Dienstag, 12. März 2019

ปัญหาและเฉลย(วิชาอนุพุทธประวัติ) นักธรรมชั้นโท ปี 2547


ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์ ที่ .. พฤศจิกายน พ.. ๒๕๔๗
------------------------
 
. อนุพุทธบุคคล คือใคร ? เป็นได้เฉพาะบรรพชิตหรือเฉพาะคฤหัสถ์ ?
. คือ สาวกของพระพุทธเจ้า ที่ท่านได้ตรัสรู้มรรคผลตามพระพุทธเจ้า ฯ
เป็นได้ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ฯ
 

. พระวาจาว่า ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติ
พรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด ดังนี้ คำว่า ที่สุดทุกข์ คืออะไร ? ผู้ทำ
ที่สุดทุกข์ได้ก่อนกว่าผู้อื่นคือใคร ? ด้วยพระธรรมเทศนาอะไร ?
. คือ พระอรหัตผล ฯ
คือ พระภิกษุปัญจวัคคีย์ ฯ
ด้วยพระธรรมเทศนาชื่อว่า อนัตตลักขณสูตร ฯ
 

. พระพุทธเจ้าทรงทำอิทธาภิสังขารแก่ใครเป็นครั้งแรก ? ทรงทำเช่นนั้นด้วยพระพุทธ
ประสงค์อย่างไร ?

. ทรงทำแก่ ยสกุลบุตรและบิดาของยสกุลบุตรเป็นครั้งแรก ฯ
ด้วยพระพุทธประสงค์เพื่อให้ยสกุลบุตรพิจารณาภูมิธรรมอันตนได้เห็นแล้ว จนถึง
ได้บรรลุพระอรหัต และให้บิดาได้ฟังธรรมแล้วบรรลุพระโสดาปัตติผล ฯ
 

. ในคราวที่เสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร ณ ลัฏฐิวัน มีพระสาวกตามเสด็จไปเป็น
จำนวนมาก ผู้ที่เป็นหัวหน้าของพระสาวกเหล่านั้นคือใคร ? และท่านมีส่วนสำคัญ
ในการประกาศพระศาสนาในครั้งนั้นอย่างไร ?
. คือ พระอุรุเวลกัสสปะ ฯ
ท่านเป็นที่เคารพนับถือของมหาชน ได้ประกาศความไม่มีแก่นสารแห่งลัทธิเก่าของตน
และความที่ตนเป็นสาวกของพระพุทธองค์ ทำให้พระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร
๑๒ ส่วน น้อมจิตลงสดับพระธรรมเทศนาเรื่องอนุปุพพีกถาและอริยสัจ ๔ พระเจ้า
พิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร ๑๑ ส่วน ได้ดวงตาเห็นธรรม อีก ๑ ส่วน ตั้งอยู่
ในไตรสรณคมน์ ฯ
 

. เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองเทวทหะ รับสั่งกับพระภิกษุผู้เข้าเฝ้าเพื่อทูลลาไป
ปัจฉาภูมิชนบท ให้ไปลาพระเถระรูปใด ? และทรงยกย่องพระเถระรูปนั้นว่าอย่างไร ?
­ . รับสั่งให้ไปลาพระสารีบุตรเถระ ฯ
ทรงยกย่องท่านว่า เป็นผู้มีปัญญา อนุเคราะห์เพื่อนบรรพชิต ฯ
 

. พระมหากัสสปะออกบวชเพราะมีความเห็นอย่างไร ? ท่านได้รับยกย่องว่าเลิศใน
ทางไหน ?
. เพราะมีความเห็นว่า ผู้อยู่ครองเรือนต้องคอยนั่งรับบาปเพราะการงานที่ผู้อื่นทำไม่ดี
และเห็นว่าฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งกิเลสธุลี จึงมีใจเบื่อหน่ายสละสมบัติ
ออกบวชอุทิศพระอรหันต์ในโลก ฯ
ได้รับยกย่องว่า เป็นเลิศแห่งภิกษุผู้ทรงธุดงค์ ฯ
 

. บุคคลประเภทที่ว่า ธัมมัปปมาณิกา ผู้ถือธรรมเป็นประมาณ มีอธิบายอย่างไร ?
ในข้อนี้มีตัวอย่างแสดงไว้อย่างไร ?
. มีอธิบายว่า บุคคลประเภทนี้ถือธรรมเป็นสำคัญ ชอบใจเฉพาะข้อปฏิบัติ เห็นผู้ที่
ตั้งอยู่ในสังวรมีมรรยาทเรียบร้อย และได้ฟังธรรมอันท่านแสดงมุ่งกล่าวเฉพาะ
ข้อปฏิบัติ ย่อมเลื่อมใส ฯ
ตัวอย่างเช่นพระสารีบุตรได้เห็นพระอัสสชิ และได้ฟังธรรมของท่านแล้ว จึงเกิดความ
เลื่อมใส ฯ
ศาสนพิธี
 

. การทำวัตร และการสวดมนต์ ต่างกันอย่างไร ?
. การทำวัตร คือ การทำกิจวัตรที่ต้องทำประจำ วันละ ๒ เวลา คือ เช้า-เย็น จนเป็น
วัตรปฏิบัติ มีการสวดบูชาพระรัตนตรัย และสวดพิจารณาปัจจัยที่บริโภคเป็นต้น
ส่วนการสวดมนต์คือ การสวดพระพุทธมนต์ต่างๆ นอกเหนือจากบทสวดทำวัตร
ที่เป็นส่วนพระสูตรก็มี ที่เป็นส่วนพระปริตรก็มี ที่เป็นส่วนเฉพาะคาถาอันนิยม
กำหนดให้นำมาสวดประกอบในการสวดมนต์เป็นประจำก็มี ฯ
 

. คำต่อไปนี้หมายถึงอะไร ?
. เทศน์มหาชาติ
. ทำบุญอัฐิ
. สามัญอนุโมทนา
. วิเสสอนุโมทนา
. สลากภัต
. . หมายถึง เทศนาเรื่องพระเวสสันดรชาดก
. หมายถึง ทำบุญหลังจากการปลงศพปรารภผู้ล่วงลับแล้ว
. หมายถึง การอนุโมทนาที่นิยมใช้ปฏิบัติกันทั่วไปเป็นปกติ
. หมายถึง การอนุโมทนาด้วยบทสวดสำหรับอนุโมทนาเป็นพิเศษ
เฉพาะทาน เฉพาะกาล เฉพาะเรื่อง
. หมายถึง ภัตตาหารที่ทายก ทายิกาถวายตามสลาก ฯ
 

๑๐. ประเพณีการเทศน์แจงและการสวดแจงอาศัยเค้ามูลมาจากเรื่องอะไร ? นิยมเทศน์
ในงานอะไร ?
๑๐. อาศัยเค้ามูลมาจากเรื่องการทำปฐมสังคายนา ซึ่งเป็นการรวบรวมพระธรรมวินัย จัดไว้
เป็นหมวดหมู่ เรียกว่า พระไตรปิฎก ดังนั้นการเทศน์แจงจึงเป็นการแสดงธรรม
แจกแจงวัตถุและหัวข้อในพระไตรปิฎก ในการทำปฐมสังคายนา มีการกสงฆ์จำนวน
๕๐๐ รูป การสวดแจงจึงนิยมนิมนต์พระสงฆ์ ๕๐๐ รูป ให้เท่าจำนวนการกสงฆ์
ในครั้งนั้น ฯ
นิยมเทศน์ในงานฌาปนกิจศพ ฯ


ผู้ออกข้อสอบ
:
พระธรรมคุณาภรณ์
วัดสามพระยา


พระธรรมวราภรณ์
วัดราชบพิธ


พระธรรมปริยัติเวที
วัดพระปฐมเจดีย์





ตรวจ/ปรับปรุง
:

สนามหลวงแผนกธรรม



Keine Kommentare: