๑๘๕. โอวาทเศรษฐี
อญฺชนานํ ขยํ ทิสฺวา, วมฺมิกานญฺจ สญฺจยํ;
มธูนญฺจ สมาหารํ, ปณฺฑิโต ฆรมาวเส.
บัณฑิตเห็นความสิ้นไปแห่งยาหยอดตา
ความพอกพูนแห่งจอมปลวก
และความเพิ่มพูนแห่งน้ำผึ้งทั้งหลายแล้ว
พึงอยู่ครองเรือนเถิด.
(ธรรมนีติ ฆราวาสกถา ๑๘๕ นรทักขทีปนี ๑๗๙ ธัมมปทัฏฐกถา พาลวรรค อานันทเสฏฐิวัตถุ)
--
ศัพท์น่ารู้ :
อญฺชนานํ (ยาหยอด, ยาหยอดตา) อญฺชน+นํ
ขยํ (สิ้น, สิ้น, มด, ร่อยหรอ) ขย+อํ
ทิสฺวา (เห็นแล้ว) √ทิส+ตฺวา > ทิสฺวา+สิ จัดเป็นกิริยากิตก์ หรือ นิบาตก็ได้
วมฺมิกานญฺจ ตัดบทเป็น วมฺมิกานํ+จ (จอมปลวก ท. + ด้วย) วมฺมิก+นํ =วมฺมิกานํ, วมฺมิก (จอมปลวก) ป. ถ้า อุปจิกา (ตัวปลวก) อิต.
สญฺจยํ (การสะสม, พูกพูน, เพิ่มพูน, ก่อ) สญฺจย+อํ
มธูนญฺจ ตัดบทเป็น มธูนํ+จ (น้ำผึ้ง ท. ด้วย, และน้ำผึ้ง ท.) มธุ+นํ = มธูนํ, ส่วน จ ศัพท์เป็นนิบาตบท
สมาหารํ (การน้ำมาพร้อม, การสะสม, รวมตัวกัน) สํ+อา+√รห+ณ > สมาหาร+อํ
ปณฺฑิโต (คนฉลาด, บัณฑิต) ปณฺฑิต+สิ
ฆรมาวเส ตัดบทเป็น ฆรํ+อาวเส (ซึ่งเรือน + พึงอยู่ครอง = พึงอยู่ครองซึ่งเรือน, ควรอยู่ครองเรือน) ฆร+อํ = ฆรํ, ส่วน อาวเส มาจาก อา+√วส+อ+เอยฺย ภูวาทิ. กัตตุ.
--
คาถานี้ที่ได้ชื่อว่า „โอวาทเศรษฐี“ เพาะเป็นคาถาที่ท่านนำมาจาก พระธรรมบทอัฏฐกถา พาลวรรค อานันทเสฏฐิวัตถุ คื่อ เรื่องของอานันทเศรษฐี ได้ให้โอวาทแก่บุตรของท่านเป็นปกติประจำวันว่า...
อญฺชนานํ ขยํ ทิสฺวา, อุปจิกานญฺจ อาจยํ;
มธูนญฺจ สมาหารํ, ปณฺฑิตฺโต ฆรมาวเส.
บุคคลผู้ฉลาด พึงเห็นความสิ้นแห่งยาสำหรับหยอด(ตา)
ความก่อขึ้นแห่งตัวปลวกทั้งหลาย และการประมวลมาแห่ง
ตัวผึ้งทั้งหลาย พึงอยู่ครองเรือน.
--
อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้
บัณฑิตเห็นความสิ้นไปแห่งยาหยอดตา แลความ
พอกพูนแห่งจอมปลวก และความเพิ่มพูนแห่งน้ำผึ้ง
ฉะนี้แล้ว จึ่งควรจะอยู่ครองเรือน.
--
อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้..
บัณฑิตมองเห็นความสิ้นไปของยาหยอดตา
และความพอกพูนของจอมปลวก
และความเพิ่มพูนแห่งน้ำผึ้ง
ฉะนี้แล้วจึงควรจะอยู่ครองเรือน.
--
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen