ปัญหาและเฉลยวิชาอุโบสถศีล
ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์
ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๘
๑.
เครื่องควบคุมความประพฤติทางกาย
วาจา ให้เรียบร้อยคือ…..
?
ก.
ทาน ข.
ศีล
ค.
สมาธิ ง.
ปัญญา
๒.
เป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา
ได้แก่…..
?
ก.
มนุษยสมบัติ ข.
สวรรคสมบัติ
ค.
สมาบัติ
๘ ง.
มรรค
ผล นิพพาน
๓.
พาณิชสองพี่น้อง
เข้าถึงพระรัตนตรัยด้วยวิธีใด
?
ก.
สมาทาน ข.
มอบตนเป็นสาวก
ค.
ถวายชีวิตในพระรัตนตรัย ง.
เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
๔.
สรณคมน์
หมายเอาการถึงสรณะในข้อใด
?
ก.
พระพุทธเจ้า ข.
พระธรรม
ค.
พระสงฆ์ ง.
ทั้ง
๓ ข้อ
๕.
การขาดสรณคมน์ไม่มีโทษ
เพราะ…..
?
ก.
ความตาย ข.
ทำร้ายพระศาสดา
ค.
ไปนับถือศาสดาอื่น ง.
ไม่มีข้อถูก
๖.
ผู้ใด
มีสรณคมน์เศร้าหมอง ?
ก.
ดำไม่ถูกกับพระบางรูป ข.
ปีเตอร์สมาทานศีลไม่ชัด
ค.
พระเท่งไปเที่ยวประเทศอิรัก ง.
ชัดสงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือ
๗.
อุโบสถชนิดใด
รักษาตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง
?
ก.
ปกติอุโบสถ ข.
ปฏิชาครอุโบสถ
ค.
ปาฏิหาริยอุโบสถ ง.
อริยอุโบสถ
๘.
ศีลข้อใด
สนับสนุนให้คนงามตามธรรมชาติ
?
ก.
ศีลข้อ
๕ ข.
ศีลข้อ
๖
ค.
ศีลข้อ
๗ ง.
ศีลข้อ
๘
๙.
เมื่อพระสงฆ์กล่าวว่า
“ติสรณคมนํ นิฏฺฐิตํ”
พึงรับพร้อมกันว่า….
?
ก.
สาธุ
ภนฺเต ข.
สมฺปฏิจฺฉามิ
ค.
อาม
ภนฺเต ง.
สาธุ
อนุโมทามิ
๑๐.
ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ
ปฏิบัติอย่างไรถูกต้องที่สุด
?
ก.
ทำพิธีรับขันธ์ห้า ข.
ปฏิบัติเพื่อละกิเลส
ค.
ทำบุญเพื่อเสริมดวงชะตา ง.
หาเช่าบูชาพระเครื่องรุ่นนิยม
๑๑.
คำว่า
“พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ”
ใครกล่าวครั้งแรก ?
ก.
อุปกาชีวก ข.
ตปุสสะ
ภัลลิกะ
ค.
ท้าวมหาพรหม ง.
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๑๒.
จากคำถามข้อที่
๑๑ กล่าวไว้เพื่อจุดประสงค์ใด
?
ก.
เพื่อเป็นวิธีบวช ข.
เพื่อสอนชาวบ้าน
ค.
เพื่อเจริญอนุสสติ ง.
เพื่อป้องกันอมนุษย์
๑๓.
การขาดสรณคมน์
อาจเกิดขึ้นได้กับบุคคลใด
?
ก.
โสดาบันบุคคล ข.
สกทาคามีบุคคล
ค.
อนาคามีบุคคล ง.
บุคคลทั่วไป
๑๔.
ข้อใด
ไม่จัดอยู่ในสรณะทั้ง ๓ ?
ก.
พระสมณโคดม ข.
พระโพธิสัตว์
ค.
พระกัสสปเถระ ง.
พระขีณาสพ
๑๕.
“ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย”
ตามความหมายที่ถูกต้องคือข้อใด
?
ก.
รักษาศีล
๕ เป็นประจำ ข.
เข้าไปหายามมีภัยเกิดขึ้น
ค.
เป็นญาติกับพระภิกษุสงฆ์ ง.
เคยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
๑๖.
ผู้ใด
เป็นตัวอย่างของผู้ถึงพระรัตนตรัยอย่างมั่นคง
?
ก.
ตปุสสะและภัลลิกะ ข.
อุตรมานพ
ค.
สุปปพุทธกุฏฐิ ง.
พรหมายุพราหมณ์
๑๗.
พุทธะ
แปลว่า ผู้รู้ หมายถึง ?
ก.
รู้ตามผู้อื่น ข.
รับความรู้จากพระเจ้า
ค.
คิดเอาเอง ง.
ตรัสรู้และสอนให้ผู้อื่นรู้
๑๘.
พระสงฆ์ได้นามว่าสังฆะ
เพราะ…..
?
ก.
มีทิฏฐิและศีลเสมอกัน ข.
อาศัยอยู่ในวัดเดียวกัน
ค.
โกนผมห่มจีวรเหมือนกัน ง.
นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
๑๙.
ผู้เปล่งวาจาว่า
“ข้าพเจ้านอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า”
ชื่อว่าถึงสรณะด้วยวิธีไหน
?
ก.
ปฏิบัติหน้าที่พุทธบริษัท ข.
ยอมนอบน้อม
ค.
มอบตนเป็นสาวก ง.
การสมาทาน
๒๐.
สรณคมน์ของผู้ใด
ไม่มีการขาด ?
ก.
ภิกษุ ข.
ภิกษุณี
ค.
อุบาสกอุบาสิกา ง.
พระอริยบุคคล
๒๑.
คำว่า
“สรณะ” แปลว่า ที่พึ่ง
หมายถึงอะไร ?
ก.
มีความขลัง ข.
กำจัดทุกข์ได้
ค.
ดลบันดาลอะไรก็ได้ ง.
มีความศักดิ์สิทธิ์
๒๒.
การถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ
หมายถึงอะไร ?
ก.
การขอพร ข.
การบนบาน
ค.
การขอความคุ้มครอง ง.
การปฏิบัติตามคำสอน
๒๓.
ข้อใด
เป็นเหตุให้สรณคมน์เศร้าหมอง
?
ก.
ไม่รู้จักพระรัตนตรัย ข.
เข้าใจผิดในพระรัตนตรัย
ค.
ไม่เอื้อเฟื้อพระรัตนตรัย ง.
ถูกทุกข้อ
๒๔.
ในคังคมาลชาดก
พระโพธิสัตว์ชื่อว่าไม่ได้สมาทานรักษาอุโบสถ
เพราะสาเหตุใด ?
ก.
รับประทานอาหารเย็น ข.
ไม่รับประทานอาหาร
ค.
ไม่ได้รับอุโบสถศีล ง.
ไม่ได้อธิษฐานอุโบสถ
๒๕.
อุโบสถใด
ไม่ประกอบด้วยสรณคมน์และองค์
๘ ?
ก.
อุโบสถนอกพุทธกาล ข.
อุโบสถสมัยพุทธกาล
ค.
อุโบสถหลังพุทธกาล ง.
อุโบสถในปัจจุบัน
๒๖.
ปกติอุโบสถนั้นกำหนดรักษาเดือนละ
๔ วัน ยกเว้นวันใด ?
ก.
วันขึ้น
๑๔ ค่ำ ข.
วันแรม
๘ ค่ำ
ค.
วันขึ้น
๑๕ ค่ำ ง.
วันแรม
๑๔ ค่ำ
๒๗.
ข้อใด
ไม่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดศีลอุโบสถ
?
ก.
ร้องเพลงชาติ
ในเวลา ๘ นาฬิกา ข.
เดินเหยียบมดตาย
โดยไม่รู้ตัว
ค.
ทานยาดองเหล้า
เพื่อแก้ปวดเมื่อย ง.
ทานข้าวหลังเที่ยง
เพราะต้องกินยา
๒๘.
การรักษาอุโบสถประเภทใด
ได้อานิสงส์มากที่สุด ?
ก.
ปฏิชาครอุโบสถ ข.
ปาฏิหาริยอุโบสถ
ค.
โคปาลกอุโบสถ ง.
อริยอุโบสถ
๒๙.
การสมาทานรักษาศีลอุโบสถนั้น
เหมาะแก่ใคร ?
ก.
คนสูงอายุ ข.
คนทำงาน
ค.
คนวัยรุ่น ง.
ถูกทุกข้อ
๓๐.
สถานที่ใด
สามารถอยู่รักษาอุโบสถศีลได้
?
ก.
วัดใกล้บ้าน ข.
สวนสาธารณะ
ค.
ป่าช้า ง.
ถูกทุกข้อ
๓๑.
การกระทำใด
ทำให้ศีลข้อที่ ๗ ขาด ?
ก.
ฟังละครวิทยุ ข.
แต่งหน้าทาปาก
ค.
ถูกทั้ง
ก. และ
ข. ง.
นอนบนที่นอนสูง
๓๒.
ในเรื่องปัญจอุโบสถ
แสดงให้เห็นถึงข้อใด ?
ก.
ควรแก้ทุกข์ด้วยศีลธรรม
ข.
การประพฤติธรรมทำให้มีอายุยืน
ค.
โทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดอุโบสถ
ง.
ปาฏิหาริย์ที่เกิดจากการรักษาอุโบสถ
๓๓.
ความเชื่อใด
ไม่ใช่ความเชื่อของผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ
?
ก.
ชาติหน้ามีจริง
ข.
ผลของกรรมมีจริง
ค. ลางดี ลางร้าย บอกเหตุได้จริง
ค. ลางดี ลางร้าย บอกเหตุได้จริง
ง.
การประพฤติธรรมทำให้พ้นทุกข์ได้จริง
๓๔.
เมื่อรักษาอุโบสถศีลแล้ว
การรักษานั้นจะสิ้นสุดได้เมื่อใด
?
ก.
เมื่อพ้นกำหนดเวลา ข.
เมื่อลาศีลกับพระภิกษุ
ค.
เมื่อตั้งเจตนาเลิกรักษา ง.
เมื่อเปล่งวาจาเลิกรักษา
๓๕.
ขณะที่รักษาอุโบสถ
หากเผลอล่วงละเมิดศีล
ควรทำอย่างไร ?
ก.
ลาศีลกลับบ้าน ข.
พยายามสำรวมระวังต่อไป
ค.
ทำบุญสะเดาะเคราะห์ ง.
อยู่เฉย
ๆ ไม่ต้องทำอะไร
๓๖.
คำกล่าวขึ้นต้นว่า
“อชฺช โภนฺโต ปกฺขสฺส
อฏฺฐมีทิวโส….”
เป็นคำกล่าวของข้อใด
?
ก.
คำอาราธนาอุโบสถศีล ข.
คำประกาศอุโบสถ
ค.
คำบูชาพระรัตนตรัย ง.
คำรับสรณคมน์
๓๗.
ข้อใด
หมายถึงการรักษาศีล ?
ก.
การขอศีล ข.
การรับศีล
ค.
การสมาทานศีล ง.
การไม่ล่วงละเมิดศีล
๓๘.
ขั้นตอนใด
ต้องทำก่อนประกาศอุโบสถ ?
ก.
อาราธนาศีล ข.
บูชาพระรัตนตรัย
ค.
สมาทานศีล ง.
รับสรณคมน์
๓๙.
การเข้าวัดปฏิบัติธรรม
ข้อไหนถูกต้อง ?
ก.
เพื่อทำพิธีตัดกรรม ข.
เพื่อเสริมดวงชะตา
ค.
เพื่อหาแสวงหาโชคลาภ ง.
เพื่อเจริญภาวนา
๔๐.
อุโบสถก่อนพุทธกาล
หมายถึง ?
ก.
การสมาทานองค์
๘ ข.
การบำเพ็ญตบะบูชาไฟ
ค. การรับประทานแต่ผลไม้ ง. การอดอาหารในวันที่กำหนด
ค. การรับประทานแต่ผลไม้ ง. การอดอาหารในวันที่กำหนด
๔๑.
อุโบสถกรรมครึ่งเดียว
หมายถึง ?
ก.
รักษาศีล
๔ ข้อ ข.
รักษาศีลครึ่งวัน
ค.
รักษาศีล
๓ วัน ง.
รักษาศีลบ้างไม่รักษาบ้าง
๔๒.
ความมุ่งหมายของการเข้าจำอุโบสถ
คือข้อใด ?
ก.
หยุดพักการงาน ข.
ขัดเกลากิเลส
ค.
สงบสติอารมณ์ ง.
ถูกทุกข้อ
๔๓.
วิธีรักษาอุโบสถก่อนพุทธกาลทำอย่างไร
?
ก.
เปล่งวาจาสมาทาน ข.
อธิษฐานอุโบสถเอง
ค.
รับโอวาท
๓ ข้อ ง.
รับจากพระปัจเจกพุทธเจ้า
๔๔.
เมื่อรักษาอุโบสถศีลข้อที่
๗ ห้ามกระทำสิ่งใด ?
ก.
ร้องเพลง ข.
แต่งหน้าทาปาก
ค.
ฟ้อนรำ ง.
ถูกทุกข้อ
๔๕.
สมาทานอุโบสถศีลโดยวิธีใด
จึงถูกต้อง ?
ก.
เปล่งวาจาอธิษฐานเอง ข.
สมาทานจากพระภิกษุ
ค.
สมาทานจากคนที่รู้และเข้าใจ ง.
ถูกทุกข้อ
๔๖
ข้อใด จำเป็นสำหรับผู้รักษาอุโบสถศีล
?
ก.
ต้องไปรักษาศีลที่วัด ข.
ต้องสมาทานศีลกับพระ
ค.
ต้องเปล่งวาจาสมาทาน ง.
ต้องสมาทานศีลทีละข้อ
๔๗.
ความหมายแห่งการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง
คือข้อใด ?
ก.
ฝึกใจให้ผ่องใส ข.
เข้าป่าหาผู้วิเศษ
ค.
ทิ้งบุตรธิดาได้ ง.
ทิ้งมารดาบิดาได้
๔๘.
ศีลข้อใด
บัญญัติไว้สำหรับผู้รักษาอุโบสถเท่านั้น
?
ก.
เว้นปาณาติบาต ข.
เว้นอทินนาทาน
ค.
เว้นอพรหมจรรย์ ง.
เว้นมุสาวาท
๔๙.
ศีลข้อใด
ถือปฏิบัติได้ทั้งคนทั่วไปและผู้รักษาอุโบสถ
?
ก.
เว้นปาณาติบาต ข.
เว้นอพรหมจรรย์
ค.
เว้นวิกาลโภชนา ง.
เว้นการฟ้อนรำขับร้อง
๕๐.
เพราะเหตุใด
จึงห้ามผู้รักษาอุโบสถ
ดูการละเล่นต่างๆ ?
ก.
เสียเวลาทำกิน ข.
เสียสุขภาพจิต
ค.
เสียทรัพย์ ง.
เป็นข้าศึกแก่กุศล
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
๑.
|
พระเทพสุธี
|
วัดไตรธรรมาราม
|
|
|
๒.
|
พระราชปริยัติกวี
|
วัดปิตุลาธิราชรังสฤษดิ์
|
|
|
๓.
|
พระประสิทธิสุตคุณ
|
วัดสุทัศนเทพวราราม
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
|
สนามหลวงแผนกธรรม
|
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen