ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธประวัติ
นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์
ที่ ...
พฤศจิกายน
พ.ศ.
๒๕๔๗
----------------------------
๑. พระพุทธเจ้าสืบเชื้อสายมาจากชนชาติใด
?
ชนชาตินั้นมาตั้งถิ่นฐานในชมพูทวีปได้
อย่างไร ?
อย่างไร ?
๑. สืบเชื้อสายมาจากชนชาติอริยกะ
ชาวอริยกะนั้นเป็นผู้เจริญด้วยความรู้และขนบ
ธรรมเนียม มีฤทธิ์มีอำนาจมากกว่าพวกมิลักขะเจ้าของถิ่นเดิม เมื่อข้ามภูเขาหิมาลัยมา
ก็รุกไล่พวกมิลักขะ เจ้าของถิ่นเดิมให้ถอยเลื่อนลงมาทางใต้ แล้วเข้าตั้งถิ่นฐาน
ในชมพูทวีปแทน ฯ
ธรรมเนียม มีฤทธิ์มีอำนาจมากกว่าพวกมิลักขะเจ้าของถิ่นเดิม เมื่อข้ามภูเขาหิมาลัยมา
ก็รุกไล่พวกมิลักขะ เจ้าของถิ่นเดิมให้ถอยเลื่อนลงมาทางใต้ แล้วเข้าตั้งถิ่นฐาน
ในชมพูทวีปแทน ฯ
๒. พระนามและนามดังต่อไปนี้
เกี่ยวข้องกับเจ้าชายสิทธัตถะอย่างไร
?
ก.
พระเจ้าสุทโธทนะ
ข.
พระนางเจ้าสิริมหามายา
ค.
พระนันทะ
ง.
วิศวามิตร
จ.
นายฉันนะ
๒. ก.
พระเจ้าสุทโธทนะ
เป็นพระราชบิดา
ข.
พระนางเจ้าสิริมหามายา
เป็นพระราชมารดา
ค.
พระนันทะ
เป็นพระกนิษฐภาดาต่างพระมารดา
ง.
วิศวามิตร
เป็นครูผู้สอนศิลปวิทยาเมื่อยังทรงพระเยาว์
จ.
นายฉันนะ
เป็นผู้ตามเสด็จในคราวออกผนวช
ฯ
๓. การที่พระราชบิดาและพระญาติวงศ์
คิดผูกพันเจ้าชายสิทธัตถะไว้ให้เพลิดเพลินอยู่
ในกามสุขเพราะเหตุไร ? และด้วยวิธีใด ?
ในกามสุขเพราะเหตุไร ? และด้วยวิธีใด ?
๓. เพราะพระราชบิดาและพระญาติวงศ์ได้ทรงฟังคำทำนายของอสิตดาบสว่า
พระราชกุมาร
นี้จักมีคติเป็นสอง คือ ถ้าอยู่ครองราชสมบัติจักได้เป็นจักรพรรดิราช หรือถ้าออก
บรรพชาจักได้เป็นศาสดาเอกในโลก จึงปรารถนาให้อยู่ครองราชสมบัติมากกว่าที่จะ
ยอมให้เสด็จออกบรรพชา ฯ
นี้จักมีคติเป็นสอง คือ ถ้าอยู่ครองราชสมบัติจักได้เป็นจักรพรรดิราช หรือถ้าออก
บรรพชาจักได้เป็นศาสดาเอกในโลก จึงปรารถนาให้อยู่ครองราชสมบัติมากกว่าที่จะ
ยอมให้เสด็จออกบรรพชา ฯ
ด้วยการตรัสให้ขุดสระโบกขรณีในพระราชนิเวศน์
๓ สระ เพื่อให้เป็นที่เล่นสำราญ
พระราชหฤทัย ให้จัดเครื่องทรง คือจันทน์สำหรับทา ผ้าโพกพระเศียร ฉลองพระองค์
ผ้าทรงสะพัก พระภูษา ล้วนเป็นของประณีต ให้สร้างปราสาท ๓ หลังสำหรับเป็นที่
ประทับทั้ง ๓ ฤดู ตรัสขอพระนางยโสธรามาอภิเษกเป็นพระชายา ฯ
พระราชหฤทัย ให้จัดเครื่องทรง คือจันทน์สำหรับทา ผ้าโพกพระเศียร ฉลองพระองค์
ผ้าทรงสะพัก พระภูษา ล้วนเป็นของประณีต ให้สร้างปราสาท ๓ หลังสำหรับเป็นที่
ประทับทั้ง ๓ ฤดู ตรัสขอพระนางยโสธรามาอภิเษกเป็นพระชายา ฯ
๔. หลังจากตรัสรู้แล้ว
ในระหว่างทางที่เสด็จไปป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
พระพุทธองค์ทรง
สนทนากับใคร ? และผู้นั้นได้บรรลุธรรมชั้นไหน ?
สนทนากับใคร ? และผู้นั้นได้บรรลุธรรมชั้นไหน ?
๔. ทรงพบอุปกาชีวก
ฯ อุปกาชีวกไม่ได้บรรลุธรรมชั้นไหนเลย
ฯ
๕. ในพิธีศิวาราตรี
ถือว่าการอาบน้ำชำระร่างกายในแม่น้ำเป็นการลอยบาป
ส่วนในทาง
พระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าทรงแสดงวิธีลอยบาปไว้อย่างไร ?
พระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าทรงแสดงวิธีลอยบาปไว้อย่างไร ?
๕. ทรงแสดงไว้ว่า
การยังบาปให้สงบระงับจากสันดาน
ละกิเลสที่ทำให้เป็นผู้ดุร้าย
เย่อหยิ่งและกิเลสที่ย้อมจิตให้ติดแน่นในกามารมณ์ เป็นการลอยบาป ฯ
เย่อหยิ่งและกิเลสที่ย้อมจิตให้ติดแน่นในกามารมณ์ เป็นการลอยบาป ฯ
๖. การปลงอายุสังขารของพระพุทธองค์
ถือโดยใจความว่าอย่างไร ?
และทรงปลงอายุ
สังขารเมื่อใด ?
สังขารเมื่อใด ?
๖. ถือโดยใจความว่า
พระองค์ทรงปลงพระทัยว่าจะทรงบำเพ็ญพุทธกิจต่อไปอีกไม่ได้
แล้ว เพราะปรารภถึงสังขารของพระองค์ว่า ทรงพระชราแก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาล
ผ่านวัยเสียแล้ว ที่ทรงเปรียบว่ากายของพระองค์เป็นประหนึ่งเกวียนชำรุดที่ซ่อมแซม
ด้วยไม้ไผ่ มิใช่สัมภาระเกวียนฉะนั้น ฯ
แล้ว เพราะปรารภถึงสังขารของพระองค์ว่า ทรงพระชราแก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาล
ผ่านวัยเสียแล้ว ที่ทรงเปรียบว่ากายของพระองค์เป็นประหนึ่งเกวียนชำรุดที่ซ่อมแซม
ด้วยไม้ไผ่ มิใช่สัมภาระเกวียนฉะนั้น ฯ
เมื่อวันเพ็ญ
เดือน ๓ ก่อนวันปรินิพพาน
๓ เดือน ฯ
๗. พระพุทธศาสนาสืบเนื่องมาถึงปัจจุบันนี้ได้อย่างไร
?
๗. ได้ด้วยการที่บริษัททั้ง
๔ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
และด้วยวิธีที่พระสงฆ์สาวกผู้ใหญ่มีพระมหากัสสปะเป็นต้น
เป็นประธานจัดทำสังคายนาพระธรรมวินัย
วางแบบแผนที่ถูกต้องลงไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก
เพื่อให้บริษัท ๔
ได้เล่าเรียนปฏิบัติตามเมื่อมีสิ่งไรไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนา
พระอริยสงฆ์ในยุคนั้นๆ
ได้ช่วยกันทำสังคายนาเป็นครั้งที่
๒ และครั้งที่ ๓ เป็นลำดับมา
เพื่อชำระสัทธรรมปฏิรูปนั้นเสีย
จนได้จารึกไว้ในพระคัมภีร์ให้แพร่หลาย
รวมทั้งจัดการส่งพระสงฆ์ไปประกาศพระพุทธศาสนาในดินแดนต่างๆ
ให้ชุมชนในดินแดนนั้นๆ
เลื่อมใสปฏิบัติตาม
จึงทำให้พระพุทธศาสนาสืบเนื่องมาจนปัจจุบันนี้
ฯ
ศาสนพิธี
๘. ในพิธีทำบุญต่างๆ
มีผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติกี่ฝ่าย
?
คือใครบ้าง
?
๘. มีผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติ
๒ ฝ่าย คือ
๑.
ฝ่ายเจ้าภาพ
คือทายกทายิกา
ผู้ประกอบการทำบุญ
๒.
ฝ่ายปฏิคาหก
คือผู้รับทานและประกอบพิธีกรรมตามประสงค์ของเจ้าภาพ
ซึ่งเป็นบรรพชิต
เรียกอีกอย่างว่าฝ่ายพระสงฆ์
ฯ
๙. เพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักศาสนพิธี
เจ้าภาพพึงกรวดน้ำและประนมมือรับพรตอนไหน
?
๙. เมื่อพระสงฆ์เริ่มอนุโมทนาด้วยบทว่า
ยถา วาริวหา ฯเปฯ เจ้าภาพพึงกรวดน้ำ
ไม่ใช้
นิ้วมือรอง เวลารินไม่ให้น้ำขาดสาย พอว่าบท สพฺพีติโย ฯเปฯ รินน้ำให้หมดแล้วประนมมือรับพรต่อไปจนจบ ฯ
นิ้วมือรอง เวลารินไม่ให้น้ำขาดสาย พอว่าบท สพฺพีติโย ฯเปฯ รินน้ำให้หมดแล้วประนมมือรับพรต่อไปจนจบ ฯ
๑๐. การเผดียงสงฆ์
และ การอาราธนา หมายถึงอะไร
?
๑๐. การเผดียงสงฆ์
หมายถึง การแจ้งความประสงค์ให้สงฆ์ทราบ
การอาราธนา
หมายถึง การนิมนต์พระสงฆ์ในพิธีให้ศีล
สวดพระปริตร หรือแสดงธรรม
ฯ
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
|
พระเทพปัญญามุนี
|
วัดปทุมวนาราม
|
|
|
|
พระราชธรรมมุนี
|
วัดจักรวรรดิราชาวาส
|
|
|
|
พระศรีธรรมเมธี
|
วัดมหรรณพาราม
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
|
สนามหลวงแผนกธรรม
|
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen