๗.
อรหนฺตวคฺโค
คาถาธรรมบท
อรหันตวรรคที่ ๗
๙๐.
คตทฺธิโน
วิโสกสฺส,
วิปฺปมุตฺตสฺส
สพฺพธิ;
สพฺพคนฺถปฺปหีนสฺส,
ปริฬาโห
น วิชฺชติฯ
ความเร่าร้อนย่อมไม่มีแก่ผู้ที่มีทางไกลอันถึงแล้ว
ผู้มีความโศกปราศไปแล้ว
ผู้พ้นวิเศษแล้วในธรรมทั้งปวง
ผู้มีกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวงอันละได้แล้ว.
(๗:๑)
๙๑.
อุยฺยุญฺชนฺติ
สตีมนฺโต,
น
นิเกเต รมนฺติ เต;
หํสาว
ปลฺลลํ หิตฺวา,
โอกโมกํ
ชหนฺติ เตฯ
ท่านผู้มีสติย่อมขวนขวายท่านย่อมไม่ยินดีในที่อยู่
ท่านละความห่วงใยเสีย
เหมือนหงส์สละเปือกตมไป
ฉะนั้น.
(๗:๒)
๙๒.
เยสํ
สนฺนิจโย นตฺถิ,
เย
ปริญฺญาตโภชนา;
สุญฺญโต
อนิมิตฺโต จ,
วิโมกฺโข
เยส โคจโร;
อากาเสว
สกุนฺตานํ,
คติ
เตสํ ทุรนฺนยาฯ
ชนเหล่าใดไม่มีการสั่งสมมีโภชนะอันกำหนดแล้ว
มีสุญญตวิโมกข์และอนิมิตตวิโมกข์เป็นโคจร
คติของชนเหล่านั้น
รู้ได้โดยยาก เหมือนคติ
ฝูงนกในอากาศ
ฉะนั้น.
(๗:๓)
๙๓.
ยสฺสาสวา
ปริกฺขีณา,
อาหาเร
จ อนิสฺสิโต;
สุญฺญโต
อนิมิตฺโต จ,
วิโมกฺโข
ยสฺส โคจโร;
อากาเสว
สกุนฺตานํ,
ปทนฺตสฺส
ทุรนฺนยํฯ
ภิกษุใดมีอาสวะสิ้นแล้ว
อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยแล้วในอาหาร
อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยแล้วในอาหาร
มีสุญญตวิโมกข์และอนิมิตตวิโมกข์เป็นโคจร
รอยเท้าของภิกษุนั้น
ไปตามได้โดยยาก
เหมือนรอยเท้าของฝูงนกในอากาศ
ฉะนั้น.
(๗:๔)
๙๔.
ยสฺสินฺทฺริยานิ
สมถงฺคตานิ,
อสฺสา
ยถา สารถินา สุทนฺตา;
ปหีนมานสฺส
อนาสวสฺส,
เทวาปิ
ตสฺส ปิหยนฺติ ตาทิโนฯ
อินทรีย์ของภิกษุใดถึงความสงบระงับ
เหมือนม้าอันนายสารถีฝึกดีแล้ว
แม้เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ย่อมรักใคร่ต่อภิกษุนั้น
ผู้มีมานะอันละได้แล้ว
หาอาสวะมิได้ ผู้คงที่.
(๗:๕)
๙๕.
ปฐวีสโม
โน วิรุชฺฌติ,
อินฺทขีลูปโม
ตาทิ สุพฺพโต;
รหโทว
อเปตกทฺทโม,
สํสารา
น ภวนฺติ ตาทิโนฯ
ภิกษุผู้มีอาสวะสิ้นแล้วมีใจเสมอด้วยแผ่นดิน
ผู้คงที่
เปรียบดังเสาเขื่อน มีวัตรดี,
ปราศจากกิเลสเพียงดังเปือกตม
ผ่องใส
เหมือนห้วงน้ำที่ปราศจากเปือกตมมีน้ำใส
ย่อมไม่พิโรธ,
สงสารทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่ภิกษุผู้คงที่
สงสารทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่ภิกษุผู้คงที่
มีอาสวะสิ้นแล้ว
เช่นนั้น.
(๗:๖)
๙๖.
สนฺตํ
ตสฺส มนํ โหติ,
สนฺตา
วาจา จ กมฺม จ;
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตสฺส, อุปสนฺตสฺส ตาทิโนฯ
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตสฺส, อุปสนฺตสฺส ตาทิโนฯ
ใจ
วาจาและกายกรรมของภิกษุผู้ขีณาสพนั้น
ผู้หลุดพ้นแล้ว
เพราะรู้โดยชอบ สงบระงับ
คงที่
เป็นธรรมชาติสงบแล้ว.
(๗:๗)
๙๗.
อสฺสทฺโธ
อกตญฺญู จ,
สนฺธิจฺเฉโท
จ โย นโร;
หตาวกาโส
วนฺตาโส,
ส
เว อุตฺตมโปริโสฯ
นรชนใดไม่เชื่อต่อผู้อื่น
รู้นิพพานอันปัจจัยอะไรๆ
ทำไม่ได้
ผู้ตัดที่ต่อ
มีโอกาสอันขจัดแล้ว
มีความหวังอันคลายแล้ว
นรชนนั้นแล
เป็นบุรุษผู้สูงสุด.
(๗:๘)
๙๘.
คาเม
วา ยทิ วา รญฺเญ,
นินฺเน
วา ยทิ วา ถเล;
ยตฺถ
อรหนฺโต วิหรนฺติ,
ตํ
ภูมิรามเณยฺยกํฯ
พระอรหันต์ทั้งหลายย่อมอยู่ในที่ใดคือบ้านหรือป่า
ที่ลุ่มหรือที่ดอน
ที่นั้นเป็นภาคพื้นอันบุคคลพึงรื่นรมย์.
(๗:๙)
๙๙.
รมณียานิ
อรญฺญานิ,
ยตฺถ
น รมตี ชโน;
วีตราคา
รเมสฺสนฺติ,
น
เต กามคเวสิโนฯ
อรหนฺตวคฺโค สตฺตโม นิฏฺฐิโตฯ
อรหนฺตวคฺโค สตฺตโม นิฏฺฐิโตฯ
ชนไม่ยินดีในป่าเหล่าใด
ป่าเหล่านั้น ควรรื่นรมย์
ผู้มีราคะไปปราศแล้วทั้งหลาย
จักยินดีในป่าเห็น
ปานนั้น
เพราะว่าท่านไม่ใช่ผู้แสวงหากาม.
(๗:๑๐)
จบอรหันตวรรคที่ ๗
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen