๑๘๗. การนอนบอกฐานะ
เอกยาโม นราธิปฺโป, ทฺวิยาโม ปณฺฑิโต นโร;
ตโย ยาโม ฆราวาโส จ, จตุยาโม จ ทุคฺคโต.
พระราชาบรรทมยามเดียว,
นักปราชญ์นอนเพียงสองยาม,
ชาวบ้านนอนเพียงสามยาม,
แต่คนเข็ญใจนอนตลอดสี่ยาม.
(ธรรมนีติ ฆราวาสกถา ๑๘๗, โลกนีติ ๑๑๒, กวิทัปปณนีติ ๒๕๔)
--
ศัพท์น่ารู้ :
เอกยาโม (ยามหนึ่ง, ช่วงกาลหนึ่ง, สามชั่วโมง) เอก+ยาม > เอกยาม+โม ป.
นราธิปฺโป, นราธิโป (ผู้รักษานระ, ผู้เป็นใหญ่แห่งนรชน, พระราชา, พระเจ้าแผ่นดิน) นร+อธิป > นราธิป+สิ
ทฺวิยาโม (สองยาม, ประมาณ ๖ ชั่วโมง) ทฺวิ+ยาม > ทฺวิยาม+สิ
ปณฺฑิโต (บัณฑิต, นักปราชญ์, คนมีปัญญา) ปณฺฑิต+สิ
นโร (คน, นรชน) นร+สิ
ตโย (สาม) ติ+โย = ตโย เป็นพหูพจน์ แต่ในที่วิเสสนะของ ยาโม ซึ่งเป็นเอกพจน์ ถือว่าผิดกติกา ขอยกให้เป็นวจนวิปปลาสก็แล้วกัน. ในโลกนีติ เป็น ติยามํ, ในกวิทัปปณนีติ เป็น ติยาโม ถือว่าถูกต้อง.
ยาโม (สามยาม, ราวเก้าชั่วโมง+นั่นเทียว) ยาโม+เอว
ฆราวาโส (ฆราวาส, คนครองเรือน, ชาวบ้าน) ฆร (เรือน, บ้าน)+อาวาส (อยู่ครอง) > ฆราวาส+สิ ป.
จ (ด้วย, และ) นิบาต
จตุยาโม (สี่ยาม, สิบสองชั่วโมง) จตุ+ยาม > จตุยาม+สิ
ทุคฺคโต (คนยากจน, คนขอทาน, ทุคตชน, คนขี้เกียจ) ทุ+คต > ทุคฺคต+สิ
--
ต่อไปนี้จะได้ยกคาถาเดียวกันนี้จากนีติอื่นมาเปรียบเทียบให้เห็นการใช้ศัพท์ เพื่อความเป็นฉลาดในอักษรต่อไป
โลกนีติ คาถา ๑๑๒ มีใจความเหมือนกัน เพียงแต่ท่านใช้ศัพท์ต่างกันบ้าง และประกอบต่างกันบ้าง พร้อมกันนี้ได้นำคำแปลจากโลกนีติไตรพากย์ (โลกนีติ) ราชกัณฑ์ มาประกอบไว้เพื่อด้วย ดังนี้
เอกยามํ สเย ราชา, ทฺวิยามญฺเญว ปณฺฑิโต;
ฆราวาโส ติยามํว, จตุยามํ ตุ ยาจโก.
ท้าวพญาพึงเข้าบรรทมชั่วยามหนึ่ง
บัณฑิตนอนสองยาม
ฆราวาสนอนสามยาม
ยาจกจึงนอนครบสี่ยาม.
กวิทัปปณนีติ คาถา ๒๕๔ มีข้อความว่าดังนี้
เอกยามํ สเย ราชา, ทฺวิยามญฺเญว ปณฺฑิโต;
ฆราวาโส ติยาโมว, จตุยาโม ตุ ยาจโก.
พระราชาบรรทมชั่วหนึ่งยาม,
บัณฑิตนอนเพียงสองยามนั่นเทียว,
ชาวบ้านคนธรรมดา นอนเพียงสามยามเท่านั้น,
ส่วนยาจกชน นอนตลอดทั้งสี่ยามเลยทีเดียว.
ยามในที่นี้หมายถึงการแบ่งภาคกลางคืนออกเป็น ๔ ส่วนโดยประมาณ ยามหนึ่งเท่ากับ ๓ ชั่วโมง อาจจะเป็นช่วงใดช่วงหนึ่งของกลางคืนก็ได้ คนธรรมดานอนประมาณ ๘ ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น
ยาม เป็นปุงลิงค์แจกเหมือนปุริสศัพท์ ศัพท์นี้ในปทรูปสิทธิ สูตรที่ ๖๕๒ (ขฺยาทีหิ มนฺ ม จ โต วา. แปลว่า ให้ลง มนฺ ปัจจัย หลัง ขี ธาตุเป็นต้น และให้แปลง ม เป็น ต ได้บ้าง) แสดงไว้ว่า
ยาโม มาจาก ยา-ปาปเณ+มนฺ+สิ แต่มิได้แสดงรูปวิเคราะห์ไว้
ส่วนในอภิธาน. ฏีกา คาถา ๗๒ แสดงไว้ว่า ยา ปาปุเณ โม. (ยา-ปาปุเณ ในการถึง + ม ปัจจัย) โดยให้รูปวิเคราะห์ว่า
อุปยเมติ อโห รตฺติ จาเนน ยาโม, ยมิโต โณฯ ปหาโร เอว ยาโม อิติ สญฺญิโต ยามสญฺญิโตฯ
(ชื่อว่า ยาม เพราะเป็นเหตุให้กลางวันและกลางคืนล่วงไป, ลง ณ ปัจจัยหลัง ยม ศัพท์, กาลที่ถูกรู้ว่า ยาม คือการเคาะ ชือว่า ยามสญฺญิต).
--
อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ (ธัมมนีติ) ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้
ผธมยามเดียวสำหรับท้าวพญา
นอนสองยามสำหรับนักปราชญ์
สามยามสำหรับชาวบ้าน
แต่สี่ยามสำหรับคนเข็ญใจ.
--
อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้..
ท้าวพระยาบรรทมยามเดียว
นักปราชญ์นอนสองยาม
ชาวบ้านนอนสามยาม
แต่คนเข็ญใจนอนสี่ยามเลย.
--
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen