๑๓๘. ปราชญ์ติเตียนคนดีแต่พูดแต่ไม่ทำ
ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท, ยํ น กยิรา น ตํ วเท;
อกโรนฺตํ ภาสมานํ, ปริชานนฺติ ปณฺฑิตาฯ
„จริงอยู่ บุคคลพึงพูดสิ่งที่ตนทำ
และไม่ควรพูดสิ่งที่ตนไม่ได้ทำ
นักปราชญ์ทั้งหลายย่อมตำหนิ
คนดีแต่พูดแต่ไม่เคยลงมือทำ.“
(กวิทัปปณนีติ หมวดบัณฑิต ๑๓๘ นรทักขทีปนี ๑๓๕ จาริตตนิทเทส)
..
ศัพท์น่ารู้ :
ยญฺหิ ตัดบทเป็น ยํ+หิ
กยิรา (พึงกระทำ) √กร+ยิรา+เอยฺย ตนาทิ. กัตตุ. ลง ยิร ปัจจัยด้วยสูตรว่า ตนาทิโต โอยิรา. (รู ๕๒๐) ในเพราะ ยิร ปัจจัยให้ลบ ร อักษรที่สุดธาตุ และ แปลง เอยฺย เป็น อา ด้วยมหาสูตรว่า กฺวจิ ธาตุ ฯ. (รู ๔๘๘)
ตญฺหิ ตัดบทเป็น ตํ+หิ
วเท (พึงกล่าว, พูด, แถลง) วท+อ+เอยฺย ภูวาทิ. กัตตุ.
ยํ (ใด) ย+อํ สัพพนาม
น (ไม่, หามิได้) นิบาตบอกปฏิเสธ
กยิรา
น ตํ วเท (ไม่พึงกล่าวถึงสิ่งนั้น)
อกโรนฺตํ (ผู้ไม่กระทำอยู่) √กร+โอ+อนฺต > กโรนฺต, น+กโรนฺต > อกโรนฺต+อํ
ภาสมานํ (ผู้พูดอยู่, กล่าวอยู่) √ภาส+อ+มาน > ภาสมาน+อํ
ปริชานนฺติ (ตำหนิ, ติเตียน) ปริ+√ญา+นา+อนฺติ กิยาทิ. กัตตุ. แปลง ญา ธาตุเป็น นา ได้บ้าง ด้วยสูตรว่า ญาสฺส ชา-ชํ-นา. (รู ๕๑๔)
ปณฺฑิตา (บัณฑิต, ผู้มีปัญญา, ปราชญ์ ท.) ปณฺฑิต+โย
..
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen