๔๓. คำสุภาษิตเย็นยิ่งกว่าจันทน์(ร์)
จนฺทนํ สีตลํ โลเก, จนฺทิกา สีตลา ตโต;
จนฺทนจนฺทิกาโตปิ, วากฺยํ สาธุสุภาสิตํฯ
„ไม้จันทน์ เป็นของเย็นในโลก,
แสงจันทร์ เย็นกว่าไม้จันทน์นั้น,
ส่วนคำสุภาษิตของนักปราชญ์ทั้งหลาย
เย็นยิ่งกว่าไม้จันทน์และแสงจันทร์นั้น.“
(กวิทัปปณนีติ หมวดบัณฑิต ๔๓ โลกนีติ ๔๘, มหารหนีติ ๙, ธัมมนีติ ๖๘,)
..
ศัพท์น่ารู้ :
จนฺทนํ (ไม้จันทน์) จนฺทน+สิ, ป., นป. มาจาก √จทิ+ยุ ปัจจัย ลงนิคคหิตอาคม แปลงนิคคหิตเป็น นฺ, แปลง ยุ เป็น อน. จนฺทน มีวิเคราะห์ว่า (วิ.) จนฺทยติ หิลาทยติ สีตคุณสมงฺคิตาย สตฺตานํ ปริฬาหํ วูปสเมนฺตํ สุขํ อุปฺปาเทตีติ จนฺทนํ.
(ที่ชื่อว่า จนฺทน เพราะอรรถว่า ช่วยให้เกิดความสุขที่ดับความเร่าร้อนของเหล่าสัตว์ได้ เพราะมีกลิ่นหอมที่พรั่งพร้อมไปด้วยความเย็น), ศัพท์ที่เป็นชื่อ ไม้จันทน์ มี ๗ ศัพท์ คือ: จนฺทน, คนฺธสาร, มลยช, สุวณฺณจนฺทน, หริจนฺทน, รตฺตจนฺทน, โคสีตจนฺทน. (อภิธาน. ๓๐๐-๑)
สีตลํ (เย็น, หนาว) สีตล+สิ นป.
โลเก (ในโลก) โลก+สฺมึ
จนฺทิกา (แสงจันทร์) จนฺทิกา+สิ อิต. ศัพท์ที่เป็นชื่อพระจันทร์ มี ๑๔ ศัพท์ คือ: อินฺทุ, จนฺท, นกฺขตฺตราช, โสม, นิสากร, โอสธีส, หิมรํสิ, สสงฺก, จนฺทิมนฺตุ, สสี, สีตรํสิ, นิสานาถ, อุฬุราช, มา. (อภิธาน. ๕๑)
สีตลา (เย็น, หนาว) สีตลา+สิ อิต.
ตโต (กว่า..นั้น) ต+โต ปัจจัย ใช้ในอรรถปัญจมีวิภัตติ. บาทคาถาที่สองนี้ ในโลกนีติ เป็น ตโต จนฺทํว สีตลํ;
จนฺทนจนฺทิกาโตปิ (แม้กว่าไม้จันทน์หอมและแสงจันทร์) จนฺทนจนฺทิกาโต+อปิ, ส่วนโลกนีติเป็นต้นเป็น จนฺทนจนฺทสีตมฺหา (แม้กว่าไม้จันทน์และพระจันทร์) จนฺทน+จนฺท+สีต > จนฺทนจนฺทสีต+สฺมา
วากฺยํ (คำพูด, ถ้อยคำ, พากย์) วากฺย+สิ
สาธุสุภาสิตํ (คำที่กล่าวดีแล้วของคนดี, คำพูดของนักปราชญ์) สาธุ+สุภาสิต > สาธุสุภาสิต+สิ, ส่วนในโลกนีติ คาถาบาทสุดท้ายนี้ เป็น สาธุวากฺยํ สุภาสิตํฯ
สาธุ ศัพท์ย่อมใช้ในอรรถ ๖ อย่าง คือ :
๑) สุนฺทร (ดี, งาม), เช่น สาธุ ธมฺมจารี ราชาฯ สาธุ ปญฺญาณวา นโรฯ สาธุ มิตฺตานมทุพฺโภ, ปาปานํ อกรณํ สุขํฯ (พระราชาผู้มีปกติประพฤติธรรม เป็นพระราชาที่ดี., คนผู้ปัญญา เป็นคนดี., คนไม่ประทุษร้ายมิตรทั้งหลาย เป็นคนดี., การไม่ทำบาปทั้งหลาย เป็นความดี.)
๒) ทฬฺหีกมฺม (ทำให้มั่นคง), เช่น สาธุกํ สุโณม มนสิกโรมฯ (เราทั้งหลาย จงฟัง จงกระทำไว้ในใจ ให้มั่น.)
๓) อาจายน (อ้อนวอน), เช่น สาธุ เม ภนฺเต ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตุฯ (ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงแสดงธรรมโดยย่อแก่ข้าพระองค์เถิด.)
๔) สมฺปฏิจฺฉน (รับคำ), เช่น สาธุ ภนฺเตติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวาฯ (ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ชื่นชมยิ่งซึ่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า อนุโมนาแล้ว ด้วยคำว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อ. ดีละ ดังนี้แล.)
๕) สชฺชน (คนดี, ความดี), เช่น อสาธุํ สาธุนา ทเมฯ (พึงฝึกคนคนไม่ดี ด้วยความดี.)
๖) สมฺปหํสน (รื่นเริง, ยินดี), เช่น สาธุ สาธุ สารีปุตฺตฯ (แน่ะสารีบุตร อ. ดีแล้ว ๆ)
(ที่มา : อภิธาน-สูจิ หน้า ๘๗๕)
..
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen