อิโต สา ทกฺขิณา ทิสา.๑ อิโต สา ปจฺฉิมา ทิสา.๒ อิโต สา อุตฺตรา ทิสา.๓ อวีจิโต อุปริ ภวคฺคมนฺตเร; อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา.๔ ยโต เขมํ ตโต ภยํ.๕ ยโต อสฺโสสุํ ภควนฺตํ. ทิสตฺเถ ปุรตฺถิมโต ทกฺขิณโตติอาทิ. เอตฺถ ปน สตฺตมิยตฺเถ โตปจฺจโย ภวิสฺสติ.
วิภตฺเต ปญฺจมี ภวติ ฉฏฺฐี จ.
เอตฺถ วิภตฺตํ นาม สยํ วิภตฺตสฺเสว ตทญฺญโต คุเณน วิภชนํ. ยโต ปณีตตโร วา วิสิฏฺฐตโร วา นตฺถิ; มาธุรา ปาฏลิปุตฺตเกหิ อภิรูปตรา; อตฺตทนฺโต ตโต วรํ.๖ ฉนฺนวุตีนํ ปาสณฺฑานํ ธมฺมานํ ปวรํ ยทิทํ สุคตวินโย อิจฺเจวมาทิ.
อารติปฺปโยเค—
คามธมฺมา วสลธมฺมา อสทฺธมฺมา อารติ วิรติ ปฏิวิรติ;
ปาณาติปาตา เวรมณิ๗ อิจฺเจวมาทิ.
สุทฺธตฺถปฺปโยเค— โลภนิเยหิ ธมฺเมหิ สุทฺโธ อสํสฏฺโฐ อิจฺเจวมาทิ.
ปโมจนตฺถปฺปโยเค— ปริมุตฺโต ทุกฺขสฺมาติ วทามิ.๘ มุตฺโตสฺมิ มารพนฺธนา; น เต มุจฺจนฺติ มจฺจุนา; โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา๙ อิจฺเจวมาทิ.
เหตุอตฺเถ—
กสฺมา เหตุนา; กสฺมา นุ ตุมฺหํ ทหรา น มียเร.๑๐
กสฺมา อิเธว มรณํ ภวิสฺสติ;
ยสฺมา อนิยตา เกจิ; ยสฺมาติห ภิกฺขเว.๑๑ ตสฺมาติห ภิกฺขเว.๑๑
ยํการณา; ตํการณา; กึการณา อมฺม ตุวํ ปมชฺชสิ.
อญฺเญหิ ปน ลกฺขเณหิ เหตุตฺเถ ปฐมา จ ตติยา จ ฉฏฺฐี จ ภวติ; ตา จ โข กฺริยาภิสมฺพนฺเธ ทฏฺฐพฺพา; น ปน “โก นุ โข ภนฺเต เหตุ, โก ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา”ติ๑อาทีสุ กฺริยาภิสมฺพนฺธรหิเตสุ
ปโยเคสุ—
น อตฺตเหตุ อลิกํ ภเณติ.๒ กึ นุ ชาตึ น โรเจสิ.๓ ยญฺจ ปุตฺเต น ปสฺสามิ.๔ ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามิ.๕ เกน การเณน วเทสิ; เยน การเณน; เตน การเณน; อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน; เกน วา ปน เหตุนา. อนุปฺปตฺโต พฺรหารญฺญํ.๖ สทฺธาย ตรติ โอฆํ.๗ เอตฺถ จ สทฺธายาติ อยํสทฺโท เหตุอตฺโถติ ครูหิ วุตฺตํ.
เกน กสฺสป พาลสฺส; ทสฺสนํ นาภิกงฺขสิ.๘ เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา.๙ เตน นิมิตฺเตน; เตน วุตฺตํ; ตํ กิสฺส เหตุ.๑๐ กิสฺส ตุมฺเห กิลมถ.
วิเวจนปฺปโยเค—
วิวิตฺโต ปาปกา ธมฺมา; วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ๑๑ อิจฺเจวมาทิ.
ปมาณตฺเถ—
อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนํ; คมฺภีรโต ปุถุลโต จ โยชนํ จนฺทภาคาย ปมาณํ.๑๒ ปริกฺเขปโต นวสตโยชนปริมาโณ มชฺฌิมเทโส. ทีฆโต นววิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา ปมาณิกา กาเรตพฺพา.๑๓ ตติยา จ; โยชนํ อายาเมน; โยชนํ วิตฺถาเรน; โยชนํ อุพฺเพเธน สาสปราสิ.;๑๔
ปุพฺพาทิโยเค ปฐมตฺถวาจเกน ปุพฺพสทฺเทน โยโค ปุพฺพโยโค. เอตฺถ ปุพฺพาทิคฺคหณํ อทิสตฺถวุตฺตีนํ ปุพฺพาทีนํ คหณตฺถํ. ตถา หิ วิสุํ ทิสาโยโค คหิโต. ปุพฺเพว เม ภิกฺขเว สมฺโพธา.๑ อิโต ปุพฺเพ นาโหสิ; ตโต ปรํ ปจฺจนฺติมา ชนปทา.๒ ตโต อปเรน สมเยน.๓ ตโต อุตฺตริ๔ อิจฺเจวมาทิ.
พนฺธนตฺถปฺปโยเค พนฺธนเหตุมฺหิ อิเณ;
สตสฺมา พทฺโธ นโร รญฺญา; ตติยา จ; สเตน พทฺโธ นโร รญฺญา อิจฺเจวมาทิ.
คุณวจเน -
ปญฺญาย วิมุตฺติ มโน; อิสฺสริยาย ชนํ รกฺขติ ราชา; สีลโต นํ ปสํสนฺติ.๕
ปญฺหกถเนสุ -
กุโตสิ ตฺวํ; กุโต ภวํ ปาฏลิปุตฺตโต.
เอตฺถ จ กถนํ นาม วิสฺสชฺชนํ; ยํ ปน กจฺจายนปฺปกรเณ “ปญฺเห ตฺวาโลเป กมฺมาธิกรเณสู”ติ อารภิตฺวา “อภิธมฺมํ สุตฺวา อภิธมฺมา ปุจฺฉนฺติ; อภิธมฺมํ อภิธมฺเมน วา, วินยํ สุตฺวา วินยา ปุจฺฉนฺติ, วินยํ วินเยน วา. เอวํ สุตฺตา; เคยฺยา; เวยฺยากรณา; คาถาย; อุทานา; อิติวุตฺตกา; ชาตกา; อพฺภุตธมฺมา; เวทลฺลา อิจฺเจวมาที”ติ จ วุตฺตํ;
ตถา "กถเน ตฺวาโลเป กมฺมาธิกรเณสูติ อารภิตฺวา "อภิธมฺมํ สุตฺวา อภิธมฺมา กถยนฺติ, อภิธมฺมํ อภิธมฺเมน วา, วินยํ สุตฺวา วินยา กถยนฺติ, วินยํ วินเยน วา, เอวํ สุตฺตา, เคยฺยา, เวยฺยากรณา, คาถาย, อุทานา, อิติวุตฺตกา, ชาตกา, อพฺภุตธมฺมา, เวทลฺลา อิจฺเจวมาทีติ จ วุตฺตํ, ตํ ตฺวาโลเปเยว วตฺตพฺพํ. “ปญฺเห”ติ จ “กถเน”ติ จ ตฺวาโลปรหิตปฺปโยควเสน วิสุํ วตฺตพฺพํ; อิธ ปน วิสุํ วุตฺตํ.
โถกตฺถาทีสุ อปฺปตฺถวจเน ปญฺจมี ตติยา จ. ยทา หิ ธมฺมมตฺตํ อธิปฺเปตํ, น ทพฺพํ; ตทา โถกาทีนํ อสตฺววจนตา. ยทา ปน “โถเกน วิเสน มโต”ติอาทินา ทพฺพมธิปฺเปตํ; ตทา เตสํ สตฺววจนตา. โถกา มุจฺจติ; อปฺปมตฺตกา มุจฺจติ; กิจฺฉาลทฺโธ ปิโย ปุตฺโต.๑ กติปยา มุตฺโต; โถเกน; อปฺปมตฺตเกน; กิจฺเฉน; กติปเยน อิจฺเจวมาทิ.
อกตฺตริ อการเก ญาปกเหตุมฺหิ— กตตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา อุปฺปนฺนํ โหติ จกฺขุวิญฺญาณํ๒ อิจฺเจวมาทิ. อาทิสทฺเทน เย อมฺเหหิ อนุปทิฏฺฐา อปาทานปฺปโยคา; เต ปโยควิจกฺขเณหิ โยเชตพฺพา.
อิทานิ เตสมปาทานานํ กายสญฺโญคปุพฺพกาทิวเสน ปเภทํ กถยาม.
“คามา อเปนฺติ มุนโย”ติอาทีสุ หิ กายสญฺโญคปุพฺพกสฺส อปคมนสฺส วิชฺชมานตฺตา คามาทิอปาทานํ กายสญฺโญคปุพฺพกํ นาม.
“ปาณาติปาตา วิรมตี”ติอาทีสุ ปน จิตฺตสญฺโญคปุพฺพกสฺส อปคมนสฺส วิชฺชมานตฺตา ปาณาติปาตาทิอปาทานํ จิตฺตสญฺโญคปุพฺพกํ นาม.
ตถา “ธาวตา หตฺถิมฺหา ปติโต องฺกุสคฺคโห”ติอาทีสุ หตฺถิอาทิอปาทานํ จลมริยาทภูตตฺตา จลาวธิ นาม “จลญฺจ ตํ อวธิ จา”ติ อตฺเถน.
“ปพฺพตา โอตรนฺติ วนจรา”ติอาทีสุ ปพฺพตาทิอปาทานํ นิจฺจลมริยาทภูตตฺตา นิจฺจลาวธิ นาม “นิจฺจลญฺจ ตํ อวธิ จา”ติ อตฺเถน;
อิเมหิ ทฺวีหิ ปกาเรหิ วินิมุตฺตํ “พุทฺธสฺมา ปติ สาริปุตฺโต; กามโต ชายเต ภย”นฺติ๓ จ อาทีสุ พุทฺธาทิอปาทานํ เนวจลาวธินนิจฺจลาวธิ นาม อวธิภาเวน อคฺคเหตพฺพตฺตา. เอวํ อปาทานํ ทุวิธํ ติวิธญฺจ ภวติ ปุน ตํ ติวิธญฺจ นิทฺทิฏฺฐ-วิสยาทิวเสน. ตตฺถ “คามา อปคจฺฉตี”ติอาทิ นิทฺทิฏฺฐวิสยํ นาม อปาทานวิสยสฺส กฺริยาวิเสสสฺส นิทฺทิฏฺฐตฺตา.
กุสูลโต ปจฺจติ; อภิธมฺมา กถยติ; วลาหกา วิชฺโชตตีติ อุปฺปาตฺตวิสยํ นาม. วลาหกา นิกฺขมฺม วิชฺโชตตีติอาทินา อุปาเตยฺโย เอตฺถ กฺริยาวิเสโส. มาธุรา ปาฏลิปุตฺตเกหิ อภิรูปตราติ อนุเมยฺยวิสยํ นาม. มาธุรา ปาฏลิปุตฺตเกหิ อุกฺกํสิยนฺติ เกนจิ คุเณนาติ อนุเมยฺโย เอตฺถ กฺริยาวิเสโส. อุปฺปตฺติวิสโย วิย น นิยโต โกจีติ อยมสฺส อุปฺปตฺติวิสยโต เภโทติ.
๕๗๒. โย อาธาโร; ตโมกาสํ.1
โย กตฺตุกมฺมสมเวตานํ นิสชฺชปจนาทิกฺริยานํ อาธารกฏฺเฐน อาธาโร; ตํ การกํ โอกาสสญฺญํ โหติ. ภุโส กฺริยํ ธาเรตีติ อาธาโร; โส เอว ตาสํ กฺริยานํ ปติฏฺฐานตฺเถน โอกาสตฺตา “โอกาสํ นามา”ติ วุจฺจติ.
ตถา หิ “กเฏ นิสีทติ เทวทตฺโต”ติ เอตฺถ กโฏ เทวทตฺตํ ธารยนฺโต ตํ สมเวตํ อาสนกฺริยํ ธาเรติ; “ถาลิยํ โอทนํ ปจตี”ติ เอตฺถ ถาลี ตณฺฑุลํ ธารยนฺตี ตํ สมเวตมฺปิ ปจนกฺริยํ ธาเรติ. ยชฺเชวํ กตฺตุกมฺมานเมว ปธานวเสน กฺริยาธารสมฺภวโต เตสเมว โอกาสสญฺญาย ภวิตพฺพนฺติ ? น ภวิตพฺพํ. กสฺมา ? ปฏิลทฺธวิเสสนามตฺตา; ตสฺมา ปรมฺปรายปิ กฺริยาธารกํ กฏาทิกํเยว โอกาสสญฺญํ ลภตีติ อวคนฺตพฺพํ.
โสยโมกาโส จตุพฺพิโธ พฺยาปิโก โอปสิเลสิโก สามีปิโก เวสยิโกติ.
ตตฺถ พฺยาปิโก นาม สกโลปิ อาธารภูโต อตฺโถ อาเธยฺเยน ปตฺถโฏ โหติ; ตํ ยถา ? ติเลสุ เตลํ; อุจฺฉูสุ รโส; ทธิมฺหิ สปฺปีติ.
โอปสิเลสิโก นาม ปจฺเจกสิทฺธานํ ภาวานํ ยตฺถ อุปสิเลโส อุปคโม โหติ. ตํ ยถา ? กเฏ นิสีทตีติ.
สามีปิโก นาม ยตฺถ สมีเป สามีปิกโวหารํ กตฺวา อาธารภาโว วิกปฺปิยติ. ตํ ยถา? สาวตฺถิยํ วิหรติ.๑ คงฺคายํ* วโชติ. ปตญฺชลินาปิ วุตฺตํ—
“จตูหิ ปกาเรหิ อตตฺถ โสติ ภวติ; กตฺถจิ ตํ ฐานวเสน มญฺจา อุกฺกฏฺฐึ กโรนฺตีติ. กตฺถจิ สมีปวเสน คงฺคาย โฆโส; กุรูสุ วสตีติ. กตฺถจิ ตํสหจรภาเวน ยฏฺฐึ ปเวสย; กุนฺเต ปเวสยาติ. กตฺถจิ ตํกฺริยาจรเณน อพฺรหฺมทตฺเต พฺรหฺมทตฺโตยมิติ.*
เวสยิโก นาม ยตฺถ อญฺญตฺถาภาววเสน เทสนฺตราวจฺเฉทวเสน วา อาธาร-ปริกปฺโป; ตํ ยถา ? ภูมีสุ มนุสฺสา; ชเลสุ มจฺฉา; อากาเส สกุณาติ. สพฺโพปิ จายํ ปธานวเสน วา ปริกปฺปิตวเสน วา กฺริยาย ปติฏฺฐา ภวตีติ “โอกาโส”ติ วุตฺโต.
ยํ ปเนตฺถ วุตฺตํ “กตฺตุกมฺมสมเวตานํ กฺริยานํ อาธาโร”ติ; ตํ “ภิยฺโย ขคฺคมฺหิ โอภาโส”ติ เอตฺถ กถํ ยุชฺชตีติ เจ ? ยุชฺชเตว.
ตถา หิ “ภูมีสุ มนุสฺสา”ติ เอตสฺมึ ปโยเค “วสนฺตี”ติ กตฺตุสมเวตา วสนกฺริยา อวิชฺชมานาปิ วจนเสสนเยน อาหริตพฺพา โหติ; เอวเมตํ “ภิยฺโย ขคฺคมฺหิ โอภาโส”ติ เอตฺถาปิ “อโหสี”ติ กตฺตุสมเวตา กฺริยา อวิชฺชมานาปิ วจนเสสนเยน อาหริตพฺพาว โหติ. โลเก หิ กตฺถจิ กตฺถจิ โวหารวิสเย เสสํ กตฺวา วาจํ ภณติ;
ตถา หิ โกจิ เอกเคเห ปฏิยตฺตํ ขีรํ ปาเยตุกาโม “ตฺวํ เคหํ ปวิส; ปวิสิตฺวา ขีรํ ปิวา”ติ วตฺตพฺเพ วจนเสสํ กตฺวา “ปวิส; ขีร”นฺติ อาห; สาสเนปิ ทิสฺสติ “เยสํ อยฺยานํ สูจิยา อตฺโถ อหํ สูจิยา”ติ จ, “ยสฺส ปญฺเหน อตฺโถ; โส มํ ปญฺเหน อหํ เวยฺยากรเณนา”ติ จ; ตสฺมา เอตฺถ สํสโย น กาตพฺโพ.
๕๗๓. ยตฺถิทฺธิยนฺตรธายติ.1,1
ยสฺมิ ฐาเน โกจิ อิทฺธิยา อนฺตรธายติ; ตํ ฐานภูตํ การกํ โอกาสสญฺญํ โหติ. สา เทวตา อนฺตรหิตา; ปพฺพเต คนฺธมาทเน.๑ เชตวเน อนฺตรหิโต ภควา.๒ ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข; ตตฺเถวนฺตรธายถ.๓ อปฺเปกจฺเจ มํ อภิวาเทตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ.๔ อาธารลกฺขณํ โอกาสการกํ. อิติ ฉการกํ ปกาสิตํ โหติ.
อิทานิ สมานวิสยํ การกฉกฺกํ วุจฺจเต—
โย ยตฺถ เยน ยํ วา กโรติ; ตานิ กตฺตุโอกาสกรณกมฺมานิ. ปุริโส อรญฺเญ หตฺเถน กมฺมํ กโรติ. สพฺพตฺถ กตฺตา เนตพฺโพ.
ยํ ยสฺส ยตฺถ วา เทติ; ตานิ กมฺมสมฺปทาโนกาสานิ; ทานํ ภิกฺขุสฺส อทาสิ; ทานํ ภิกฺขุมฺหิ เทติ; ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.๕ ยโต ยตฺถ ชายติ; ตานิ อปาทาโนกาสานิ; ยสฺมา โส ชายเต คินิ.๖ โจรา ภยํ ชายติ; ยตฺถ โส ชายตี ธีโร.๗
ยํ ยตฺถ ยโต วา คณฺหาติ; ตานิ กมฺโมกาสาปาทานานิ;
พฺราหฺมณํ หตฺเถ คณฺหาติ; มทฺทึ หตฺเถ คเหตวาน.๘ นาคํ คเหตฺวา โสณฺฑาย.๙ อาจริยสฺสสนฺติเก สิปฺปํ คณฺหาติ.๑๐ อาจริยุปชฺฌาเยหิ สิกฺขํ คณฺหาติ.
ครู ปน สตฺตมีวิสเย “ปุริสสฺส พาหาสุ คเหตฺวา โพธิสตฺตสฺส มุทฺธนิ จุมฺพิตฺวา”ติ อุทาหริตฺวา กมฺมนิ สตฺตมีวิภตฺตุปฺปตฺตึ วทนฺติ. ตํ “มทฺทึ หตฺเถ คเหตฺวานา”ติอาทิกาย ปาฬิยา ทสฺสนโต “ปุริสํ โพธิสตฺต”นฺติ จ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา ฐาเนเยว สตฺตมีติ คเหตพฺพํ. อิติ สมาสโต สมานวิสยํ การกฉกฺกํ ปกาสิตํ โหติ.
๕๗๔. น ฉฏฺฐีวิหิตตฺโถ การโก ยถามนฺตนํ.
ยถา อามนฺตนสงฺขาโต อตฺโถ การกสญฺโญ น โหติ; ตถา ฉฏฺฐิยา วิหิโต อตฺโถ การกสญฺโญ น โหติ.
๕๗๕. ยสฺส สํ ยสฺส วา ปติ; ตํ สามิ.1,1
ยสฺส อตฺถชาตสฺส ธนํ ยสฺส วา ปติ, ยสฺส วา สามิ, ยสฺส วา สมูโห, ยสฺส วา อวยโว; ตํ อตฺถชาตํ สามิสญฺญํ โหติ.
อิธาปิ วาสทฺโท วิกปฺปนตฺโถ; เตน อญฺเญปิ อตฺถา โยเชตพฺพา;
รญฺโญ ธนํ; รญฺโญ ปุริโส; ปุริสสฺส ราชา; รญฺโญ รฏฺฐํ;
รฏฺฐสฺส สามิ; อมฺพวนสฺส อวิทูเร; ธญฺญานํ ราสิ; รุกฺขสฺส สาขา; สุวณฺณสฺส วิกติ; ภฏฺฐธญฺญานํ สตฺตุ อิจฺเจวมาทีนิ ภวนฺติ.
กฺริยาภิสมฺพนฺธาภาวา เนสา การกตา สมฺภวติ. สามิภาโว หิ กฺริยาการกภาวสฺส ผลภาเวน คหิโต. ตถา หิ “รญฺโญ ปุริโส”ติ วุตฺเต ยสฺมา ราชา ททาติ; ปุริโส จ ปฏิคฺคณฺหาติ; ตสฺมา “ราชปุริโส”ติ วิญฺญายติ.
เอวํ คจฺฉภาเวน วา สนฺตกภาเวน วา สามิภาเวน วา สมีปสมูหาวยวาทิภาเวน วา โย โกจิ ยสฺส อายตฺโต; ตสฺส สพฺพสฺส โส สมฺพนฺธาการภูโต อตฺโถ สามี นามาติ คเหตพฺโพ; ตสฺมา ธนสมฺพนฺเธ ฉฏฺฐี; สามิสมฺพนฺเธ ฉฏฺฐี; สมีปสมฺพนฺเธ ฉฏฺฐี; สมูห-สมฺพนฺเธ ฉฏฺฐี; อวยวสมฺพนฺเธ ฉฏฺฐี; วิการสมฺพนฺเธ ฉฏฺฐีติอาทิกา ฉฏฺฐี สามิฉฏฺฐีเยว นาม โหตีติ ทฏฺฐพฺพํ.
เอตฺถ จ สามิฉฏฺฐีติ อนฺวตฺถวเสน วา รูฬฺหีวเสน วา สามีติ สงฺขํ คเต อตฺเถ วิหิตา ฉฏฺฐี สามิฉฏฺฐีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ตถา หิ วกฺขติ “ฉฏฺฐี สามิมฺหี”ติ.
เอตฺถาห “รญฺโญ ปุริโสติอาทีสุ กฺริยาภิสมฺพนฺธาภาวา สามิโน การกภาโว มา โหตุ; “ปิตุสฺส สรติ; ปิตุสฺส อิจฺฉติ; รชฺชสฺส สริสฺสติ; รญฺโญ สมฺมโต; มา ภิกฺขเว ปุญฺญานํ ภายิตฺถ.๑ จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทายา”ติ๒ จ อาทีสุ ปน กฺริยาภิสมฺพนฺธสฺส วิชฺชมานตฺตา สามินา การเกน ภวิตพฺพ”นฺติ ? ตนฺน, สุทฺธาย ฉฏฺฐิยา อภาวโต. น เหตฺถ ฉฏฺฐี สุทฺธา กมฺมาทิอตฺเถสุ วตฺตนโต.
ตถา หิ “ปิตรํ สรติ; สเจ ภายถ ทุกฺขํ โว.๓ รญฺญา สมฺมโต”ติอาทโยปิ ปโยคา ทิสฺสนฺติ. ตสฺมา ตาทิเสสุ ฐาเนสุ กฺริยาภิสมฺพนฺเธ สติปิ กมฺมาทิอตฺเถสุ วตฺตนโต สามิโน การกตา น ภวติ. เอวํ โหตุ; ยถา “อปฺโป สคฺคาย คจฺฉตี”ติ๔ เอตฺถ อปฺโป สคฺคํ คจฺฉตีติ กมฺมตฺเถ วิชฺชมาเนปิ กฺริยาภิสมฺพนฺธสฺสูปลพฺภนโต สมฺปทานสฺส การกภาโว โหติเยว; ตถา อิธาปิ สามิโน การกภาโว โหตูติ ?
สจฺจํ ภวิตพฺพํ; โปราเณหิ อิทํ ฐานํ น วิจาริตํ. การกานญฺหิ ฉพฺพิธตฺตเมว เตหิ วุตฺตํ; มยํ ปน สาสเน ยุตฺตึ ปฏิสรณํ กตฺวา อตฺถญฺจ ครุํ กตฺวา ตถารูปสฺส สามิโน การกภาโว อิจฺฉิตพฺโพติ มญฺญาม. เกวลํ ปน โปราเณหิ อวุตฺตตฺตา น วทาม; สุฏฺฐุ วิจาเรตพฺพํ.
๕๗๖. ยํ อาลปติ; ตทามนฺตนํ.
ยํ วตฺถุํ อาลปติ อภิมุขํ กโรติ; ตํ อามนฺตนสญฺญํ โหติ.
โภ มหาราช; โภ ปุริส; โภ เทวทตฺต.
อามนฺติยเต ตนฺติ อามนฺตนํ; อามนฺตนญฺจ นาม ปเคว ลทฺธสรูปสฺส อภิมุขีกรณํ; กตาภิมุโข ตุ ปจฺฉา กฺริยาย โยชิยติ “คจฺฉ ภุญฺชา”ติ; ตสฺมา อามนฺตนสมเย กฺริยาโยคาภาวโต เนตํ การกโวหารํ ลภติ. ยํ ปน อิทานิ วิธาตพฺพํ น ตตฺถ อามนฺตนโวหาโร; กถญฺหิ นาม อวิชฺชมานํ อามนฺติยติ.
ตถา หิ พุทฺธตฺตปฺปตฺเตเยว ภควติ “พุทฺธ”อิติ อามนฺตนโวหาโร ทิสฺสติ “นโม เต พุทฺธ วีรตฺถู”ติ;๑ น อพุทฺธภูเต โพธิสตฺเต. รชฺชาภิเสกํ ปตฺเตเยว จ ปุคฺคลมฺหิ “ราช”อิติ อามนฺตนโวหาโร ทิสฺสติ “ธมฺมญฺจร มหาราชา”ติ.๒ น อราชภูเต. ตสฺมา ตฺวํ ราชา ภวาติ อิทานิ วิธาตพฺเพ วตฺถุมฺหิ ตํ อามนฺตนํ นตฺถิ. ยญฺจ ปน อิทานิ อวิธาตพฺพํ สภาเวเนว อวิชฺชมานํ; ตํ อามนฺติยตุ “โภ อภาว; โภ สสวิสาณ; โภ วญฺฌาปุตฺตา”ติ; น จ ตํ ปมาณํ.
๕๗๗. ลิงฺคตฺเถ ปฐมา.1
ลิงฺคตฺถาภิธานมตฺเต ปฐมาวิภตฺติ โหติ.
ปุริโส; ปุริสา; อิตฺถี; กุลํ; ปถวีธาตุ; อาโปธาตุ; ผสฺโส; เวทนา; นิพฺพานํ; โทโณ; ขารี; อาฬฺหกํ; เอโก; เทฺว. ป ปราอิจฺเจวมาทโย สพฺเพ อุปสคฺคา โยเชตพฺพา.
อตฺถิ สกฺกา ลพฺภา ห อหอิจฺเจวมาทโย เกจิ นิปาตา จ.
ทิวา ภิยฺโย นโมอิจฺเจเต ปน ปฐมตฺเถ ทุติยตฺเถปิ วตฺตนฺติ;
จ วา ปนาทโย ปฐมาทีนํ สตฺตนฺนมฺปิ อตฺเถ วตฺตนฺติ.
เอตฺถ จ วิสทาวิสโทภยรหิตาการวนฺเตน ติวิธลิงฺเคน อภิหิตสฺส อิตฺถิปุริสาทิ-กกฺขฬผุสนาทิอตฺถสฺส เตหิ ตีหากาเรหิ วินิมุตฺตานํ อุปสคฺคาทีนํ ปการาทิอตฺถสฺส จ ลีนสฺส คมนโต ลิงฺคนโต วา สทฺโทเยว ลิงฺคนฺติ อธิปฺเปโต.
ลิงฺคตฺโถ นาม ปพนฺธวิเสสากาเรน ปวตฺตมาเน รูปาทโย อุปาทาย ปญฺญาปิยมาโน ตทญฺญานญฺญภาเวน อนิพฺพจนีโย สมูหสนฺตานาทิเภโท อุปาทาปญฺญตฺติสงฺขาโต ฆฏปฏาทิโวหารตฺโถ จ ปถวีผสฺสาทีนํ สภาวธมฺมานํ กาลเทสาทิเภทภินฺนานํ วิชาติย-วินิวตฺโต สชาติยสาธารโณ ยถาสงฺเกตมาโรปสิทฺโธ ตชฺชาปญฺญตฺติสงฺขาโต กกฺขฬตฺตาทิสามญฺญากาโร จ; โส ปน กมฺมาทิสํสฏฺโฐ สุทฺโธ จาติ ทุวิโธ. ตตฺถ กมฺมาทีสุ ทุติยาทีนํ วิธิยมานตฺตา กมฺมาทิสํสคฺครหิโต ลิงฺคสงฺขฺยาปริมาณยุตฺโต ตพฺพินิมุตฺตุปสคฺคาทิปทตฺถภูโต จ สุทฺโธ สทฺทตฺโถ อิธ ลิงฺคตฺโถ นาม. โย ปน อาขฺยาตกิตตทฺธิตสมาเสหิ วุตฺโต กมฺมาทิสํสฏฺโฐ อตฺโถ; โสปิ ทุติยาทีนํ ปุน อตฺตนา วตฺตพฺพสฺส อตฺถวิเสสสฺสาภาเวน อวิสยตฺตา จ ลิงฺคตฺถมตฺตสฺส สมฺภวโต จ ปฐมาเยว วิสโยติ เวทิตพฺโพ. อตฺริทํ วทาม—
ปฐมาวุปสคฺคตฺเถ; เกสญฺจตฺเถ นิปาตินํ.
กมฺมาทฺยตฺเถ จ วิหิเต; สุทฺเธ ลิงฺคาทิเกปิ จาติ.
๕๗๘. อาลปเน จ.1
อาลปนตฺถาธิเก ลิงฺคตฺถาภิธานมตฺเต จ ปฐมาวิภตฺติ โหติ.
โภ ปุริส; โภ ปุริสา. เอหิ สมฺม นิวตฺตสฺสุ.๑ โอกาสํ สมฺม ชานาถ.๒ วิกฺกม เร มหามิค.๓ หเร สขา กิสฺส นุ มํ ชหาสิ.๔ อเร ทุฏฺฐโจร.๕ หนฺท เช อิมํ คณฺห; มา โภติ กุปิตา อหุ๖ อิจฺเจวมาทิ.
๕๗๙. เหตุมฺหิ.
เหตุมฺหิ จ ปฐมาวิภตฺติ โหติ.
น อตฺตเหตุ อลิกํ ภณนฺติ.๗ กึ นุ ชาตึ น โรเจสิ๘ อิจฺเจวมาทิ.
๕๘๐. กมฺมตฺเถ ทุติยา.2
รถํ กโรติ. คาวํ ทุหติ.
๕๘๑. กาลทฺธานมจฺจนฺตสํโยเค.3
กาลทฺธานํ ทพฺพคุณกฺริยาหิ อจฺจนฺตสํโยเค เตหิ กาลทฺธานวาจีหิ ลิงฺเคหิ ทุติยาวิภตฺติ โหติ. กาเล— สตฺตาหํ ควปานํ; มาสํ มํโสทนํ. สรทํ รมณียา นที; สพฺพกาลํ รมณียํ นนฺทนํ; มาสํ สชฺฌายติ; มาสมธีเต; ตโย มาเส อภิธมฺมํ เทเสสิ. อทฺธนิ— โยชนํ วนราชิ; โยชนํ ทีโฆ ปพฺพโต; โกสํ สชฺฌายติ; โยชนํ กลหํ กโรนฺโต คจฺฉติ. อจฺจนฺตสํโยเคติ กึ ? มาเส มาเส ภุญฺชติ; โยชเน โยชเน วิหารํ ปติฏฺฐาเปสิ.๑
๕๘๒. อนฺวาทิธิราทโย กมฺมปฺปวจนียา.1
อนุอาทโย อุปสคฺคา ธิอาทโย นิปาตา จ กมฺมปฺปวจนียสญฺญา โหนฺติ. กมฺมํ ปวจนียํ เยสนฺเต กมฺมปฺปวจนียา.
๕๘๓. ลกฺขณสหตฺเถ หีเน จานุ.
ตตฺถ อนุสทฺโท ลกฺขเณ สหตฺเถ หีเน จ กมฺมปฺปวจนียสญฺโญ โหติ.
ปพฺพชิตมนุปพฺพชึสุ.๒ นทิมนฺวาวสิตา พาราณสี. อนุ สาริปุตฺตํ ปญฺญวา.
๕๘๔. อิตฺถมฺภูตกฺขานภาควิจฺฉาสุ จ ปติปรานุ.
ปติปริอนุอิจฺเจเต ลกฺขเณ อิตฺถมฺภูตกฺขาเน ภาเค วิจฺฉายญฺจ กมฺมปฺปวจนียสญฺญา โหนฺติ. ลกฺขเณ- สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ; ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ.๓ รุกฺขํ ปติ วิชฺโชตเต จนฺโท; รุกฺขํ ปริ; รุกฺขํ อนุ. อิตฺถมฺภูตกฺขาเน- สาธุ เทวทตฺโต มาตรํ ปติ; มาตรํ ปริ; มาตรํ อนุ. ภาเค- ยเทตฺถ มํ ปติ สิยา; มํ ปริ; ตํ ทียตุ. วิจฺฉาโยเค- อตฺถมตฺถํ ปติ สทฺโท นิวิสติ. รุกฺขํ รุกฺขํ ปติ วิชฺโชตเต จนฺโท; รุกฺขํ รุกฺขํ ปริ; รุกฺขํ รุกฺขํ อนุ.
๕๘๕. ลกฺขณวิจฺฉิตฺถมฺภูเตสฺวภิ.
อภิสทฺโท ลกฺขเณ วิจฺฉายํ อิตฺถมฺภูเต จ กมฺมปฺปวจนียสญฺโญ โหติ.
ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต.๔ รุกฺขํ รุกฺขํ อภิ วิชฺโชตเต จนฺโท. สาธุ เทวทตฺโต มาตรํ อภิ. นิปาเต— ธิ พฺราหฺมณสฺส หนฺตารํ.๕ ธิรตฺถุ กณฺฑินํ สลฺลํ.๖ ธิรตฺถุ ตํ วิสํ วนฺตํ๗ อิจฺเจวมาทิ.
๕๘๖. กมฺมปฺปวจนียยุตฺเต.1
กมฺมปฺปวจนียตฺเถหิ นิปาโตปสคฺเคหิ ยุตฺเต ปโยเค ทุติยาวิภตฺติ โหติ.
อุทาหรณานิ ยถาทสฺสิตาเนว.
๕๘๗. คติพุทฺธิภุชปฐหรกรสยาทีนํ การิเต วา.2
คติพุทฺธิภุชปฐหรกรสยาทีนํ ปโยเค การิเต ทุติยาวิภตฺติ โหติ วา.
ปุริโส ปุริสํ คามํ คมยติ; ปุริโส ปุริเสน วา. เอวํ โพธยติ; โภชยติ; ปาฐยติ; หารยติ; การยติ; สยาปยติ; เอวํ สพฺพตฺถ การิเต.
๕๘๘. กฺวจิ ฉฏฺฐีนมตฺเถ อนฺตราทิโยเค.3
ฉฏฺฐีนมตฺเถ อนฺตราทีหิ โยเค สติ กฺวจิ ทุติยาวิภตฺติ โหติ;
อนฺตรา อภิโต ปริโต ปติ ปฏิภาติโยเค จายํ. อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ.๑ สทฺทสตฺเถ ปน “อนฺตรา นทิญฺจ คามญฺจา”ติ เอโกเยว อนฺตราสทฺโท ปยุชฺชติ. อภิโต คามํ วสติ. ปริโต คามํ วสติ. นทึ เนรญฺชรํ ปติ. อปิสฺสุ มํ อคฺคิเวสฺสน ติสฺโส อุปมาโย ปฏิภํสุ.๒
๕๘๙. ตติยาสตฺตมีนญฺจ.4
ตติยาสตฺตมีนมตฺเถ จ กฺวจิ ทุติยาวิภตฺติ โหติ.
สเจ มํ สมโณ โคตโม อาลปิสฺสติ.๓ ตฺวญฺจ มํ นาภิภาสสิ.๔ วินา สทฺธมฺมํ กุโต สุขํ; อุปายมนฺตเรน น อตฺถสิทฺธิ; เอวํ ตติยตฺเถ. สตฺตมิยตฺเถ ปน กาลทิสาสุ อุปานฺวชฺฌาวสสฺส ปโยเค อธิสิฏฺฐาวสานํ ปโยเค ตปฺปานจเรสุ จ ทุติยา.
กาเล— ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา.๕ เอกํ สมยํ ภควา.๑ กิญฺจิ กาลํ ปุเรชาต-ปจฺจเยน ปจฺจโย.๖ อิมํ รตฺตึ จตฺตาโร มหาราชา.๗ ปุริมํ ทิสํ ธตรฏฺโฐ.๘ อุปาทิปุพฺพสฺส วสธาตุสฺส ปโยเค คามํ อุปวสติ; คามํ อนุวสติ; วิหารํ อธิวสติ; คามํ อาวสติ; อคารํ อชฺฌาวสติ.๑ อธิปุพฺพานํ สิฐาวสธาตูนํ ปโยเค ปถวึ อธิเสสฺสติ.๒ คามํ อธิติฏฺฐติ; คามํ อชฺฌาวสติ. ตปฺปานจเรสุ นทึ ปิวติ; คามํ จรติ อิจฺจาทิ.
๕๙๐. ภาวนปุํสเก ทุติเยกวจนํ.
ภาวนปุํสกสงฺขาเต กฺริยาวิเสสเน ทุติเยกวจนํ โหติ.
เอตฺถ จ ภาวนปุํสกนฺติ สาสเน โวหาโร; กฺริยาวิเสสนนฺติ สทฺทสตฺเถ.
เอตฺถ ปน กิญฺจาปิ ปุพฺพาจริเยหิ—
กฺริยาวิเสสนานํ หิ; กมฺมตฺเถ กตฺตุสณฺฐิติ.
ญายสิทฺธา ยโต ตสฺมา; น ตทตฺถํ วิสุํ วิธีติ
วุตฺตํ; ตถาปิ ปโยเคสุ โสตูนมสมฺโมหตฺถลกฺขณํ วิธาตพฺพนฺติ อยมารมฺโภ กโต. กฺริยาย อสตฺวภูตาย อพฺยตฺตลิงฺคตฺตา อเภทกสงฺขฺยตฺตา สาเธตพฺพรูปตฺตา จ ตพฺพิเสสนมปิ นปุํสกํ เอกวจนนฺตํ ทุติยนฺตํ ปยุชฺชเต;
วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ.๓ เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ.๔ ตํ สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ๕ อิจฺเจวมาทิ. ตตฺถ วิสมนฺติ วิสเมนากาเรน. เอกมนฺตนฺติ เอโกกาสํ; เอกปสฺสนฺติ อตฺโถ; ภุมฺมตฺเถ วา อุปโยควจนํ.
๕๙๑. กรเณ ตติยา.1
อคฺคิยา กุฏึ ฌาเปติ. ธนุนา วิชฺฌติ.
๕๙๒. สหาทิโยเค จ.2
สห สทฺธึ สมํ นานาวินา อลมิจฺเจวมาทีหิ โยเค ตติยาวิภตฺติ โหติ. ตตฺถ สหสทฺเทน โยโค กฺริยาคุณทพฺพสมวาเย สมฺภวติ;
ยถา วิตกฺเกน สห วตฺตติ.๖ ปุตฺเตน สห ถูโล; อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริเกหิ สห อาจริยุปชฺฌายานํ ลาโภ. นิสีทิ ภควา สทฺธึ ภิกฺขุสํเฆน.๑ สหสฺเสน สมํ มิตา.๒ สพฺเพหิ เม ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว.๓ สํโฆ วินาปิ คคฺเคน อุโปสถํ กเรยฺย.๔ อลนฺเต อิธ วาเสน.๕ กึ เม เอเกน ติณฺเณน; ปุริเสน ถามทสฺสินา.๖ กินฺเต ชฏาหิ ทุมฺเมธ.๗ กินฺเต วกฺกลิ อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเฐน๘ อิจฺเจวมาทิ.
๕๙๓. สหตฺเถ.
สหตฺเถ จ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
เทวทตฺโต ราชคหํ ปาวิสิ โกกาลิเกน ปจฺฉาสมเณน;
ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส.๙
๕๙๔. กตฺตริ ปฐมา ตติยา จ.1
อาขฺยาตาภิหิเต กตฺตริ ปฐมาวิภตฺติ โหติ.
กิตาขฺยาเตหิ อนภิหิเต กตฺตริ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
ภควา ธมฺมํ เทเสติ; ภควตา ธมฺโม เทสิยติ; อหิ นรํ ทํสติ; อหินา ทฏฺโฐ นโร.
๕๙๕. ทุติยตฺเถ ตติยา.
ทุติยตฺเถ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
ติเลหิ เขตฺเต วปฺปติ; สํวิภเชถ โน รชฺเชน.๑๐
เอตฺถ จ ติเลหีติ ติลานิ; อถวา หีติ นิปาตมตฺตํ; ติเลติ อุปโยควจนนฺตํ; “จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณ”นฺติ๑๑ เอตฺถ “รูเป”ติ ปทํ วิย.
๕๙๖. ปญฺจมิยตฺเถ.
ปญฺจมิยตฺเถ จ ตติยาวิภตฺติ โหติ. สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน.๑๒
ปถพฺยา เอกรชฺเชน; สคฺคสฺส คมเนน วา.
สพฺพโลกาธิปจฺเจน; โสตาปตฺติผลํ วรนฺติ.๑
๕๙๗. ปจฺจตฺเต.
ปจฺจตฺเต จ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
มณินา เม อตฺโถ.๒
ครู ปน “อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนี”ติ๓ ปโยคมปิ อิจฺฉนฺติ; ตํ น ยุชฺชติ; เอตฺถ หิ ภิกฺขุ กตฺตา ภวติ; ตสฺมา “อตฺตนาวา”ติ อิทํ วิเสสนํ ภวติ; ตญฺจ ปเรหิ สมฺมนฺนนํ นิวตฺเตติ. ยถา ปน “อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ; ปเร จ ปาณาติปาเต สมาทเปตี”ติ๔ เอตฺถ ปุคฺคโล อตฺตา จ ปาณาติปาตี โหตีติ ปฐมายตฺโถ นุปปชฺชติ; ปุคฺคโล สยญฺจ ปาณาติปาตี โหตีติ ตติยายตฺโถเยวูปปชฺชติ;
ตถา “อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนี”ติ เอตฺถ ภิกฺขุ อตฺตาว อตฺตานํ สมฺมนฺนีติ ปฐมายตฺโถ นุปปชฺชติ; ภิกฺขุ สยเมว อตฺตานํ สมฺมนฺนีติ ตติยายตฺโถเยวูปปชฺชติ. อยํ ปน สยํสทฺโท ตติยายตฺเถ วตฺตติ; อตฺตนาสทฺทสฺส จ สยํสทฺเทน สมานตฺถตา อติวิย สาสเน ปสิทฺธา; ตสฺมา อตฺตนาสทฺโท ตติยตฺเถว ตติยาวจนนฺโต หุตฺวา สมฺมนฺนนํ วิเสเสตีติ ทฏฺฐพฺพํ. อปโร นโย อตฺตนาติ อยํ สทฺโท วิภตฺยนฺตปฏิรูปโก อพฺยยสทฺโทติ.
๕๙๘. อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ.
อิมํ ปการํ ปตฺโต ปุคฺคโลติ เอวํ วตฺตพฺพสฺส อิตฺถมฺภูตสฺส ลกฺขเณ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
สา ภินฺเนน สีเสน ปคฺฆรนฺเตน โลหิเตน ปฏิวิสกานํ อุชฺฌาเปสิ.๕
อูนปญฺจพนฺธเนน ปตฺเตน อญฺญํ นวํ ปตฺตํ เจตาเปยฺย.๖
ตตฺถ ภินฺเนน สีเสนาติ ภินฺนสีสา หุตฺวา; เอส นโย อิตรตฺราปิ. อิติ พุทฺธสาสเน ทฺวีสุ สมานาธิกรณปเทสุ ฐิเตสุ อิตฺถมฺภูตลกฺขณํ ภวติ. สทฺทสตฺเถ ปน วินา สมานาธิ-กรณปทํ อิตฺถมฺภูตลกฺขณํ วทนฺติ. ติทณฺฑเกน ปริพฺพาชกมทกฺขีติ ติทณฺฑเกน อุปลกฺขิตํ ปริพฺพาชกมทกฺขีติ อตฺโถ.
เอวํ “เสตจฺฉตฺเตน ราชานมทกฺขี”ติ เอตฺถาปิ.
๕๙๙. กฺริยาปวคฺเค.
กฺริยาย อาสุํ ปรินิฏฺฐาปนํ กฺริยาปวคฺโค; ตสฺมึ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
เอกาเหเนว พาราณสึ ปายาสิ;
นวหิ มาเสหิ วิหารํ นิฏฺฐาเปสิ.
๖๐๐. ปุพฺพสทิสสมูนกลหนิปุณมิสฺสกสขิลาทิโยเค.
ปุพฺพสทิสอิจฺเจวมาทีหิ โยเค จ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
มาเสน ปุพฺโพ; ปิตรา สทิโส; มาตรา สโม; กหาปเณนูโน; อสินา กลโห; วาจาย กลโห; อาจาเรน นิปุโณ; วาจาย นิปุโณ; คุเฬน มิสฺสโก; ติเลน มิสฺสโก; วาจาย สขิโล อิจฺเจวมาทิ.
๖๐๑. เหตุตฺถปฺปโยเค.1
เหตุตฺเถ จ เหตุตฺถปฺปโยเค จ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
อนฺเนน วสติ; สทฺธาย ตรติ โอฆํ.๑ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.๒ น ชจฺจา วสโล โหติ.๓ สเตน พทฺโธ นโร; เอวํ เหตุตฺเถ. เกน นิมิตฺเตน; เกน วณฺเณน; เกน เหตุนา.๔ เกนฏฺเฐน.๕ เกน ปจฺจเยน; เอวํ เหตุตฺถปฺปโยเค.
๖๐๒. สตฺตมิยตฺเถ.2
สตฺตมิยตฺเถ จ ตติยาวิภตฺติ โหติ; กาลทฺธานทิสาเทสาทีสุ จายํ.
เตน สมเยน.๖ เตน กาเลน.๗ กาเลน ธมฺมสวนํ.๘
โส โว มมจฺจเยน สตฺถา.๑ มาเสน ภุญฺชติ; โยชเนน ธาวติ; ทกฺขิเณน วิรูฬฺหโก.๒ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ อิจฺเจวมาทิ.
๖๐๓. เยนงฺควิกาโร.1
เยน พฺยาธิมตา องฺเคน องฺคิโน วิกาโร ลกฺขิยติ; ตตฺถ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
อกฺขินา กาโณ; หตฺเถน กุณี; ปาเทน ขญฺโช; ปิฏฺฐิยา ขุชฺโช.
๖๐๔. วิเสสเน ปกติอาทีสุ จ.2
วิเสสิยติ วิเสสิตพฺพมเนนาติ วิเสสนํ; โคตฺตาทิ; ตสฺมึ โคตฺตนามชาติสิปฺปวโย-คุณาลงฺการสงฺขาเต วิเสสนตฺเถ ปกติอาทีสุ จ ตติยาวิภตฺติ โหติ.
โคตฺเตน โคตโม นาโถ.๓ สาริปุตฺโตติ นาเมน; วิสฺสุโต ปญฺญวา จ โส.๓ ชาติยา ขตฺติโย พุทฺโธ.๔ ชาติยา สตฺตวสฺสิโก.๕ สิปฺเปน นฬกาโร โส; เอกูนตึโส วยสา สุภทฺท.๖ วิชฺชาย สาธุ; ตปสา อุตฺตโม; สุวณฺเณน อภิรูโป; เยหิ อลงฺกาเรหิ มทฺที อโสภถ.๗ ปกติยา อภิรูโป; เยภุยฺเยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ ทสฺสนาโยปสงฺกมึสุ.๘ วิสเมน ธาวติ; ทฺวิโทเณน ธญฺญํ กิณาติ; สหสฺเสน อสฺสเก วิกฺกิณฺณาติ อิจฺจาทิ.
๖๐๕. สมฺปทาเน จตุตฺถี.3
พุทฺธสฺส ทานํ เทติ; ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา.๙
๖๐๖. นโมโสตฺถิสฺวาคตาทิโยเค จ.4
นโมโสตฺถิสฺวาคตํอิจฺจาทีหิ โยเค จ จตุตฺถีวิภตฺติ โหติ.
นโม เต พุทฺธ วีรตฺถุ.๑๐ นโม กโรหิ นาคสฺส.๑๑
โสตฺถิ ปชานํ.๑ สพฺพสตฺตานํ สุวตฺถิ โหตุ; สฺวาคตํ เต มหาราช; อโถ เต อทุราคตํ.๒ สฺวาคตํ วต เม อาสิ.๓
๖๐๗. อปาทาเน ปญฺจมี.1
ปาปา จิตฺตํ นิวารเย.๔ อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.๕ ภยา มุจฺจติ โส นโร.
๖๐๘. การณตฺเถ จ.2
การณตฺเถ จ ปญฺจมีวิภตฺติ โหติ. อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ยถาภูตมทสฺสนา.๖ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา.๗
๖๐๙. ฉฏฺฐี สามิมฺหิ.3
อนฺวตฺถวเสน วา รูฬฺหิวเสน วา สามีติ สงฺขํ คเต อตฺเถ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ. รญฺโญ ธนํ; เทวานมินฺโท.๘ อมฺพวนสฺส อวิทูเร; ราสิ สุวณฺณสฺส; อญฺเญปิ ฉฏฺฐีปโยคา โยเชตพฺพา. ยสฺส สํ, ยสฺส วา ปติ; ตํ สามีติ เอตฺถ วิกปฺปนตฺเถน วาสทฺเทน สพฺเพสมฺปิ ฉฏฺฐีปโยคานํ คหิตตฺตา.
๖๑๐. กฺริยาการกชาเต อสฺเสทมิติภาวเหตุมฺหิ.
อถวา กฺริยาการกโต ชาเต อสฺส อิทนฺติ ภาวเหตุภูเต อตฺเถ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ. รญฺโญ ปุริโส; เทวานํ ราชา อิจฺเจวมาทิ.
๖๑๑. ภาวเหตุมตฺเถ.
อสฺส อิทนฺติ ภาวเหตุมตฺเถ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ. ภิกฺขุโน ปฏิวีสํ; ภิกฺขุโน มุขํ; ปพฺพตกูฏสฺส ฉายา. กุเวรสฺส พลิ อิจฺเจวมาทิ.
๖๑๒. สมฺพนฺธสมฺพนฺธีสมฺพนฺเธสุ.
สุทฺธสมฺพนฺเธ จ สมฺพนฺธีภาวมุปคเต สมฺพนฺเธ จ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ. รญฺโญ ปุโรหิตสฺส ทาโส. รญฺโญ ปุตฺตสฺส ฆรํ.
อหํ กปิลวตฺถุสฺมึ; สากิยานํ ปุรุตฺตเม.
สุทฺโธทนสฺส ปุตฺตสฺส; กณฺฏโก สหโช อหุํ.๑
๖๑๓. วิเสสนวิเสสิตพฺพานํ วา สมฺพนฺธนํ สมฺพนฺโธ.
อถวา วิเสสนสฺส วิเสสิตพฺพสฺส จ ทฺวินฺนํ อญฺญมญฺญํ สมฺพนฺธนํ สมฺพนฺโธ นามาติ เวทิตพฺพํ.
๖๑๔. สมฺพนฺธทฺวยาธาเร.
สมฺพนฺธทฺวยาธาเร ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ. รญฺโญ ปุริเสน อิจฺเจวมาทิ.
๖๑๕. ภาควิสิฏฺฐตฺเถ.
ภาเคน วิเสสิเต อตฺเถ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส.๒ วสฺสานํ ตติเย มาเส. กปฺปสฺส ตติโย ภาโค.
๖๑๖. อเภเท เภโทปจาเร.
สิลาปุตฺตสฺส สรีรํ. ปาสาณสารํ ขณสิ; กณิการสฺส ทารุนา.๓
๖๑๗. ฉวสีสโต ตกฺกตภาชเน.
ฉวสีสสฺส ปตฺโต.๔
๖๑๘. วิสิเลเส.
สนฺธิโน โมกฺโข.
๖๑๙. รุชติโยเค.
เทวทตฺตสฺส รุชติ.
๖๒๐. ปริมาณคณนโยเค.
ติลานํ มุฏฺฐิ. สิปฺปิกานํ สตํ นตฺถิ.๕
๖๒๑. อพฺยยทิสาโยเค.
วสลสฺส กตฺวา. ตสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ.๖ ตสฺส ปจฺฉโต. อารกาว วิชานตํ.๗ นครสฺส ทกฺขิณโต.
๖๒๒. ปทโยเค.
ปมาโท มจฺจุโน ปทํ.๑ สพฺพธมฺมานํ ปทํ สีลํ.
๖๒๓. ภาวตฺถโยเค.
ปญฺญาย ปฏุภาโว. รูปสฺส ลหุตา.๒
๖๒๔. เหตุโยเค.
พุทฺธสฺส เหตุ วสติ. เอกสฺส การณา มยฺหํ; หึเสยฺย พหุโก ชโน.๓
๖๒๕. อุชฺฌาปนาทิโยเค.
มหาเสนาปตีนํ อุชฺฌาเปตพฺพํ วิกฺกนฺทิตพฺพํ วิรวิตพฺพํ.๔ ปฏิวิสกานํ อุชฺฌาเปสิ.๕ กฺวจิ น ภวติ. อุชฺฌาเปตฺวาน ภูตานิ; ตมฺหา ฐานา อปกฺกมีติ.๖
๖๒๖. ภาวสาธนาทิโยเค.
รูปสฺส อุปจโย.๗ ขนฺธานํ ชีรณํ เภโท.๘ เตสํ เตสํ สตฺตานํ จุติ.๘ นตฺถิ นาสาย รูหนา.๙ ธาตูนํ คมนํ. อญฺชนานํ ขโย.๑๐ อจฺฉริโย โคณานํ โทโห อโคปาลเกน. อจฺฉริโย อรชเกน วตฺถานํ ราโค. สาธุ ขลุ ปยโส ปานํ ยญฺญทตฺเตน. ราคาทีนํ ขโย นิพฺพานํ.๑๑ กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺมํ.๑๒ พีชานํ อภิสงฺขาโร. อริยธมฺมสฺส ปฏิลาโภ. ปุญฺญานํ อภิสนฺโท.๑๓ อคฺคิโน โหโม. สิกฺขาปทานํ ปญฺญตฺติ อิจฺเจวมาทิ.
๖๒๗. ยุณฺวุตุปจฺจยานํ กมฺมนิ.
โมโห เญยฺยสฺสาวรโณ. วณสฺสาโรปนํ เตลํ.
รุกฺขสฺส เฉทโน ปรสุ. ปาทสฺส อุกฺขิปนํ. อวิสํวาทโก โลกสฺส.๑๔
ปถวิยา กสฺสโก. กมฺมสฺส การโก นตฺถิ.๑ สหสา กมฺมสฺส กตฺตาโร อิจฺจาทิ.
๖๒๘. ภีรุตาโยเค ทุติยาตติยาโย จ.
ภีรุตาโยเค ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ; ทุติยาตติยาวิภตฺติโย จ. อิทํ ปน ลกฺขณํ ปาฬินยาเยวานุกูลํ กตฺวา ปญฺจมิปฏิเสธนตฺถํ วุตฺตํ.
ครู ปน ภยปฺปโยเค ปญฺจมึเยว อิจฺฉนฺติ. ยตฺถ หิ ปญฺจมี น ทิสฺสติ; ตตฺถ ปโยเค วิภตฺติวิปลฺลาสวเสน ปญฺจมิยตฺถํ ภณนฺติ.
มา ภิกฺขเว ปุญฺญานํ ภายิตฺถ.๒ ภีโต จตุนฺนํ อาสีวิสานํ.๓ มุสาวาทสฺส โอตฺตปฺปํ.๔ สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส; สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน.๕ ภายถ ทุกฺขนฺตํ. นาหํ ภายามิ อาวุโส.๖ น มํ โกจิ อุตฺตสติ.๗ โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพน.๘ เอวํ ภีรุตาโยเค ฉฏฺฐีทุติยาตติยาโย ภวนฺติ.
อตฺริทํ วุจฺจติ—
ฉฏฺฐี จ ภีรุตาโยเค; ทุติยา ตติยาปิ จ.
ตีเณว ปาฬิยํ โหติ; น ตุ สมฺโภติ ปญฺจมีติ.
ปาฬิยนฺติ กิมตฺถํ ?
“โจรา ภยํ ชายตี”ติอาทีสุ อปาฬิปฺปเทเสสุ ปญฺจมี โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. เอตฺถาห “นนุ จ โภ ปาฬิยมฺปิ ‘ยโต เขมํ ตโต ภย’นฺติ๙ ภีรุตาโยเค ปญฺจมีปโยโค ทิสฺสตี”ติ ? ตนฺน, อุปาตตฺถวิสยตฺตา๑๐ ตสฺส ปโยคสฺส. ตตฺถ หิ อุปฺปนฺนนฺติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. ตถา หิ ชาตํ สรณโต ภยํ.๑๑ ตํวณฺณวิสยา อญฺญา ตาทิสี ปาฬิ ทิสฺสติ. อปิจ “โจรา ภยํ ชายตี”ติ เอตฺถาปิ ชายติสทฺทวเสเนว ปญฺจมี อวสฺสํ ลพฺภตีติ ทฏฺฐพฺพํ.
๖๒๙. อาคมิฏฺฐานิโต จ.
ปุถสฺส คาคโม; โอ อวสฺสาติ จ นิทสฺสนํ.
๖๓๐. โอกาเส สตฺตมี.1
คมฺภีเร คาธเมธติ.๑ ปาปสฺมึ รมตี มโน.๒
ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ กุลปุตฺโต; กํสปาติยํ ภุญฺชติ.
๖๓๑. สามิสฺสราธิปติทายาทสกฺขิปติภูปสุตกุสลาทีหิ.2
สามิ-อิสฺสร-อธิปติ-ทายาท-สกฺขิ-ปติภู-ปสุต-กุสล-อิจฺเจวมาทีหิ ปโยเค ฉฏฺฐี-
วิภตฺติ โหติ สตฺตมี จ.
โคณานํ สามิ; โคเณสุ สามิ; เอวํ อิสฺสโร อธิปติ ทายาโท สกฺขิ ปติภู ปสุโต กุสโล; อตฺถานํ โกวิโท; อตฺเถสุ โกวิโท; อมจฺเจ ตาต ชานาหิ; ธีเร อตฺถสฺส โกวิเท.๓
๖๓๒. อุพฺพาหเน จ.3
อุพฺพาหนสงฺขาเต นิทฺธารเณ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ สตฺตมี จ.
เอตฺถ จ อุพฺพาหนนฺติ สาสเน โวหาโร; นิทฺธารณนฺติ สทฺทสตฺเถ. ตตฺถุพฺพาหนํ นาม ชาติคุณกฺริยาหิ ราสิโต อุทฺธริตฺวา นีหรณํ; นิทฺธารณํ นาม เตหิ เอว ชาติอาทีหิ สมุทายโต เอกสฺส ปุถกฺกรณํ นีหริตฺวา ธารณํ; อุภยมฺปิ ปเนตํ พฺยญฺชนมตฺเตน นานํ; อตฺถโต ปน นินฺนานากรณํ. ตสฺมึ นิทฺธารเณ คมฺมมาเน สมุทายวาจิลิงฺคมฺหา ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ สตฺตมี จ.
มนุสฺสานํ ขตฺติโย สูรตโม; มนุสฺเสสุ ขตฺติโย สูรตโม; กณฺหา คาวีนํ สมฺปนฺนขีรตมา; กณฺหา คาวีสุ สมฺปนฺนขีรตมา; สามา นารีนํ ทสฺสนียตมา; สามา นารีสุ ทสฺสนียตมา; ปถิกานํ ธาวนฺโต สีฆตโม; ปถิเกสุ ธาวนฺโต สีฆตโม อิจฺเจวมาทิ.
เยภุยฺเยน พหุวจนปฺปโยโค; “อธิปติปจฺจเย สหชาตาธิปติ นามธมฺเมกเทโส”ติ อิทํ เอกวจนนฺตํ สตฺตมีนิทฺธารณํ.
๖๓๓. อนาทรมฺหิ จ.1
อนาทรมฺหิ จ คมฺยมาเน ภาววตา ลิงฺคมฺหา ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ สตฺตมี จ. รุทโต ทารกสฺส ปพฺพชิ; รุทนฺตสฺมึ ทารเก ปพฺพชิ; อาโกฏยนฺโต เต เนติ; สิวิราชสฺส เปกฺขโต.๑ มจฺจุ คจฺฉติ อาทาย; เปกฺขมาเน มหาชเน.
๖๓๔. กฺวจิ ตติยาสตฺตมิยตฺเถ ฉฏฺฐี.2
เอตฺถายํ นิยโม; กตฺตริ กิตปฺปจฺจยโยเค พุทฺธโฆสสฺส กตํ; พุทฺธโฆเสน วา; เอวํ กจฺจายนสฺส กตํ; กจฺจายเนน วา; รญฺโญ สมฺมโต; รญฺญา วา; เอวํ รญฺโญ ปูชิโต; รญฺโญ สกฺกโต; รญฺโญ อปจิโต; รญฺโญ มานิโต.๒ อมตํ เตสํ ภิกฺขเว อปริภุตฺตํ; เยสํ กายคตาสติ อปริภุตฺตา.๓ ครู ปน “กตา เม กลฺยาณา อเนกรูปา”ติ๔ เอตฺถาปิ ตติยตฺเถ ฉฏฺฐิมิจฺฉนฺติ; ตมฺปิ “ตทา หิ ปกตํ กมฺมํ; มม ตุยฺหญฺจ มาริสา”ติ๕ ทสฺสนโต ยุชฺชเตว.
๖๓๕. ตติยตฺเถ วา ตติยา.
ตถา หิ ทฺวาธิปฺปายิโกปิ ปโยโค ทิสฺสติ. ยถา “อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี”ติ.๖
๖๓๖. ยชสฺส กรเณ.
ฆตสฺส อคฺคึ ยชติ; ฆเตน วา; เอวํ ปุปฺผสฺส พุทฺธํ ยชติ.
๖๓๗. ปูริตตฺถโยเค.
ปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส.๗ ปุญฺเญนาติ อตฺโถ. ปตฺตํ โอทนสฺส ปูเรตฺวา; อิมเมว กายํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ.๘
๖๓๘. ตุลฺยตฺถกิ’มลมาทิโยเค.
ปิตุสฺส ตุลฺโย; ปิตรา ตุลฺโย วา. มาตุยา สทิโส; มาตรา สทิโส วา. กึ ตสฺส จตุมฏฺฐสฺส;๑ กึ เตน จตุมฏฺเฐนาติ อตฺโถ. อลํ ตสฺส จตุมฏฺฐสฺส; อสฺสโม สุกโต มยฺหํ.๒
เอวํ ตติยตฺเถ ฉฏฺฐี ภวติ.
๖๓๙. สตฺตมิยตฺเถ กุสลาทิโยเค.
กุสลา นจฺจคีตสฺส; สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย;๓ กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคานํ.๔ กุสโล มคฺคสฺส; กุสโล อมคฺคสฺส.๕ สนฺติ หิ ภนฺเต อุฬารา ยกฺขา ภควโต ปสนฺนา.๖ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ; ทิวเส ติกฺขตฺตํุ วา; มาสสฺส ติกฺขตฺตุํ; กุโต นุ ตฺวํ มหาราช อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสาติ๗ อิจฺเจวมาทิ.
เอวํ สตฺตมิยตฺเถ ฉฏฺฐี ภวติ.
๖๔๐. ทุติยาปญฺจมีนญฺจ.1
ทุติยาปญฺจมีนญฺจ อตฺเถ กฺวจิ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ.
ตตฺถ กมฺมนิ กิตกโยเค— ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.๘ สหสา กมฺมสฺส กตฺตาโร; อมตสฺส ทาตา.๙ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท๑๐ อิจฺเจวมาทิ. ตถา สริจฺฉาทีนํ
กมฺมนิ— มาตุ สรติ; มาตรํ สรติ; น เตสํ โกจิ สรติ; สตฺตานํ กมฺมปฺปจฺจยา.๑๑ ปุตฺตสฺส อิจฺฉติ; ปุตฺตมิจฺฉติ.
กโรติสฺส ปติยตเน จ. ปติยตนํ อภิสงฺขาโร. อุทกสฺส ปติกุรุเต; อุทกํ ปติกุรุเต; กณฺฑสฺส ปติกุรุเต; กณฺฑํ ปติกุรุเต; เอวํ ทุติยตฺเถ ฉฏฺฐี ภวติ.
ปญฺจมิยตฺเถ วิภตฺเต ปริหานิโยเค จ. ฉนฺนวุตีนํ ปาสณฺฑานํ ธมฺมานํ ปวรํ ยทิทํ สุคตวินโย; ฉนฺนวุตีหิ ปาสณฺเฑหิ ธมฺเมหิ ปวโรติ อตฺโถ. “อิโต พหิทฺธา ปาสณฺฑา”ติ๑ หิ ปาฬิ ทิสฺสติ. อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ.๒ อิธ น ภวติ “ยทิหํ ตสฺส กุปฺเปยฺยํ ฯเปฯ ปริหายิสฺสามิ สีลโต”ติ.๓ เอวํ ปญฺจมิยตฺเถ ฉฏฺฐี ภวติ.
ครู ปน ปญฺจมิยตฺเถ ภยตฺถโยเคปิ ฉฏฺฐิมิจฺฉนฺติ; กึ นุ โข อหํ ตสฺส สุขสฺส ภายามิ.๔ สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส; สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน.๕ ภีโต จตุนฺนํ อาสีวิสานํ.๖ อิจฺจาทิ. ตตฺถ ตสฺส สุขสฺสาติ ตสฺมา สุขาติ อตฺโถ.
อตฺรายํ วินิจฺฉโย—
ยถา ปริหานิโยเค ฉฏฺฐีปญฺจมีนํ วเสน ปาฬิยํ เทฺว ปโยคา ทิสฺสนฺติ “ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ. ปริหายิสฺสามิ สีลโต”ติ; น ตถา ภยตฺถโยเค เทฺว ปโยคา ทิสฺสนฺติ. “ชาตํ สรณโต ภย”นฺติ๗อาทีสุ ปน ชาตสทฺทาทิโยเคน “สรณโต”ติอาทีนิ ปญฺจมิยนฺตานิ ภวนฺติ, น ภยตฺถโยควเสน. “ยโต เขมํ ตโต ภย”นฺติ๗
อตฺราปิ “อุปฺปนฺน”นฺติ อชฺฌาหารวเสน “ตโต”ติ ปญฺจมิยนฺตํ ปทํ ภวติ, น ภยตฺถโยควเสน. ตสฺมา เหฏฺฐา วิสุํ ลกฺขณํ ฐปิตํ.
กฺวจีติ กึ ?
คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา.๘ กาเลน ธมฺมีกถํ ภาสิตา โหติ.๙ ปเรสํ ปุญฺญานิ อนุโมทิตา. พุชฺฌิตา สจฺจานิ.๑๐ กฏํ การโก. ปสโว ฆาตโก.
ตถา นิฏฺฐาทีสุ— สุขกามี วิหารํ กโต. รถํ กตวนฺโต; รถํ กตาวี. หตฺถิสฺมิมฺปิ กตาวี.๑๑ กฏํ กตฺตา. กฏํ กโรนฺโต; กฏํ กราโน; กฏํ กุรุมาโน อิจฺจาทิ.
๖๔๑. กมฺมกรณนิมิตฺตตฺเถสุ สตฺตมี.1
สุนฺทรา อาวุโส อิเม อาชีวกา ภิกฺขูสุ อภิวาเทนฺติ.๑๒ เอวํ กมฺมตฺเถ. หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ.๑ ปตฺเตสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ. ปเถสุ คจฺฉนฺติ; เอวํ กรณตฺเถ จ. อชินมฺหิ หญฺญเต ทีปิ; กุญฺชโร ทนฺเตสุ หญฺญเต.๒ เอวํ นิมิตฺตตฺเถ.
๖๔๒. สมฺปทาเน จ.1
สมฺปทาเน จ สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
สํเฆ ทินฺนํ มหปฺผลํ.๓ สํเฆ โคตมิ เทหิ;
สํเฆ ทินฺเน อหญฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ.๔
๖๔๓. ปญฺจมิยตฺเถ จ.2
ปญฺจมิยตฺเถ จ สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
กทลีสุ คเช รกฺขนฺติ.
๖๔๔. กาลภาเวสุ จ.3
กาลตฺเถสุ จ ภาวลกฺขเณ ภาเว จ ลิงฺคมฺหา สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
เอตฺถ จ กาโล นาม ขณลยมุหุตฺตปุพฺพณฺหาทิโก สมโย; ตตฺถ ทสจฺฉรปฺปมาโณ กาโล ขโณ นาม; เตน ขเณน ทสขโณ กาโล ลโย นาม; เตน ลเยน ทสลโย กาโล ขณลโย นาม; เตน ทสคุโณ มุหุตฺโต นาม. มุหุตฺเตน ทสคุโณ ขณมุหุตฺโต นามาติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ภาโว นาม กฺริยา; สา “ธาตฺวตฺโถ”ติปิ วุจฺจติ. สา เจตฺถ กฺริยนฺตโรปลกฺขณาว อธิปฺเปตา.
เตสุ กาเล— ปุพฺพณฺหสมเย คโต; สายนฺหสมเย อาคโต. อกาเล วสฺสติ ตสฺส; กาเล ตสฺส น วสฺสติ.๕ ผุสฺสมาสมฺหา ตีสุ มาเสสุ วิสาขมาโส. อิโต สตสหสฺสมฺหิ; กปฺเป อุปฺปชฺชิ จกฺขุมา.๖
ภาเว— ภิกฺขูสุ โภชิยมาเนสุ คโต. ภุตฺเตสุ อาคโต. โคสุ ทุยฺหมานาสุ คโต. ทุทฺธาสุ อาคโต อิจฺเจวมาทิ. ตตฺร ภิกฺขูสูติ ภาวสตฺตมี. กถํ ภาวสตฺตมี นาม ภวตีติ เจ ? ภาววเสน ลทฺธา สตฺตมี ภาวสตฺตมีติ อตฺถวเสน. เอตฺถ ภาโวติ กฺริยา. ยสฺส หิ ภาเวน ภาวลกฺขณํ ภวติ; ตสฺมึ สตฺตมี ภวติ.
อิทํ วุตฺตํ โหติ— ยสฺส กฺริยาย อญฺญสฺส กฺริยาย ลกฺขณํ สลฺลกฺขณํ ชานนํ ภวติ; ตสฺมึ ปฐมกฺริยาวติ ปุคฺคเล สตฺตมีวิภตฺติ อุปลพฺภตีติ. ตทตฺถโชตกมิทํ สุตฺตํ.
“อถ โข มาโร ปาปิมา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท เยน ภควา เตนุป-สงฺกมี”ติ๑ ตตฺถ มารสฺส ภควนฺตํ อุปสงฺกมนกฺริยา อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภควโต สนฺติกา ปกฺกมนกฺริยาย ลกฺขิยติ; ตสฺมา ตสฺมึ ปกฺกมนกฺริยาวติ อายสฺมนฺเต อานนฺเท สตฺตมีวิภตฺติ ภวติ. อิมสฺมึ ฐาเน เยภุยฺยวเสน สมานาธิกรณภูเต ภาววาจกปเท วิชฺชมาเนเยว สมานาธิกรณปทวติ ปเท ภาวสตฺตมีติ โวหาโร ปวตฺตติ.
ครู1 ปน กตฺถจิ ฐาเน สมานาธิกรณภูตํ ภาววาจกปทํ อวิชฺชมานมฺปิ อาหริตฺวา สมานาธิกรณํ ปทํ กตฺวา ตตฺถ ภาวสตฺตมีติ โวหรนฺติ. ตถา หิ เต ”สติ,๒ คมฺมมาเน, วตฺตพฺเพ”ติ จ อาทีนิ ยถารหมชฺฌาหรนฺติ.
ตตฺถ สิยา “ยทิ ภิกฺขูสุ โภชิยมาเนสู”ติ เอตฺถ ‘ภิกฺขูสู’ติ อยํ ภาววเสน ลทฺธา สตฺตมีติ ภาวสตฺตมี นาม สิยา; ‘โภชิยมาเนสู’ติ เอสา ปน กตรา นาม สตฺตมี สิยา; กตเรน จ ลกฺขเณน สาเธตพฺพา”ติ ? ตุลฺยาธิกรณสตฺตมี นาม; เอสา อเนเนว จ ลกฺขเณน สาเธตพฺพาติ.
นนุ เอสาเยว ภาเว วตฺตมานา สตฺตมี ภาวสตฺตมีติ อนฺวตฺถวเสน วตฺตพฺพาติ ?
สจฺจํ; ตถาปิ ภาวสตฺตมีติ โวหาโร ตาทิเสสุ โปราเณหิ น อาโรปิโต; อิตรตฺร ปนาโรปิโตติ ทฏฺฐพฺโพ.
ยถา ปน “วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ; พุทฺธํ วนฺทาม โคตม”นฺติ๑ เอตฺถ พุทฺธนฺติ “กมฺมตฺเถ ทุติยา”ติ อเนน สิทฺธํ; “วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ โคตม”นฺติ จ อเนเนว; ตถา ภาวสตฺตมีวิสเยปิ วุตฺตปฺปกาเรเนว ลกฺขเณน สมานาธิกรณปเทสุ วิภตฺตุปฺปตฺติ สิชฺฌติ; เอวํ สนฺเตปิ ยถา “วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ; พุทฺธํ วนฺทาม โคตม”นฺติอาทีสุ เทฺว กมฺมานิ, ตีณิ กมฺมานิ, จตฺตาริ กมฺมานีติอาทินา พหูนิ กมฺมานิ น อิจฺฉิตานิ; เอกเมว กมฺมมิจฺฉิตํ, พหูหิ ปเทหิ เอกสฺเสวตฺถสฺส กถิตตฺตา;1 เอวเมว “ภิกฺขูสุ โภชิยมาเนสุ, อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท”ติ จ อาทีสุปิ เทฺว ภาวสตฺตมิโย, ติสฺโส ภาวสตฺตมิโย, จตสฺโส ภาวสตฺตมิโยติอาทินา พหู ภาวสตฺตมิโย น อิจฺฉิตพฺพา; เอกาเยว ภาวสตฺตมี อิจฺฉนียา, พหูหิ ปเทหิ เอกสฺเสวตฺถสฺส กถิตตฺตา; เอส นโย สมานาธิกรณสมฺปทานาทีสูติ นิฏฺฐเมตฺถาวคนฺตพฺพํ.
๖๔๕. อุปาธิโยเค อธิกิสฺสรวจเน.1
ยสฺมา อุปอธิอิจฺเจเต อธิกิสฺสรวจเน วตฺตนฺติ; ตสฺมา เตสํ อุปอธีนํ โยเค คมฺมมาเน อธิกวจเน จ อิสฺสรวจเน จ สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
เอตฺถ จ “อิสฺสรวจน”นฺติ อิทํ ทฺวิธา คหิตํ อิสฺสรสฺส วจนํ อุทีรณนฺติ อิสฺสรวจนํ, อิสฺสรวจนํ ยสฺส วตฺถุโน ตํ อิสฺสรวจนนฺติ จ. เต นิสฺสรปริทีปกวจเน ยสฺส กสฺสจิ อยมิสฺสโรติ วทนฺติ; ตํทีปกวจเน จ สตฺตมีวิภตฺติ โหติ. อุป ขาริยํ โทโณ; ขาริยา โทโณ อธิโกติ อตฺโถ. อุป นิกฺเข กหาปณํ; นิกฺขสฺส กหาปณํ อธิกนฺติ อตฺโถ. อธิ พฺรหฺมทตฺเต ปญฺจาลา; พฺรหฺมทตฺติสฺสรา ปญฺจาลาติ อตฺโถ. อธิ นจฺเจ โคตมี; นจฺจิสฺสรา โคตมีติ อตฺโถ. อธิ เทเวสุ พุทฺโธ; สมฺมุติเทวาทิเทวิสฺสโร พุทฺโธติ อตฺโถ.
เกจิ ปน ครู อธิสทฺทสฺส อธิกตฺถตํ คเหตฺวา ติวิเธหิปิ เทเวหิ สพฺพญฺญุพุทฺโธ อธิโกติ อตฺโถติ อตฺถํ วทนฺติ.
เอตฺถ สิยา “อธิ พฺรหฺมทตฺเต‘ติ, ‘อธิ เทเวสู’ติ จ อิทํ กึ สมาสปทํ; อุทาหุ พฺยาสปท”นฺติ ? พฺยาสปทนฺติ คเหตพฺพํ.
ตถา หิ ยทิ สมาสปทํ สิยา; “อิสฺสรภูเต พฺรหฺมทตฺเต ปญฺจาลา”ติ จ “อิสฺสรภูเตสุ เทเวสุ พุทฺโธ”ติ จ อนิจฺฉิตตฺถาปตฺติ สิยา; ตสฺมา พฺยาสวเสน “โคสุ อิสฺสโร”ติ เอตฺถ วิย “อิสฺสรา พฺรหฺมทตฺเต ปญฺจาลา; อิสฺสโร เทเวสุ พุทฺโธ”ติ อตฺโถ อวคนฺตพฺโพ; เอส นโย “อธิ นจฺเจ โคตมี”ติ เอตฺถาปิ. “อุป ขาริยํ โทโณ”ติอาทีสุ ปน “อธิโก ขาริยา โทโณ”ติ ฉฏฺฐิยตฺถโยชนาวเสน อตฺโถ อวคนฺตพฺโพ.
๖๔๖. อุสฺสุกฺกมณฺฑิเตสุ ตติยา จ.1
อุสฺสุกฺกมณฺฑิตตฺเถสุ ตติยาวิภตฺติ โหติ สตฺตมี จ. เอตฺถ จ อุสฺสุกฺกสทฺโท เสหตฺถวาจโก; มณฺฑิตสทฺโท ปสนฺนวาจโก;
ญาเณน อุสฺสุกฺโก; ญาณสฺมึ วา อุสฺสุกฺโก;
ญาเณน ปสีทิโต; ญาณสฺมึ วา ปสีทิโต สปฺปุริโส.
เอตฺถ ปน กิญฺจาปิ อุสฺสุกฺกมณฺฑิตตฺเถสุ วุตฺตปฺปการา วิภตฺติโย น โหนฺติ; อญฺญสฺมึเยวตฺเถ โหนฺติ; ตถาปิ อญฺญสฺมึ อตฺเถ ตาสํ อุปฺปตฺติ อุสฺสุกฺกมณฺฑิตตฺถเหตุเยว โหตีติ เต อตฺเถ ปธาเน กตฺวา อุสฺสุกฺกมณฺฑิเตสูติ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํ;
เอส นโย อญฺญตฺราปิ อีทิเสสุ ฐาเนสุ.
๖๔๗. อกฺขาตริ อุปโยเค ปญฺจมี.
อกฺขาตาติ ปฏิปาทยิตา;
อุปโยโคติ สีลาทีนิ สมาทิยิตฺวา คยฺหมานํ นิยมปุพฺพกํ วิชฺชาคหณํ.
อุฏฺฐานญฺจ อุปฏฺฐานํ; สุสฺสูสา ปาริจริยํ.
สกฺกจฺจํ สิปฺปุคฺคหณํ; นิยโมติ ปวุจฺจติ.
อุปโยเค คมฺมมาเน อกฺขาตริ ปญฺจมีวิภตฺติ โหติ; อตฺเถ อสมฺภวโต สทฺเท วุตฺตวิธานํ โหตีติ วจนโต ตํวาจกสทฺทโต ปญฺจมีวิภตฺติ ภวติ; อุปชฺฌายา อธีเต. อุปชฺฌายา สุโณติ. ยมฺหา ธมฺมํ วิชาเนยฺย.๑
อุปโยเคติ กึ ? นาฏกสฺส สุโณติ.
มุขมตฺตทีปนิยํ ปน “เอตานิ อุทาหรณานิ อปาทานคฺคหเณน เจว ทิสาโยคคฺ-คหเณน จ สิชฺฌนฺตี”ติ วุตฺตํ. สิชฺฌนฺตุ วา มา วา;
มยํ ปน ลกฺขณานํ ปชฺชุนฺนคติกภาววิญฺญาปนตฺถญฺเจว โวหารเภเทสุ นานปฺ-ปการโต โสตูนํ โกสลฺลชนนตฺถญฺจ วิตฺถารโต ลกฺขณานิ ทสฺเสม; ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ปุนรุตฺติโทโส โหตีติ น วตฺตพฺพํ. สาสนตฺถาย หิ มหตี อุสฺโสฬฺหี อิธ กตาติ.
๖๔๘. ยํตํ กึ โยเค การณโต กฺวจิ.
ยํตํกึอิจฺเจเตสํ โยเค การณสทฺทโต กฺวจิ ปญฺจมีวิภตฺติ โหติ.
ยํการณา; ตํการณา; กึการณา เม น กโรสิ ทุกฺขํ.๒
กฺวจีติ กสฺมา ? กึ การณํ.
๖๔๙. การณตฺเถ เหตุกึยเตหิ ปฐมา.
การณตฺเถ วตฺตมาเนหิ เหตุกึยตอิจฺเจเตหิ กฺวจิ ปฐมาวิภตฺติ โหติ.
น อตฺตเหตู อลิกํ ภณาติ.๓ กึการณํ ภควนฺตํ นินฺทาม; กึ นุ ชาตึ น โรเจสิ.๔ ยญฺจ ปุตฺเต น ปสฺสามิ.๕ ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามิ.๖
เอตฺถ จ ตสฺมา ภควนฺตํ ปุจฺฉามีติ อตฺถกฺกมวเสน สามญฺญโต นิทฺทิฏฺฐานมฺปิ ตํตํสทฺทานํ ยถากฺกมํ ทูรตฺถอมฺหตฺถวาจกตา วิญฺญายติ.
ตตฺถ เกจิ “กึ การณ”นฺติ ปทํ ทุติยาวจนนฺติ ปทํ ทุติยาวจนนฺติ วทนฺติ; ตํ น ยุตฺตํ, “น อตฺตเหตู อลิกํ ภณาตี”ติ๗ ปฐมาย ทสฺสนโตติ.
๖๕๐. กึสฺมา ฉฏฺฐี.
การณตฺเถ วตฺตมานา กึสทฺทโต กฺวจิ ฉฏฺฐีวิภตฺติ โหติ.
ตํ กิสฺส เหตุ.๑ กิสฺส ตุมฺเห กิลมถ.
กฺวจีติ กึ ? เกน การเณน อาคโตสิ. กสฺมา วเทสิ.
๖๕๑. เหตุโต ฉฏฺฐิยา โลโปติ เกจิ.
เกจิ ครู สทฺทสตฺเถ การณตฺถวาจกเหตุสทฺทโต ฉฏฺฐีวิภตฺตึ ทิสฺวา ตตฺถ ตํ มตํ โรเจนฺตา สาสนสฺมึ การณตฺเถ วตฺตมานา เหตุสทฺทโต ฉฏฺฐิยา โลโป โหตีติ อิจฺฉนฺติ; “อนฺนสฺส เหตุสฺส วสตี”ติ เตสํ ลทฺธิ; เอวํ “พุทฺธสฺส เหตุ; ตํ กิสฺส เหตู”ติ เอตฺถาปิ ฉฏฺฐิยา โลโป. เอวญฺจ สติ สาฏฺฐกเถ เตปิฏเก พุทฺธวจเน กตฺถจิ สุตฺตปฺปเทเส เหตุสทฺทโต ฉฏฺฐิยา อโลโปปิ สิยา; ตาทิโส ปโยโค น กตฺถจิปิ ทิสฺสติ.
อฏฺฐกถาจริเยหิปิ “กิสฺส เหตูติ กิสฺส เหตุสฺสา”ติ ฉฏฺฐีวเสน ปาฬิวิวรณํ วุจฺเจยฺย. น จ เตหิ ตถา วุจฺจิตฺถ; ตสฺมา “อนฺนสฺส เหตุ วสตี”ติอาทีสุ “อนฺนสฺส การณา วสตี”ติอาทินา อตฺโถ สมฺปฏิปาเทตพฺโพ.
๖๕๒. ยถาตนฺติ ฉฏฺฐีปฐมานํ ปาฬิ.
ปาฬิสทฺโท ปฏิปาฏิวาจโก. การณตฺเถ วตฺตมานานํ ฉฏฺฐีปฐมานํ ปฏิปาฏิ ตนฺติอนุรูปํ โหติ; ตํ กิสฺส เหตุ.
ตนฺติ ปทปูรเณ นิปาตปทํ;
กิสฺส เหตูติ เกน การเณน;
กสฺมาติ วา ปญฺจมีวเสน วิวรณมฺปิ กาตพฺพํ.
๖๕๓. ปฐมาปญฺจมีนํ.
การณตฺเถ วตฺตมานานํ ปฐมาปญฺจมีนํ ปฏิปาฏิ ตนฺติอนุรูปํ โหติ.
ยํการณา อิจฺเจวมาทิ.
๖๕๔. ตพฺพิปรีตานญฺจ.
ตาสํ ปฐมาปญฺจมีนํ วิปรีตวเสน ฐิตานํ การณตฺเถ วตฺตมานานํ ปฏิปาฏิ ตนฺติอนุรูปํ โหติ.
โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ๑ อิจฺเจวมาทิ.
๖๕๕. ยํการณิจฺจาทิ นิปาตสมุทาโยติ วา.
ปาฬินยานํ ทุชฺชานตฺตา อปเรน นเยน ยํการณาอิจฺจาทิปทํ นิปาตสมุทาโยติ สลฺลกฺเขตพฺพํ; ตสฺมา น ตตฺถ ปฐมาติ วา ปญฺจมีติ วา ฉฏฺฐีติ วา วิภตฺติวิจารณา กาตพฺพา. ยํการณา. กึการณา. กิสฺส เหตุ ตโตนิทานํ อิจฺเจวมาทิ.
๖๕๖. เยภุยฺเยนิจฺจาทโย วิภตฺยนฺตปติรูปกา.
เยภุยฺเยนอิจฺเจวมาทโย สทฺทา วิภตฺยนฺตปติรูปกา นิปาตาพฺยาติ เวทิตพฺพา. เยภุเยฺยน สตฺตา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺติ. อนฺตเรน ยมกสาลานํ.๒ อนฺตเรน ปโรปเทสา; สามํเยว สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌิ อิจฺเจวมาทิ.
๖๕๗. สหสทฺธึโยเค ตติยตฺเถ กฺวจิ ปญฺจมี.
ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานาพฺราหฺมา สหํปติ คาถาย อชฺฌภาสิ.๓ สห วจนา จ ปน ภควโต สุปฺปวาสา โกลิยธีตา อโรคา อโรคํ ปุตฺตํ วิชายิ.๔ สทฺธึ สาวก-สํฆโต; อิเธว ปรินิพฺพิสฺสํ.๕
เอตฺถ จ โตปจฺจโย ปเคว ปฏิลทฺธวิภตฺติสญฺญตฺตา สญฺญาวเสน ปญฺจมีวิภตฺตีติ วุตฺโต. ตตฺถ สห ปรินิพฺพานาติ ปรินิพฺพาเนน สเหว. สห วจนาติ วจเนน สเหวาติ อตฺโถ. อีทิเสสุ หิ ฐาเนสุ วิวจฺเฉทผลตฺตา เอว สทฺโท อวุตฺโตปิ อชฺฌาหริตฺวาว โยเชตพฺโพ. กฺวจีติ กึ ? มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธึ.๖ ปุตฺเตหิ สห สมฺมติ.๗
๖๕๘. สหโยเค ตติยตฺเถ สตฺตมี.
สห สจฺเจ กเต มยฺหํ;๑ มม สจฺจกฺริยาย สเหวาติ อตฺโถ. เอตฺถ หิ กรณํ กตํ; กฺริยา; “ภิกฺขุสฺส กาลงฺกเต สํโฆ ปตฺตจีวรสฺส สามี”ติ๒ เอตฺถ วิย.
๖๕๙. ปฐมตฺเถ ตติยาสตฺตมิโย.
มณินา เม อตฺโถ.๓ อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.๔
๖๖๐. ตติยตฺเถ ปฐมา.
อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ.๕ อนาคาเรหิ จูภยํ.๖
เอตฺถ จ อุภยนฺติ อุภเยหิ; วิภตฺติวจนวิปลฺลาโสยํ. ตถา หิ เถรคาถาสุ “อปฺปิจฺโฉ เจว สนฺตุฏฺโฐ”ติ๗ อุปเสนตฺเถรคาถายํ “กรเณติ อิทํ ปจฺจตฺตวจน”นฺติ วุตฺตํ.
๖๖๑. ตติยตฺเถ สตฺตมี.
มณิมฺหิ ปสฺส นิมฺมิตํ;๘ มณินา นิมฺมิตนฺติ อตฺโถ. ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร;๙ จิรทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยนาติ อตฺโถ.
๖๖๒. สมเย กรโณปโยคภุมฺมวจนานิ ปิฏกกฺกเมน.
วินยปิฏกาทีนํ ติณฺณํ ปิฏกานํ กเมน สมเย กรณวจนํ อุปโยควจนํ ภุมฺมวจนญฺจ โหติ. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรญฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล.๑๐ อิทํ วินเย กรณวจนํ. เอกํ สมยํ ภควา อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ อทฺธานมคฺคปฺ-ปฏิปนฺโน โหติ.๑๑ อิทํ สุตฺเต อุปโยควจนํ. ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ.๑๒ อิทํ อภิธมฺเม ภุมฺมวจนํ.
เอตฺถาห “กสฺมา ตีสุ ปิฏเกสุ สมยสฺส กรณวจนาทิวเสน วิสทิสนิทฺเทโส กโต”ติ? ปกาเสตพฺพสฺส ตสฺส ตสฺส อตฺถวิเสสสฺส สมฺภวโต. กถํ ?
วินเย ตาว เหตุอตฺโถ จ กรณตฺโถ จ สมฺภวติ. โย หิ โส สิกฺขาปทปญฺญตฺติ-สมโย สาริปุตฺตาทีหิปิ ทุพฺพิญฺเญยฺโย; เตน สมเยน เหตุภูเตน กรณภูเตน จ สิกฺขาปทานิ ปญฺญาปยนฺโต สิกฺขาปทปญฺญตฺติเหตุญฺจ อเปกฺขมาโน ภควา ตตฺถ ตตฺถ วิหาสิ; ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ วินเย กรณวจเนน นิทฺเทโส กโต.
สุตฺตนฺเต จ อจฺจนฺตสํโยคตฺโถ สมฺภวติ. ยญฺหิ สมยํ ภควา พฺรหฺมชาลาทีนิ สุตฺตนฺตานิ เทเสสิ; อจฺจนฺตเมว ตํ สมยํ กรุณาวิหาเรน วิหาสิ; ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ อุปโยคนิทฺเทโส กโต.
อภิธมฺเม ปน อธิกรณตฺโถ ภาเวนภาวลกฺขณตฺโถ จ สมฺภวติ. อธิกรณญฺหิ กาลตฺโถ จ สมูหตฺโถ จ สมโย ตตฺถ วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ ขณสมวายเหตุสงฺขาตสฺส จ สมยสฺส ภาเวน เตสํ ภาโว ลกฺขิยติ; ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ ภุมฺมวจเนน นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ.
โหติ เจตฺถ—
ตํ ตํ อตฺถมเปกฺขิตฺวา; สมโย วินยาทิสุ.
กรเณนุปโยเคน; ภุมฺเมน จ ปกาสิโตติ.
โปราณา ปน วณฺณยนฺติ “ตํ สมยนฺติ วา ตสฺมึ สมเยติ วา เตน สมเยนาติ วา อภิลาปมตฺตเภโท เอส; สพฺพตฺถ ภุมฺมเมว อตฺโถ”ติ; ตสฺมา เตสํ ลทฺธิยา “เตน สมเยนา”ติ๑ วุตฺเตปิ ตสฺมึ สมเยติ อตฺโถ; “เอกํ สมย”นฺติ๒ วุตฺเตปิ เอกสฺมึ สมเยติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ ฐตฺวา กรณเภทํ วทาม— ยถา หิ โลภาทโย อโลภาทโย จ เหตุเหตู นาม ภวนฺติ; ตโต อญฺเญ ปจฺจยภูตา ธมฺมา ปจฺจยเหตู นาม ภวนฺติ.* เอวเมตํ กรเณ ปวตฺตํ กรณวจนํ กรณกรณํ นาม โหติ. กตฺตาทีสุ ปวตฺตญฺจ กตฺตุกรณํ, เหตุกรณนฺติอาทิกํ นามํ อิมสฺมึ ปกรเณ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ญตฺวา ปุน อุทาหรเณน สทฺธึ ตํ นามํ เวทิตพฺพํ.
จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ.๑ อิทํ กรณกรณํ.
สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม.๒ อิทํ กตฺตุกรณํ.
สาริปุตฺโตติ นาเมน วิสฺสุโต.๓ อิทํ วิเสสนกรณํ.
อนฺเนน วสติ.๔ อิทํ เหตุกรณํ;
ภินฺเนน สีเสน อาคโต.๕ อิทํ อิตฺถมฺภูตกรณํ.
ภุญฺช ปุตฺเตหิ ขตฺติย.๖ อิทํ สหตฺถกรณํ.
มณินา เม อตฺโถ.๗ อิทํ ปจฺจตฺตกรณํ.
สํวิภเชถ โน รชฺเชน.๘ อิทํ กมฺมกรณํ.
สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน.๙ อิทํ นิสฺสกฺกกรณํ.
เตน โข ปน สมเยน.๑๐ อิทํ ภุมฺมกรณํ. ปกติยา อภิรูโป; เยภุยฺเยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา๑๑ อิจฺเจวมาทิ ตทญฺญกรณํ.
เอวํ เอกาทสวิธํ กรณํ ภวติ. ตํ ปน ตทญฺญกรณํ เภทิตํ อเนกวิธํ โหติ; นิปาต-โยคกรณํ ปฏิกฺเขปกรณํ กุจฺฉิตงฺคกรณํ กฺริยาปวคฺคกรณํ กาลทฺธานกรณํ มณฺฑิตุสฺสุกฺกกรณํ สหาทิโยคกรณํ ปุพฺพสทิสสมูนกลหนิปุณมิสฺสกสขิลาทิโยคกรณํ อโยคกรณนฺติ เอวมเนกวิธํ ตทญฺญกรณํ โหตีติ ทฏฺฐพฺพํ.
๖๖๓. สงฺขฺยาลิงฺคตฺถาวิกรณตฺถมุปฺปตฺติ วิภตฺตีนํ.
สงฺขฺยาวิกรณตฺถํ ลิงฺคตฺถาวิกรณตฺถญฺจ วิภตฺตีนมุปฺปตฺติ โหติ. ปุริโส ติฏฺฐติ; ปุริสา ติฏฺฐนฺติ. เอกํ; เทฺว; ตีณิ.
๖๖๔. เอกมฺหิ เอกวจนํ.
เอกมฺหิ อตฺเถ วตฺตพฺเพ เอกวจนํ โหติ. อิตฺถี; ปุริโส; จิตฺตํ.
๖๖๕. เอกมฺหิ วิย พหุมฺหิปิ.
เอกสฺมึ อตฺเถ วิย พหุมฺหิปิ อตฺเถ วตฺตพฺเพ เอกวจนํ โหติ. สา เสนา มหตี อาสิ.๑ พหุชฺชโน ปสนฺโนสิ.๒ มหาชโน; ภิกฺขุสํโฆ; มจฺฉฆฏา อิจฺเจวมาทิ.
๖๖๖. พหุมฺหิ พหุวจนํ.
พหุมฺหิ อตฺเถ วตฺตพฺเพ พหุวจนํ โหติ. อิตฺถิโย; ปุริสา; จิตฺตานิ.
๖๖๗. พหุมฺหิ วิย เอกมฺหิปิ.
พหุมฺหิ อตฺเถ วิย เอกมฺหิปิ อตฺเถ พหุวจนํ โหติ; อปฺปจฺจยา ธมฺมา๓ อิจฺเจวมาทิ.
๖๖๘. สมุทายชาตินิสฺสเยกตฺตลกฺขเณเสฺวกวจนํ.
สมุทาเย ชาติยํ นิสฺสยวเสโนปจาริตนิสฺสิเต เอกตฺตลกฺขเณ จ เอกวจนํ โหติ.
สมุทาเย ตาว— เทวสํโฆ; สพฺโพ ชโน อิจฺเจวมาทิ. ชาติยํ— สญฺจิจฺจ ปาโณ ชีวิตา น โวโรเปตพฺโพ.๔ สสฺโส สมฺปนฺโน อิจฺเจวมาทิ. นิสฺสยวเสโนปจาริตนิสฺสิเต— สาวตฺถิ สทฺธา อโหสิ ปสนฺนา; อยํ ภนฺเต นาฬนฺทา อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา อากิณฺณมนุสฺสา ภควติ อภิปฺปสนฺนา๕ อิจฺเจวมาทิ. สาวตฺถิวาสิโน สทฺธา ปสนฺนา อเหสุนฺติอาทินา อตฺโถ โยเชตพฺโพ. เอกตฺตลกฺขเณ— กุสลากุสลํ; สมถวิปสฺสนํ; ติลกฺขณํ; จุตูปปาโต; อาคติคติ๖ อิจฺเจวมาทิ.
๖๖๙. พหุมฺหิ สมุทาเย พหุวจนํ.
พหูสุ สมุทาเยสุ พหุวจนํ โหติ. ปูชิตา ญาติสํเฆหิ.๗ เทวกายา สมาคตา.๘ สฏฺเฐเต เทวนิกายา๙ อิจฺเจวมาทิ.
๖๗๐. กฺวจิ ชาติอตฺถครูสุ จ.
ชาติอตฺถครูสุ จ กฺวจิ พหุวจนํ โหติ.
สมิทฺธา ยวา; สมิทฺโธ ยโว. สมฺปนฺนา วีหโย; สมฺปนฺโน วีหิ. อมฺหากํ ปกติ.๑ มม ปกติ. อพฺภาคตานา‘สนกํ อทาสึ.๒
อหํ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตสฺส ภิกฺขุโน อาสนํ อทาสินฺติ อตฺโถ.
๖๗๑.อปริจฺเฉทมาติกานุสนฺธินยปุจฺฉานุสนฺธินยปุจฺฉาสภาคปุถุจิตฺต-สมาโยคปุถุอารมฺมณตนฺนิวาสตํปุตฺเตกาภิธาน ตนฺนิสฺสิตาเปกฺขารมฺมณ กิจฺจเภเทสุ จ.
อปริจฺเฉเท มาติกานุสนฺธินเย ปุจฺฉานุสนฺธินเย ปุจฺฉาสภาเค ปุถุจิตฺตสมาโยเค ปุถุอารมฺมเณ ตนฺนิวาเส ตํปุตฺเต เอกาภิธาเน ตนฺนิสฺสิตาเปฺกเข อารมฺมณเภเท กิจฺจเภเท จ พหุวจนํ โหติ.
อปริจฺเฉเท ตาว— อปฺปจฺจยา ธมฺมา; อสงฺขตา ธมฺมา.๓ อนิยมิตสงฺขฺยาวเสน พหุวจนํ วา เอตํ. มาติกานุสนฺธินเย— กตเม ธมฺมา อปฺปจฺจยา๔ อิจฺเจวมาทิ. ปุจฺฉานุสนฺธินเย—อิเม ธมฺมา อปฺปจฺจยา๔ อิจฺเจวมาทิ. ปุจฺฉาสภาเค— กตเม ธมฺมา โนปรามาสา; เต ธมฺเม ฐเปตฺวา อวเสสา กุสลากุสลาพฺยากตา ธมฺมา๕ อิจฺเจวมาทิ. ปุถุจิตฺตสมาโยเค ปุถุอารมฺมเณ— อตฺถิ ภิกฺขเว อญฺเญว ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา๖ อิจฺเจวมาทิ. ตนฺนิวาเส— สกฺเกสุ วิหรติ๗ อิจฺเจวมาทิ. ตํปุตฺเต— สนฺติ ปุตฺตา วิเทหานํ๘ อิจฺเจวมาทิ. เอกาภิธาเน— คจฺฉถ ตุมฺเห สาริปุตฺตา๙ เอถ พฺยคฺฆา นิวตฺตโวฺห๑๐ อิจฺเจวมาทิ. ตนฺนิสฺสิตาเปกฺเข— มญฺจา อุกฺกุฏฺฐึ กโรนฺติ อิจฺเจวมาทิ. อารมฺมณ-เภเท— จตฺตาโร สติปฏฺฐานา.๑๑ กิจฺจเภเท— จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ.๑๒
๖๗๒. ลิงฺควิภตฺติวจนกาลปุริสกฺขรานํ วิปลฺลาโส.
อิมสฺมึ ปาวจเน กตฺถจิ ลิงฺควิปลฺลาโส วิภตฺติวิปลฺลาโส วจนวิปลฺลาโส กาล-วิปลฺลาโส ปุริสวิปลฺลาโส อกฺขรวิปลฺลาโสติ ฉพฺพิโธ วิปลฺลาโส ภวติ.
ตตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส ตาว—
สิวิปุตฺตานิ จาวฺหย.๑ เอวํ ธมฺมานิ สุตฺวาน; วิปฺปสีทนฺติ ปณฺฑิตา๒ อิจฺเจวมาทิ.
วิภตฺติวิปลฺลาโส อเนเกหิ ลกฺขเณหิ วิภาวิโตว. เอวํ สนฺเตปิ สมฺมุยฺหิตพฺพฏฺฐาเน โสตูนมสมฺโมหตฺถํ ปุน วิเสสโต วิภตฺติวิปลฺลาสํ กถยาม. เสยฺยถิทํ ?
อยํ ปุริโส มม อตฺถกาโม; โย มํ คเหตฺวาน ทกาย เนติ.๓ อปฺโป สคฺคาย คจฺฉติ.๔ อยํ ทุติยตฺเถ จตุตฺถี; ทกํ เนติ; สคฺคํ คจฺฉตีติ อตฺโถ สมฺปฏิปาเทตพฺโพ. อสกฺกตา จสฺม ธนญฺจยายาติ.๕ อยํ ตติยตฺเถ จตุตฺถี; ธนญฺจเยนาติ อตฺโถ.
ปุญฺญาย สุคตึ ยนฺติ; จาคาย วิปุลํ ธนํ. อยมฺปิ ตติยตฺเถ จตุตฺถี; ปุญฺเญน จาเคนาติ อตฺโถ. โส จ โข ปุญฺเญน เหตุภูเตน; จาเคน เหตุภูเตนาติ เหตุตฺถวเสเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ จ ปุญฺญายาติ อิทํ นปุํสกรูปํ, น อิตฺถิลิงฺครูปํ; จาคายาติ อิทํ ปน ปุลฺลิงฺครูปํ. ครู ปน “ปุญฺญาย จาคายา”ติ อิทํ ปททฺวยํ อิตฺถิลิงฺคอาปจฺจยนฺตํ ปญฺจมิยนฺตญฺจ อิจฺฉนฺติ. เอวญฺหิ สติ “ทกาย เนติ, อปฺโป สคฺคาย คจฺฉติ, อสกฺกตา จสฺม ธนญฺจยายา”ติ เอตฺถาปิ “ทกาย สคฺคาย ธนญฺจยายา”ติ ปทตฺตยมฺปิ อิตฺถิลิงฺคํ อาปจฺจยนฺตํ สิยา. น เหตํ อิตฺถิลิงฺคํ, น จ อาปจฺจยนฺตํ สิยา;
อถ โข ยถากฺกมํ นปุํสกลิงฺคปุลฺลิงฺคํ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทเสน สมฺภูตรูปํ โสตูนํ อติวิมฺหาปนกรํ สทฺทสตฺเถหิ อสาธารณํ สาสเน อจฺฉริยพฺภุตรูปํ. ตถา หิ สทฺทสตฺถนยนิสฺสิตํ “นโม พุทฺธายา”ติ จตุตฺถีรูปํ สาสนํ ปตฺวา “นโม พุทฺธสฺสา”ติ๑ รูปเมว ภวติ; อฏฺฐกถาจริยาปิ ปาฬิอนุรูปํ เอตาทิสํ รูปเมว สทฺทรจนาวิสเย ฐเปนฺติ; “นโม พุทฺธายา”ติ รูปสทิสํ ปน รูปํ สาสนสฺมึ ตทตฺถตุมตฺถวิภตฺติวิปลฺลาเสเยว ทิสฺสติ, น ทานนโมโยคาทีสูติ อยมตฺโถ เหฏฺฐา วิตฺถารโต วิภาวิโตว.
วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนาย.๒ อยํ ปญฺจมิยตฺเถ จตุตฺถี; มม วจนโตติ อตฺโถ.
“ภิยฺโยโส มตฺตายา”ติ๓ เอตฺถ ปน มตฺตสทฺโท นปุํสกลิงฺโคว วิภตฺติวิปลฺลาสวเสน จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสวเสน จ ปญฺจมิยตฺเถ จตุตฺถี. ยทิ “มตฺตา สุขปริจฺจาคา”ติ๔ เอตฺถ วิย อิตฺถิลิงฺโค; ตทา ปญฺจมิยตฺเถเยว ปญฺจมีติ วิภตฺติวิปริณามกิจฺจํ นตฺถิ. “มตฺตายา”ติ เอตสฺส ปญฺจมิยตฺถตา “ติณา ภิยฺโย น มญฺญตี”ติ๕ เอตฺถ วิย ภิยฺยสทฺท-โยคโต ปากฏาว; ภิยฺโยโส มตฺตาย; มตฺตโต ภิยฺโยติ อตฺโถ. อิติ ปญฺจมิยตฺถํ ญตฺวา ตติยตฺถวเสน อตฺโถ สมฺปฏิปาเทตพฺโพ “อติเรกปฺปมาเณนา”ติ. มหาคณาย ภุตฺตา เม.๖ อยํ ฉฏฺฐิยตฺเถ จตุตฺถี; คณฺสฺส ภตฺตาติ อตฺโถ.
“โก นุ โข ภนฺเต เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมายา”ติ๗ อยํ สตฺตมิยตฺเถ จตุตฺถี; สิตสฺส ปาตุกรเณติ อตฺโถ; ฉฏฺฐิยตฺเถ วา จตุตฺถี; สิตปาตุกมฺมสฺส โก เหตุ โก ปจฺจโยติ อตฺโถ. สา นูน กปณา อมฺมา; จิรรตฺตาย รุจฺจติ.๘ อยํ อจฺจนฺตสํโยคทุติยตฺเถ; จตุตฺถี จิรรตฺตํ จิรกาลนฺติ หิ อตฺโถ. อิติ ปุนฺนปุํสกลิงฺควเสน จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิโต วิภตฺติวิปลฺลาโส วิเสสโต ทฏฺฐพฺโพ. “มา อิติ กิราย.๑ สมเมสฺสนฺติ จิราย สุพฺพตา.๒ จิรสฺสํ วต ปสฺสามี”ติ๓อาทีสุ ปน กิรายาติอาทีนิ วิภตฺยนฺต-ปติรูปกานิ อพฺยปทานีติ เวทิตพฺพานิ; น เหเตสุ วิภตฺติวิปลฺลาสนโย จินฺเตตพฺโพ กิรจิรสทฺทานํ อพฺยตฺตลิงฺคตฺตา.
วจนวิปลฺลาโส ยถา—
นคา นคคฺเคสุ สุสํวิรูฬฺหา;
อุทคฺคเมเฆน นเวน สิตฺตา.
วิเวกกามสฺส อรญฺญสญฺญิโน;
ชเนติ ภิยฺโย อุสภสฺส กลฺยตํ.๔
ชเนตีติ ชเนนฺติ; อยเมว วา ปาโฐ. เอตฺเถเก วเทยฺยุํ “ยทิ ชเนนฺตีติ พหุวจนปาฐนฺตรํ ทิสฺสติ; ตเทว ปมาณํ กตฺวา ชเนนฺติ ภิยฺโย อุสภสฺส กลฺยตนฺติ อฏฺฐกถาจริเยหิ๕ วตฺตพฺพ”นฺติ ? สจฺจํ; เอวํ สนฺเตปิ “ชเนตี”ติ เอกวจนปาฐนฺตรสฺสปิ ทสฺสนโต ทุชฺชานตฺตา จ ปาฬินยสฺส สทฺธมฺเม คารววเสน อิทํ อยุตฺตนฺติ อวตฺวา “ชเนนฺตี”ติ วจนวิปลฺลาสนโย อฏฺฐกถาจริเยหิ ทสฺสิโต. นชฺโช จ อนุปริยาติ; นานาปุปฺผทุมายุตา.๖ อยมฺปิ วจนวิปลฺลาโส. ตตฺถ นชฺโชติ เอกา นที.๗
กาลวิปลฺลาโส— ฉพฺพสฺสานิ นาม มุคฺคยูสกุลตฺถยูสกลายยูสหเรณุยูสาทีนํ ปสฏปสฏมตฺเตน ยาเปสฺสติ๘ อิจฺเจวมาทิ.
ตตฺถ ยาเปสฺสติ นามาติ นามสทฺทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ; นามสทฺทโยเคน หิ อนาคตสฺส วิย ปโยโค; ยาเปสิ อิจฺเจวตฺโถ.
ปุริสวิปลฺลาโส— ปุตฺตํ ลเภถ วรทํ๑ อิจฺจาทิ.
ตตฺถ ลเภถาติ ลเภยฺยํ. อปโร นโย; มา ตฺวํ ภายิ มหาราช๒ อิจฺจาทิ วิภตฺติ-ปุริสวิปลฺลาโส; มา ภายสฺสูติ หิ อตฺโถ.
อกฺขรวิปลฺลาโส ปาฬิยํ คาถาสุเยว ลพฺภติ, น จุณฺณิยปเทสุ; โส จ โข อิตฺถิลิงฺเค อิวณฺณวิสเยเยว; อฏฺฐกถาสุ ปน กตฺถจิ จุณฺณิยปเทสุปิ ลพฺภติ.
อตฺรายํ ปาฬิ—
ยถา พลากโยนิมฺหิ; น วิชฺชติ ปุโม สทาติ๓ จ.
กุสาวติมฺหิ นคเร; ยทา อาสิ มหีปตีติ๔ จ.
ตตฺถ พลากโยนิมฺหีติ พลากโยนิยํ. กุสาวติมฺหีติ กุสาวติยํ. มฺหิกาโร หิ ปุํนปุํสกลิงฺเคเสฺวว ทิสฺสติ จุณฺณิยปเทสุ จ คาถาสุ จ; ตถา ยํกาโร อิตฺถิลิงฺเคเยว. “ยถา พลากโยนิมฺหี”ติอาทีสุ อยํ มฺหิกาโร อิตฺถิลิงฺเค ทิสฺสติ; กึ นุ โข การณนฺติ จินฺตายํ จุณฺณิยปทปาฬีสุ อทสฺสนโต อกฺขรวิปลฺลาเส มฺหิกาโร วตฺตตีติ อยมตฺโถ วิญฺญายติ สาสนยุตฺติวเสน. อฏฺฐกถาสุ ปน “ทฺวิธา สนฺธิมฺหิ วตฺตตี”ติ๕ คาถํ วตฺวา จุณฺณิยปทฏฺฐาเนปิ “สนฺธิมฺหี”ติ มฺหิการปาโฐ ทิสฺสติ. อตฺริมานิ ลกฺขณานิ—
๖๗๓. คาถาสุ อิตฺถิยํ มฺหิกาโร.
ปาฬิยญฺเจว อฏฺฐกถาสุ จ คาถาวิสเย อิตฺถิลิงฺคฏฺฐาเน มฺหิกาโร ทิสฺสติ.
กุสาวติมฺหิ นคเร; ทฺวิธา สนฺธิมฺหิ วตฺตติ.
๖๗๔. กฺวจิ อฏฺฐกถาสุ จุณฺณิยปเท.
อฏฺฐกถาสุ กฺวจิ จุณฺณิยปเท อิตฺถิลิงฺคฏฺฐาเน มฺหิกาโร ทิสฺสติ.
สนฺธิมฺหิ; ปฏิสนฺธิมฺหิ.
กฺวจีติ กึ ? สนฺธิยํ; ปฏิสนฺธิยํ. สุคติยํ; ทุคฺคติยํ.
อิติ วุตฺตํ สสมฺพนฺธํ; สวิภตฺตาทินิจฺฉยํ.
การกํ เอตฺถ ยุญฺชนฺตุ; การกา ปริยตฺติยา.
ยุญฺชติ โย อิธ ญาณี;
กุสโล สทฺเทสุ ภวติ สตฺเถสุ จ.
ปาวจนมฺหิ ตทุภเย;
กุสลากุสลาว สนนฺตนา.
อิติ นวงฺเค สาฏฺฐกเถ ปิฏกตฺตเย พฺยปฺปถคตีสุ วิญฺญูนํ โกสลฺลตฺถาย กเต สทฺทนีติปฺปกรเณ การกวิภาโค นาม พาวีสติโม ปริจฺเฉโท.
——————
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen