Freitag, 12. April 2019

ปัญหาและเฉลย(พุทธานุพุทธประวัติ) นักธรรมชั้นเอก ปี 2543


ปัญหาและเฉลยพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง พ.. ๒๕๔๓
วันศุกร์ ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.. ๒๕๔๓
------------------------------
.
.๑ ลักษณะทั้ง ๒ ที่พระพุทธองค์ทรงเห็นในมัชฌิมยามแห่งราตรีตรัสรู้คือ อะไรบ้าง ?
.๒ พระอุทานที่พระพุทธองค์ทรงเปล่งในปัจฉิมยามมีความว่าอย่างไร ?
ตอบ:
.๑ คือ
) ปัจจัตตลักษณะ ได้แก่การกำหนดโดยความเป็นกอง
) สามัญลักษณะ ได้แก่การกำหนดโดยความเป็นสภาพเสมอกันคือ ความเป็นของไม่เที่ยง
.๒ มีความว่า เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏชัดแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ พราหมณ์นั้นย่อมกำจัดเสนามาร คือ ชรา พยาธิ มรณะเสียได้ ดุจพระอาทิตย์อุทัยขึ้นกำจัดมืด ทำอากาศให้สว่างฉะนั้น

.
.๑ ที่สุดโต่งอันบรรพชิตไม่ควรเสพนั้นคืออะไรบ้าง ?
.๒ ที่สุดโต่งนั้นมีโทษอย่างไร ?
ตอบ:

.๑ คือ
) กามสุขัลลิกานุโยค
) อัตตกิลมถานุโยค
.๒ มีโทษดังนี้
กามสุขัลลิกานุโยค คือการประกอบตนให้พัวพันด้วยสุขในกาม เป็นธรรมอันเลว เป็นเหตุตั้งบ้านเรือน เป็นของคนมีกิเลสหนา ไม่ใช่ของคนอริยะคือ ผู้บริสุทธิ์ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
อัตตกิลมถานุโยค คือการประกอบความเหน็ดเหนื่อยแก่ตนเปล่า ให้เกิดทุกข์แก่ผู้ประกอบ ไม่ทำผู้ประกอบให้เป็นอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์

.
.๑ พระอัครสาวก ๒ รูปมีชื่อเรียกอะไรบ้าง ? เหตุไรจึงเรียกอย่างนั้น ?
.๒ พระอัสสชิแสดงธรรมแก่อุปติสสปริพาชกมีความว่าอย่างไร ? และมีผล อย่างไร?
ตอบ:
.๑ มีชื่อเรียก อุปติสสะ หรือสารีบุตร ๑ เรียก โกลิตะ หรือ โมคคัลลานะ ๑ ที่เรียกว่า อุปติสสะ เพราะเรียกตามโคตร ที่เรียกว่า สารีบุตร เพราะเป็นบุตรของ นางสารีพราหมณี ส่วนที่เรียกว่า โกลิตะ เพราะเรียกตามโคตร ที่เรียกว่า โมคคัลลานะ เพราะเป็นบุตรของนางโมคคัลลานีพราหมณี
.๒ มีความว่า ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุของธรรมนั้นและความดับแห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสอนอย่างนี้ มีผล คือ อุปติสสปริพาชกได้ดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งใด สิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา

.
.๑ พระมหากัสสปเถระประพฤติธุดงควัตรเพราะเห็นอำนาจประโยชน์ อย่างไร ?
.๒ เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านเป็นกำลังสำคัญแก่พระพุทธศาสนา อย่างไร ?
ตอบ:
.๑ เพราะเห็นอำนาจประโยชน์ ๒ อย่างคือ
) การอยู่เป็นสุขในบัดนี้ของตน
) เพื่ออนุเคราะห์ประชุมชนในภายหลัง จะได้เป็นทิฏฐานุคติแห่ง
คนผู้มาเกิดในภายหลัง เมื่อทราบว่า สาวกของพระพุทธเจ้าได้
ประพฤติอย่างนี้ เขาจะได้ประพฤติตาม ซึ่งเป็นทางอำนวยสุขแก่เขาเอง
.๒ ท่านได้เป็นประธานทำสังคายนาเป็นครั้งแรก

.
.๑ คำว่า “ภทฺเทกรตฺโต” ผู้มีราตรีเดียวอันเจริญ คือการปฏิบัติอย่างไร ?
.๒ พระสาวกรูปใดได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ฉลาดอธิบายความย่อให้พิสดาร ?
ตอบ:
.๑ คือการปฏิบัติอย่างนี้ คือ เป็นผู้มีความเพียร ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลางคืน อยู่ด้วยความไม่ประมาท
.๒ พระมหากัจจายนะ

.
.๑ ปัญหาว่า “พระขีณาสพตายแล้วเป็นอะไร” ใครถามใคร ? มีคำตอบอย่างไร ?
.๒ พระศาสดาทรงพยากรณ์ปัญหาจบลงแล้ว มีผลอะไรเกิดแก่มาณพ ๑๖ คน ?
ตอบ:
.๑ พระสารีบุตรถามพระยมกะ มีคำตอบว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่ไม่เที่ยง ดับไปแล้ว
.๒ มีผลคือ มาณพ ๑๕ คน เว้นปิงคิยมาณพ ส่งใจไปตามธรรมเทศนา มีจิตพ้นจากอาสวะไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน ส่วนปิงคิยมาณพเป็นแต่ได้ญาณเห็นในธรรม

.
.๑ พระปุณณมันตานีบุตรเป็นชาวเมืองไหน ? ตั้งอยู่ในคุณธรรมอะไรบ้าง ?
.๒ ใครถามว่า “ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่ออะไร” ? ใครตอบ ? ตอบว่า อย่างไร ?
ตอบ:
.๑ เป็นชาวเมืองกบิลพัสดุ์ ตั้งอยู่ในคุณธรรม ๑๐ ประการ คือ มักน้อย สันโดษ ชอบสงัด ไม่ชอบเกี่ยวข้องด้วยหมู่ ปรารภความเพียร บริบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ ความรู้เห็นในวิมุตติ
.๒ พระสารีบุตรเป็นผู้ถาม พระปุณณมันตานีบุตรเป็นผู้ตอบ และตอบว่า เราประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อความดับไม่มีเชื้อ

.
.๑ เพราะเห็นอานิสงส์อะไร พระอานนท์จึงทูลขอพรข้อที่ ๘ ?
.๒ พระอุบาลีออกบวชพร้อมใครบ้าง ? ที่ไหน ? ท่านได้รับเอตทัคคะ
ทางไหน ?
ตอบ:
.๑ เพราะเห็นอานิสงส์ว่าหากมีผู้มาถามว่า ธรรมนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงในที่ใด ? ถ้าท่านตอบไม่ได้ เขาจะพูดได้ว่า ท่านตามเสด็จพระศาสดาตลอดกาลนาน ไม่รู้แม้แต่เรื่องเท่านี้
.๒ พระอุบาลีออกบวชพร้อมกับ พระภัททิยะ พระอนุรุทธะ พระอานันทะ พระภัคคุ พระกิมพิละ พระเทวทัต ที่อนุปิยนิคม ได้รับเอตทัคคะทางเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ทรงวินัย

.
จงอธิบายข้อความต่อไปนี้
.๑ ทรงทำอายุสังขาราธิฏฐาน ๙.๒ ทรงปลงอายุสังขาร
ตอบ:
.๑ ทรงทำอายุสังขาราธิฏฐาน หมายถึง ทรงตั้งพระหฤทัยจักอยู่แสดงธรรม สั่งสอนแก่มหาชน และตั้งพุทธปณิธานใคร่จะดำรงพระชนม์อยู่ จนกว่า พุทธบริษัทจะตั้งมั่นและได้ประกาศพระศาสนาให้แพร่หลาย ประดิษฐานให้มั่นคงถาวรสำเร็จประโยชน์แก่นิกรทุกหมู่เหล่า
.๒ ทรงปลงอายุสังขาร หมายถึง ทรงกำหนดวันปรินิพพานนับแต่วันเพ็ญเดือน ๓ ไปอีก ๓ เดือน คือปลงพระทัยว่าจะบำเพ็ญพุทธกิจต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

๑๐.
๑๐.๑ เมื่อรวมเจดีย์ซึ่งแสดงไว้ในบาลี อรรถกถา และฎีกา มีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?
๑๐.๒ อันตรธาน ๕ อย่าง อย่างไหนสำคัญกว่า ? เพราะเหตุไร
ตอบ:
๑๐.๑ มี ๔ คือ ธาตุเจดีย์ ๑ บริโภคเจดีย์ ๑ ธรรมเจดีย์ ๑ อุทเทสิกเจดีย์ ๑
๑๐.๒ ปริยัติอันตรธานสำคัญกว่า เพราะปริยัติเสื่อมลงในกาลใด พระศาสนาย่อมเสื่อมถอยในกาลนั้น เมื่อปริยัติยังดำรงอยู่ตราบใด พระศาสนาก็ยังดำรงอยู่ตราบนั้น เพราะว่าปริยัติเป็นรากแก้วของพระศาสนา ปฏิบัติเป็นแก่น ปฏิเวธ เป็นผล เมื่อรากแก้วขาดแล้ว แก่นและผลก็พลอยหมดไปตามกัน

ที่มาข้อมูล: http://www.gongtham.net/web/news.php

----------------------------
 

Keine Kommentare: