ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ
นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันพฤหัสบดี
ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๕๐
--------------------------
--------------------------
๑. สังฆกรรมจำแนกออกเป็นประเภท
เรียกโดยชื่อมีอะไรบ้าง ?
กรรมอะไรบ้างที่สงฆ์จตุวรรคทำได้
?
ตอบ:
๑. มี
อปโลกนกรรม ๑ ญัตติกรรม ๑
ญัตติทุติยกรรม ๑ ญัตติจตุตถกรรม
๑ ฯ
เว้นปวารณา
ให้ผ้ากฐิน อุปสมบท และอัพภาน
นอกนั้นทำได้ ทุกอย่าง ฯ
๒. สีมาสังกระ
คืออะไร ?
สงฆ์จะทำสังฆกรรมในสีมาเช่นนั้นได้หรือไม่อย่างไร
?
ตอบ:
๒. คือ
สีมาที่สมมติคาบเกี่ยวกันระหว่างสีมาที่สมมติไว้เดิมและสีมาที่สมมติขึ้นใหม่
ฯ
สงฆ์ทำสังฆกรรมในสีมาที่สมมติไว้เดิมได้
แต่ทำในสีมาที่สมมติขึ้นใหม่ไม่ได้
ฯ
๓. การอปโลกน์
และ การสวดเพื่อให้ผ้ากฐิน
จัดเป็นสังฆกรรมประเภท ใด
? การกรานกฐินด้วยผ้าสังฆาฏิ
พึงกล่าวว่าอย่างไร ?
๓. การอปโลกน์เพื่อให้ผ้ากฐิน
จัดเป็นอปโลกนกรรม การสวดเพื่อให้
ผ้ากฐิน จัดเป็นญัตติทุติยกรรม
ฯ
ว่า
อิมาย สงฺฆาฏิยา กฐินํ
อตฺถรามิ ฯ
๔. การบรรพชาและการอุปสมบท
สำเร็จด้วยวิธีอะไร ?
นอกจากอภัพบุคคลและผู้มีบรรพชาโทษแล้ว
บุคคลประเภทใดบ้างที่ถูกห้ามไม่ให้อุปสมบท
?
ตอบ:
๔. การบรรพชาสำเร็จด้วยวิธีไตรสรณคมน์
และการอุปสมบทสำเร็จด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรมวาจา
ฯ
คือ ๑.
คนไม่มีอุปัชฌาย์
๒.
คนไม่มีบาตร
คนไม่มีจีวร หรือไม่มีทั้งบาตรทั้งจีวร
๓.
คนยืมบาตร จีวร
หรือยืมทั้งบาตรทั้งจีวรเขามา
ฯ
๕. อนุวาทาธิกรณ์เช่นไร
อันภิกษุจะพึงยกขึ้นว่าได้
?
ตอบ:
๕. ต้องเป็นเรื่องมีมูล
คือ เรื่องที่ได้เห็นเอง
๑ เรื่องที่ได้ยินเอง
หรือมีผู้บอกและเชื่อว่าเป็นจริง
๑ เรื่องที่เว้นจาก ๒ สถานนั้น
แต่รังเกียจโดยอาการ ๑
เช่นได้ยินว่า
พัสดุชื่อนี้ของผู้มีชื่อนี้หายไป
ได้พบพัสดุชนิดนั้นในที่อยู่ของภิกษุชื่อนั้น
ฯ
๖. การคว่ำบาตรในทางพระวินัยหมายถึงอะไร
? และจะหงายบาตรได้
เมื่อไร ?
ตอบ:
๖. หมายถึง
การไม่ให้คบค้าสมาคมด้วยลักษณะ
๓ ประการ คือ
๑.
ไม่รับบิณฑบาตของเขา
๒.
ไม่รับนิมนต์ของเขา
๓.
ไม่รับไทยธรรมของเขา
ฯ
เมื่อผู้ถูกคว่ำบาตรนั้นละโทษนั้นแล้ว
กลับประพฤติดี ฯ
๗. สังฆราชี
คืออะไร ?
ตอบ:
๗. คือ
การที่ภิกษุแตกกันเป็น ๒
ฝ่าย เพราะมีความเห็นปรารภ
พระธรรมวินัยผิดแผกกันจนเกิดเป็นวิวาทาธิกรณ์ขึ้น
หรือมีความปฏิบัติไม่สม่ำเสมอกัน
ยิ่งหย่อนกว่ากัน
เกิดรังเกียจกันขึ้น
แต่ยังไม่แยกทำอุโบสถปวารณาหรือสังฆกรรมอื่น
ฯ
๘. ภิกษุเมื่อลาสิกขา
ต้องทำเป็นกิจลักษณะด้วยการกล่าวคำปฏิญญาตนเป็นผู้อื่นจากภิกษุต่อหน้าใครได้บ้าง
? และทำอย่างไรจึงเป็น
กิจลักษณะ ?
ตอบ:
๘. ต่อหน้าภิกษุด้วยกันหรือคนอื่นจากภิกษุก็ได้
ฯ
ปฏิญญาอย่างนี้
คือ
พร้อมด้วยจิต
คือทำด้วยตั้งใจเพื่อลาสิกขาจริง
ๆ
พร้อมด้วยกาล
คือด้วยคำเด็ดขาด ไม่ใช่รำพึง
ไม่ใช่ปริกัป
พร้อมด้วยประโยค
คือปฏิญญาด้วยตนเอง
พร้อมด้วยบุคคล
คือผู้ปฏิญญาและผู้รับปฏิญญาเป็นคนปกติ
พร้อมด้วยความเข้าใจ
คือผู้รับปฏิญญาเข้าใจคำนั้นในทันที
ฯ
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์
๙. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์
คืออะไร ?
ตอบ:
๙. คือ
กฏหมายฉบับหนึ่งว่าด้วยคณะสงฆ์
มีศักดิ์รองลงมาจากรัฐธรรมนูญ
ฯ
๑๐. ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก
มีโทษอย่างไร ?
ตอบ:
๑๐. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ ฯ
***********
Cr. ภาพจาก : http://www.mahamodo.com/ |
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen