ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ
นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันพุธ
ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๕๐
--------------------
๑. สัมมาสัมพุทธะ
ปัจเจกพุทธะ และอนุพุทธะ
ต่างกันอย่างไร ?
การเรียนอนุพุทธประวัติสำเร็จประโยชน์อย่างไร
?
ตอบ:
๑. สัมมาสัมพุทธะ
ตรัสรู้เองโดยชอบ
และสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้ด้วย
ปัจเจกพุทธะ
ตรัสรู้เฉพาะตน
แต่ไม่สามารถสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้
อนุพุทธะ
ตรัสรู้ตาม คือมีพระพุทธเจ้าสั่งสอนจึงรู้ตามได้
และสามารถสอนผู้อื่นให้กระทำตามด้วย
ฯ
เพื่อจะได้ทราบความเป็นไปและปฏิปทาของท่าน
ที่ได้ช่วยประกาศพระศาสนาในที่นั้น
ๆ จนเป็นเหตุเจริญแพร่หลายและมั่นคง
แล้วจักได้ถือเป็นทิฏฐานุคติ
บำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านโดยควรแก่ฐานะของตน
ทั้งให้สำเร็จเป็นสังฆานุสติมั่นคงอีกด้วย
ฯ
๒. พระอัญญาโกณฑัญญะ
ชื่อเดิมว่าอะไร ?
เกิดที่ไหน ?
เรียนจบอะไร
? ทำไมจึงได้ชื่ออัญญาโกณฑัญญะ
?
ตอบ:
๒. ชื่อเดิมว่าโกณฑัญญะ
ฯ
เกิดที่บ้านพราหมณ์ชื่อโทณวัตถุ
อยู่ไม่ห่างจากกรุงกบิลพัสดุ์
ฯ
เรียนจบไตรเพทและรู้ตำราทำนายลักษณะ
ฯ
เพราะอาศัยพระอุทานว่า
อญฺญาสิ ที่แปลว่า ได้รู้แล้ว
ที่พระผู้มี
พระภาคเจ้าทรงเปล่งเมื่อท่านโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม
ฯ
๓. เศรษฐีบิดาพระยสะออกติดตามหาพระยสะให้กลับบ้าน
แต่เหตุไฉนเมื่อพบแล้วจึงมิได้นำกลับไปตามความประสงค์เดิม
?
ตอบ:
๓. เพราะได้ทราบว่า
พระยสะบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว
ไม่ควรเพื่อจะกลับไปครองเรือนอีกต่อไป
ควรจะออกบวชเป็นพระภิกษุ
ฯ
๔. พระอุรุเวลกัสสปะบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
เพราะเหตุใด ?
พระพุทธองค์ทรงพาท่านไปกรุงราชคฤห์ด้วย
เพราะทรงมีพุทธประสงค์อย่างไร
?
ตอบ:
๔. พระอุรุเวลกัสสปะเห็นอภินิหารของพระพุทธองค์หลายประการ
จนถอนทิฏฐิมานะของตน
เห็นว่าลัทธิของตนหาแก่นสารมิได้
และตนก็มิได้เป็นผู้วิเศษ
ได้ความสลดใจ จึงทูลขออุปสมบท
ฯ
ทรงมีพุทธประสงค์จะปลูกศรัทธาแก่มหาชน
เพราะท่านเป็นที่นับถือของมหาชนมานาน
ฯ
๕. พรข้อว่า
ถ้าจักไม่โปรดให้ข้าพระองค์อยู่ในที่ประทับของพระองค์
และข้อว่า
ถ้าพระองค์จะเสด็จไปสู่ที่นิมนต์ที่ข้าพระองค์รับไว้
พระอานนท์ทูลขอเพื่อประโยชน์อะไร
?
ตอบ:
๕. ข้อต้น
เพื่อป้องกันคำติเตียนว่า
พระอานนท์บำรุงพระศาสดาเพราะเห็นแก่ลาภ
ข้อหลัง
เพื่อป้องกันคนกล่าวว่า
พระอานนท์บำรุงพระศาสดาไปทำอะไร
เพราะพระองค์ไม่ทรงอนุเคราะห์แม้ด้วยกิจเท่านี้
ฯ
๖. ธรรมุทเทศ
มีอะไรบ้าง ?
ใครแสดงแก่ใคร
?
ตอบ:
๖. มี
๑.
โลกคือหมู่สัตว์
อันชรานำเข้าไปใกล้ ไม่ยั่งยืน
๒.
โลกคือหมู่สัตว์
ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่จำเพาะตน
๓.
โลกคือหมู่สัตว์
ไม่มีอะไรเป็นของ ๆ ตน
จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป
๔.
โลกคือหมู่สัตว์
พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม
เป็นทาสแห่งตัณหา ฯ
พระรัฐบาลแสดงถวายพระเจ้าโกรัพยะ
ฯ
๗. พระโมฆราชทูลถามปัญหาพระพุทธองค์เป็นคนที่เท่าไร
? เพราะเหตุไร
?
ตอบ:
๗. เป็นคนที่
๑๕ ฯ
เพราะครั้งแรกเห็นว่าท่านอชิตมาณพเป็นผู้ใหญ่กว่าจึงยอมให้ถามก่อน
แต่เมื่อปรารภจะทูลถามเป็นคนที่
๒ และคนที่ ๙ ถูกพระพุทธองค์ทรงห้ามไว้ให้รอก่อน
จึงได้โอกาสทูลถามเป็นคนที่
๑๕ ฯ
๘. ในอสีติมหาสาวก
มีองค์ไหนบ้างมีความสัมพันธ์เป็นศิษย์และอาจารย์กัน
? จงบอกมาสัก
๒ คู่
ตอบ:
๘. (ตอบเพียง
๒ คู่)
พระอัญญาโกณฑัญญะกับพระปุณณมันตานีบุตร
พระอัสสชิกับพระสารีบุตร
พระสารีบุตรกับพระราธะ
พระสารีบุตรกับพระราหุล
พระมหากัจจายนะกับพระโสณกุฏิกัณณะ
ฯ
ศาสนพิธี
๙. วันเทโวโรหณะ
คือวันอะไร ?
เนื่องด้วยวันนั้น
มีบุญพิธีอะไรที่ทำกันมาจนถึงบัดนี้
?
ตอบ:
๙. คือ
วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก
หลังจากที่เสด็จขึ้นไป
จำพรรษาในดาวดึงสพิภพถ้วนไตรมาส
โบราณเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
วันพระเจ้าเปิดโลก ตรงกับวันขึ้น
๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ฯ
มีการทำบุญตักบาตรแด่พระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระสงฆ์ในวันรุ่งขึ้น
จนเป็นประเพณีทำบุญตักบาตรที่เรียกว่าตักบาตรเทโวโรหณะ
มาจนถึงปัจจุบันนี้ ฯ
๑๐. บังสุกุลเป็น
คืออะไร ?
คาถาที่ใช้บังสุกุลเป็น
ว่าอย่างไร ?
ตอบ:
๑๐. บังสุกุลเป็น
คือบุญกิริยาที่เจ้าภาพประสงค์จะบริจาควัตถุเนื่องด้วยกายของตน
โดยเฉพาะผ้าอุทิศสงฆ์ให้เป็นผ้าบังสุกุล
ปกตินิยมทำเมื่อป่วยหนัก
เป็นการกำหนดมรณานุสสติวิธีหนึ่ง
ฯ
ว่า อจิรํ
วตยํ กาโย ปฐวึ
อธิเสสฺสติ
ฉุฑฺโฑ
อเปตวิญฺญาโณ นิรตฺถํว
กลิงฺครํ ฯ
***********
Cr. ภาพจาก : http://www.mahamodo.com/ |
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen