ปัญหาและเฉลยวิชาอุโบสถศีล
(วินัย)
ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันพุธ
ที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๔๗
คำสั่ง
:
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
แล้วกากบาท (X)
ลงในช่อง
ของข้อที่ต้องการ
ในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐
นาที (๑๐๐
คะแนน)
________________
๑.
การถือศีลอุโบสถ
เพื่อประโยชน์อะไร ?
ก.
เพื่อหยุดพักผ่อนของฆราวาส ข.
เพื่อทำกิจกรรมทางพระศาสนา
ค.
เพื่อสวดปาติโมกข์ทุกวันพระ ง.
เพื่อพระสงฆ์ทำอุโบสถกรรม
๒.
การรักษาอุโบสถศีล
จัดเข้าในพิธีใด ?
ก.
กุศลพิธี ข.
บุญพิธี
ค. ทานพิธี ง. ปกิณกะ
ค. ทานพิธี ง. ปกิณกะ
๓.
เข้าบ้านให้เข้าทางประตู
จะเข้าสู่พระพุทธศาสนา
ท่านว่าทางใด ?
ก.
ศีล ข.
กัมมัฏฐาน
ค.
พระธรรมคำสอน ง.
พระรัตนตรัย
๔.
คำว่า
“ สรณะ ” หมายถึงอะไร ?
ก.
ไตรลักษณ์ ข.
ไตรสิกขา
ค.
ไตรรัตน์ ง.
ไตรมาส
๕.
คำว่า
“ สรณคมน์ ” หมายถึงอะไร ?
ก.
การยึดเอาเป็นที่พึ่ง ข.
การสักยันต์ป้องกันตัว
ค.
การถือศีลกินเจ ง.
การมอบตนเป็นสาวก
๖.
ข้อใด
ไม่ใช่สาเหตุแห่งการขาดสรณคมน์
?
ก.
ตาย ข.
ไปเข้ารีตถือศาสนาอื่น
ค.
ลบหลู่พระภูมิเจ้าที่ ง.
ลบหลู่ดูหมิ่นพระสงฆ์
๗.
อะไรเป็นสาเหตุให้สรณคมน์เศร้าหมอง
?
ก.
อาราธนาศีลไม่ได้ ข.
สงสัยเรื่องบาปบุญ
ค.
สมาทานศีลไม่ชัด ง.
ถูกทุกข้อ
๘.
ข้อใด
ไม่ใช่ความหมายของคำว่า “
พุทธะ ” ?
ก.
ผู้รู้ ข.
ผู้ตื่น
ค.
ผู้เบิกบาน ง.
ผู้รู้ตาม
๙.
การเข้าหาพระรัตนตรัยอย่างไร
จึงถูกต้อง ?
ก.
สวดมนต์ภาวนา ข.
แสวงหาโชคลาภ
ค.
กราบขอพร ง.
วิงวอนขอหวย
๑๐.
การถือศีลอุโบสถ
เป็นกิจกรรมพิเศษอย่างหนึ่งของใคร
?
ก.
พระภิกษุ ข.
คนถูกคุณไสย
ค.
หมอดู ง.
อุบาสก
อุบาสิกา
๑๑.
การถืออุโบสถ
มีมาแต่ครั้งใด ?
ก.
ก่อนพุทธกาล ข.
สมัยพุทธกาล
ค.
หลังพุทธกาล ง.
หลักฐานไม่แน่ชัด
๑๒.
การถือศีลอุโบสถในปัญจอุโปสถชาดก
เพื่อข่มอะไร ?
ก.
ความโลภ ข.
ความโกรธ
ค.
ความถือตัว ง.
ถูกทุกข้อ
๑๓.
ปกติอุโบสถ
กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร
?
ก.
วันหนึ่งคืนหนึ่ง ข.
คราวละ
๓ วัน
ค.
ตลอด
๓ เดือน ง.
ตลอด
๔ เดือน
๑๔.
ข้อใด
ไม่ตรงกับวันในปฏิชาครอุโบสถ
?
ก.
วันรับ ข.
วันส่ง
ค.
วันลา ง.
วันรักษา
๑๕.
ปาฏิหาริยอุโบสถ
กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร
?
ก.
วันหนึ่งคืนหนึ่ง ข.
คราวละ
๓ วัน
ค.
คราวละ
๔ เดือน ง.
คราวละ
๘ เดือน
๑๖.
ในปัญจอุโปสถชาดก
ใครรักษาอุโบสถเพื่อระงับความเสียใจ
?
ก.
ฤษี ข.
นกพิราบ
ค.
หมี ง.
สุนัขจิ้งจอก
๑๗.
เมื่อถึงวันอุโบสถ
ใครพึงสมาทานรักษาศีลอุโบสถ
?
ก.
เจ้าอาวาส ข.
พระลูกวัด
ค.
สามเณร ง.
สาธุชนทั่วไป
๑๘.
ข้อใด
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถพึงกระทำ
?
ก.
เล่าชาดก ข.
แต่งหน้า
ค.
ฟังละครวิทยุ ง.
เปิดกรุของเก่า
๑๙.
คำประกาศอุโบสถ
กำหนดให้ทำต่อจากขั้นตอนใด
?
ก.
บูชาพระรัตนตรัย ข.
รับสรณคมน์
ค. อาราธนาศีล ง. สมาทานศีล
ค. อาราธนาศีล ง. สมาทานศีล
๒๐.
“ ข้าพเจ้าขอบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเครื่องสักการะนี้
” เป็นคำกล่าวอยู่ใน
ขั้นตอนใด ?
ขั้นตอนใด ?
ก.
บูชาพระรัตนตรัย ข.
ประกาศอุโบสถ
ค.
รับสรณคมน์ ง.
อาราธนาศีล
๒๑.
การรับว่าจะตั้งใจปฏิบัติตามศีลที่พระให้นั้น
เรียกว่าอะไร ?
ก.
อธิษฐานศีล ข.
อาราธนาศีล
ค.
สมาทานศีล ง.
ถือศีลอด
๒๒.
คนไม่รู้ภาษาบาลี
แต่มีศรัทธาถือศีลอุโบสถ
พึงสมาทานด้วยวิธีใด ?
ก.
กล่าวตามหัวหน้า ข.
กล่าวภาษาไทย
ค.
อธิษฐานเอาเอง ง.
ถูกทุกข้อ
๒๓.
ข้อใด
อุโบสถศีลต่างจากศีล ๕ ?
ก.
กำหนดเวลารักษา ข.
ไม่กำหนดเวลารักษา
ค.
เป็นพื้นฐานของมนุษย์ ง.
ไม่ใช่พุทธบัญญัติ
๒๔.
แม้ทรัพย์ของตนเอง
ก็ทำให้ผิดศีลข้อที่ ๒ ได้
ตรงกับข้อใด ?
ก.
ยืมของไม่ส่งคืน ข.
หลบเลี่ยงภาษี
ค.
รับซื้อขายของโจร ง.
บุกรุกพื้นที่อุทยาน
๒๕.
ทรัพย์ชนิดใด
โจรลักไปไม่ได้ ?
ก.
อริยทรัพย์ ข.
ทรัพย์แผ่นดิน
ค.
สังหาริมทรัพย์ ง.
อสังหาริมทรัพย์
๒๖.
อสัทธรรมเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์
คืออะไร ?
ก.
ความตาย ข.
การล่วงประเวณี
ค.
ความแก่ ง.
ความพลัดพราก
๒๗.
ผู้รักษาอุโบสถศีล
ควรพูดจาปราศรัยอย่างไร ?
ก.
อย่าติฉิน ข.
อย่านินทา
ค.
อย่าว่าร้าย ง.
ถูกทุกข้อ
๒๘.
เครื่องดื่มชนิดใด
ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลดื่มไม่ได้
?
ก.
น้ำผึ้ง ข.
น้ำชา
ค.
น้ำจัณฑ์ ง.
กาแฟ
๒๙.
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ
ควรสนทนากันด้วยเรื่องอะไร
?
ก.
เรื่องในบ้านตนเอง ข.
เรื่องในบ้านคนอื่น
ค.
เรื่องสัตว์เลี้ยงน่ารัก ง.
เรื่องเปรตผอมโซ
๓๐.
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ
พึงรับประทานอาหารให้เสร็จเวลาใด
?
ก.
ก่อนเพล ข.
ก่อนเที่ยง
ค. เที่ยงครึ่ง ง. บ่ายโมง
ค. เที่ยงครึ่ง ง. บ่ายโมง
๓๑.
ข้อใด
ไม่ใช่กิจจำเป็นของผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ
?
ก.
อดข้าวเย็น ข.
เดินจงกรม
ค. สวดมนต์ ง. ฟังปาติโมกข์
ค. สวดมนต์ ง. ฟังปาติโมกข์
๓๒.
อุโบสถศีลข้อที่
๗ ให้งดเว้นอะไร ?
- ก. อาหารค่ำ ข. พูดคำหยาบ
ค. ร้องเพลง ง. สูบบุหรี่
๓๓.
การดูเช่นไร
ไม่เป็นข้าศึกแก่กุศล ?
ก.
ดูพระเครื่อง ข.
ดูดวงชะตา
ค.
ดูเกมแก้จน ง.
ดูอาการ
๓๒
๓๔.
การเล่นใด
เป็นข้าศึกแก่กุศล ?
ก.
เล่นกล ข.
เล่นตลก
ค.
เล่นแร่แปรธาตุ ง.
ถูกทุกข้อ
๓๕.
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ
ไม่พึงนอนอย่างไร ?
ก.
นอนที่นอนสูง ข.
นอนกลางวัน
ค.
นอนกลางดิน ง.
นอนกรน
๓๖.
การถือศีลอุโบสถ
ปล่อยวันคืนให้ผ่านพ้นไปโดยเปล่าประโยชน์
คิดอยากได้สิ่งโน้น
สิ่งนี้ตลอดเวลา เป็นอุโบสถประเภทใด ?
สิ่งนี้ตลอดเวลา เป็นอุโบสถประเภทใด ?
ก.
โคปาลกอุโบสถ ข.
อริยอุโบสถ
ค.
ปาฏิหาริยอุโบสถ ง.
ปกติอุโบสถ
๓๗.
อุโบสถของนักบวชนอกพระพุทธศาสนา
ตรงกับข้อใด ?
ก.
ปฏิชาครอุโบสถ ข.
นิคัณฐอุโบสถ
ค.
ปาฏิหาริยอุโบสถ ง.
ปกติอุโบสถ
๓๘.
อุโบสถใด
ผู้สมาทานรักษาได้รับผลบุญมากที่สุด
?
ก.
โคปาลกอุโบสถ ข.
นิคัณฐอุโบสถ
ค. อริยอุโบสถ ง. ถูกทุกข้อ
ค. อริยอุโบสถ ง. ถูกทุกข้อ
๓๙.
ผู้สมาทานปกติอุโบสถ
ต้องรักษาศีลอะไร ?
ก.
ศีล
๕ ข.
ศีล ๘
ค.
ศีล
๑๐ ง.
ศีล
๒๒๗
๔๐.
ข้อใด
ไม่ใช่ศีลอุโบสถ ?
ก.
ไม่ใช้น้ำหอม ข.
ไม่จับเงินทอง
ค.
ไม่ดูละครโขนหนัง ง.
ไม่นั่งที่นั่งสูงใหญ่
๔๑.
ข้อใด
เป็นเหตุให้การถือศีลอุโบสถมีผลน้อย
?
ก.
จับเงินทอง ข.
ถือศีลที่บ้าน
ค.
หงุดหงิดฟุ้งซ่าน ง.
สมาทานเอง
๔๒.
ผู้ถือศีลอุโบสถ
พึงมีความเชื่ออย่างไร ?
ก.
เชื่อกรรม ข.
เชื่อบาปบุญ
ค.
ไม่เชื่อมงคลตื่นข่าว ง.
ถูกทุกข้อ
๔๓.
คำว่า
“ ไม่ลวงโลก ” ในอุโปสถสูตร
หมายถึงศีลข้อใด ?
ก.
งดฆ่าสัตว์ ข.
งดลักทรัพย์
ค.
งดพูดเท็จ ง.
งดดื่มน้ำเมา
๔๔.
กิจกรรมใด
ไม่เหมาะสมแก่ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ
?
ก.
ไหว้พระสวดมนต์ ข.
ท่องบ่นภาวนา
ค.
อ่านตำราหมอดู ง.
เรียนรู้พระสูตร
๔๕.
ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถ
พึงปฏิบัติตนอย่างไร ?
ก.
งดเว้นการทำบาปกรรม ข.
ทำแต่บุญกุศล
ค.
ทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว ง.
ถูกทุกข้อ
๔๖.
ศีลอุโบสถที่สมาทานคราวเดียวพร้อมกัน
หากข้อใดข้อหนึ่งขาด
จะมีผลต่อข้ออื่น
อย่างไร ?
อย่างไร ?
ก.
ขาดบางข้อ ข.
ขาดทีละข้อ
ค.
ขาดทั้งหมด ง.
ไม่ขาดทั้งหมด
๔๗.
เมื่อรักษาศีลอุโบสถครบตามกำหนดแล้ว
พึงปฏิบัติอย่างไร ?
ก.
กล่าวคำลาพระรัตนตรัย ข.
กล่าวคำลาศีล
ค.
กล่าวคำลาสิกขา ง.
การสมาทานสิ้นสุดเอง
๔๘.
แว่นที่มัวหมองทำให้ใสได้โดยทำความสะอาด
แต่ใจที่เศร้าหมองนั้น
ต้องทำอย่างไร ?
ก.
อย่าใจร้อน ข.
อย่านอนใจ
ค.
ให้นึกถึงศีล ง.
ให้กินข้าวได้
๔๙.
คำว่า
“ ศีลช่วยทำให้รอด ”
มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก.
ศีลสร้างสวรรค์แก่มนุษย์ ข.
ศีลสร้างความปลอดภัยแก่มนุษย์
ค.
ศีลสร้างความเสมอภาคแก่มนุษย์ ง.
ศีลสร้างความรุ่งเรืองแก่มนุษย์
๕๐.
ผู้ไม่สามารถเข้าจำอุโบสถศีลได้
ทำอย่างไรจึงจะได้รับผลบุญเช่นเดียวกับผู้สมาทาน
รักษา ?
รักษา ?
ก.
ช่วยดูดวงทางวิปัสสนา ข.
เล่าเรื่องนางสีดาให้ฟัง
ค.
นั่งสนทนาธรรมตามกาล ง.
อ่านนวนิยายประโลมโลก
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
๑.
|
พระเทพสุธี
|
วัดไตรธรรมาราม
|
|
|
๒.
|
พระราชปริยัติกวี
|
วัดจุกเฌอ
|
|
|
๓.
|
พระประสิทธิสุตคุณ
|
วัดสุทัศนเทพวราราม
|
|
|
|
|
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
|
สนามหลวงแผนกธรรม
|
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen