ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ
นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันอังคาร
ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.
๒๕๕๐
-------------------------
๑. พระศาสดาทรงบัญญัติพระวินัยไว้เพื่ออะไร
?
ตอบ:
๑. เพื่อป้องกันความประพฤติเสียหายของภิกษุสงฆ์
และเพื่อชักนำความประพฤติของภิกษุสงฆ์ให้ดีงาม
ฯ
๒. สิกขาบทที่มีมาในพระปาติโมกข์
มีเท่าไร ?
ว่าโดยหมวดมีอะไรบ้าง
?
ตอบ:
๒. มี
๒๒๗ สิกขาบท ฯ
มี
ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓
อนิยต ๒ นิสสัคคิยปาจิตตีย์
๓๐ ปาจิตตีย์ ๙๒ ปาฏิเทสนียะ
๔ เสขิยะ ๗๕ อธิกรณสมถะ ๗
ฯ
๓. อาการที่ภิกษุจะต้องอาบัติ
มีเท่าไร ?
ต้องด้วยไม่ละอาย
มีอธิบายอย่างไร ?
ตอบ:
๓. มี
๖ อย่าง ฯ
ภิกษุรู้อยู่แล้ว
และละเมิดพระบัญญัติด้วยใจด้านไม่รู้จักละอาย
ชื่อว่าต้องด้วยไม่ละอาย
ฯ
๔. เมื่อภิกษุต้องอาบัติแล้ว
จะพึงปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ:
๔. พึงบอกภิกษุด้วยกันในวันนั้น
และพึงแก้ไขตามวิธีนั้น ๆ
ฯ
๕. สังหาริมทรัพย์
และ อสังหาริมทรัพย์คือทรัพย์เช่นไร
?
ภิกษุจะต้องอาบัติถึงที่สุดในเพราะลักทรัพย์ทั้ง
๒ อย่างนั้นเมื่อใด ?
ตอบ:
๕. สังหาริมทรัพย์
คือทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้
อสังหาริมทรัพย์
คือทรัพย์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้
ฯ
สำหรับสังหาริมทรัพย์
ภิกษุจะต้องอาบัติถึงที่สุด
ในเมื่อทำให้ทรัพย์นั้นเคลื่อนจากที่เดิม
ส่วนอสังหาริมทรัพย์
จะต้องอาบัติถึงที่สุด
ในเมื่อเจ้าของทอดกรรมสิทธิ์
ฯ
๖. ภิกษุรู้ตัวว่าต้องอาบัติสังฆาทิเสส
จึงแสดงอาบัตินั้นต่อภิกษุอีกรูปหนึ่ง
อย่างนี้จะพ้นจากอาบัตินั้นได้หรือไม่
เพราะเหตุไร ?
ตอบ:
๖.
พ้นไม่ได้
เพราะอาบัติสังฆาทิเสสนั้น
ภิกษุผู้ต้องจะพ้นได้ด้วยอยู่กรรม
ฯ
๗. ที่ลับตา
กับที่ลับหู ต่างกันอย่างไร
? ที่ลับทั้ง
๒ นั้น เป็นทางให้ปรับ
อาบัติได้มากน้อยกว่ากันอย่างไร
?
ตอบ:
๗. ต่างกันอย่างนี้
ที่ที่มีสิ่งกำบัง เห็นกันไม่ได้
เรียกว่า ที่ลับตา
ที่ที่ไม่มีสิ่งกำบัง
เห็นกันได้ แต่ฟังเสียงพูดกันไม่ได้ยิน
เรียกว่า ที่ลับหู ฯ
ที่ลับตา
เป็นทางให้ปรับอาบัติได้มากกว่า
คือตั้งแต่ปาราชิก สังฆาทิเสส
ถึง ปาจิตตีย์
ส่วนที่ลับหู
เป็นทางให้ปรับอาบัติตั้งแต่สังฆาทิเสสลงมา
ฯ
๘. ภิกษุรับนิมนต์แล้ว
จะไปที่อื่นก่อนหรือหลังฉัน
ต้องปฏิบัติอย่างไร ?
ถ้าไม่ทำเช่นนั้น
ต้องอาบัติอะไร ?
ตอบ:
๘. ต้องปฏิบัติอย่างนี้
คือ ต้องบอกลาภิกษุอื่นก่อน
ฯ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ฯ
๙. ผ้าอาบน้ำฝนมีกำหนดขนาดไว้เท่าใด
? ถ้าทำเกินกว่าขนาดนั้นต้องอาบัติ
ก่อนจะแสดงอาบัตินั้น
ต้องทำอย่างไร ?
ตอบ:
๙. ยาว
๖ คืบ กว้าง ๒ คืบครึ่ง
โดยคืบพระสุคต ฯ
ต้องตัดให้ได้ขนาดเสียก่อน
ฯ
๑๐. หมวดสารูปในเสขิยวัตร
ว่าด้วยเรื่องอะไร ?
ข้อว่า
“ไม่เอามือค้ำกายนั่งในบ้าน”
คือไม่ทำอย่างไร ?
ตอบ:
๑๐. ว่าด้วยธรรมเนียมควรประพฤติในเวลาเข้าบ้าน
ฯ
คือ
ไม่นั่งเท้าแขนข้างเดียวก็ตาม
สองข้างก็ตามในบ้าน ฯ
***********
Cr. ภาพจาก : http://www.mahamodo.com/ |
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen