ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ
นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์
ที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๔
____________________
๑.
๑.๑
อปโลกนกรรมมีกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
๑.๒
สงฆ์ผู้ทำสังฆกรรม
มีกำหนดจำนวนไว้อย่างไร ?
ตอบ:
๑.๑
มี
๕ อย่างคือ
๑)
นิสสารณา
นาสนะสามเณรผู้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้า
๒)
โอสารณา
รับสามเณรผู้ถูกนาสนะแล้วกลับประพฤติเรียบร้อย
ให้เข้าหมู่
๓)
ภัณฑูกรรม
บอกขออนุญาตปลงผมคนผู้จะบวชอันภิกษุจะทำเอง
๔)
พรหมทัณฑ์
ประกาศไม่ว่ากล่าวภิกษุหัวดื้อว่ายาก
๕)
กัมมลักขณะ
อปโลกน์แจกอาหารในโรงฉันเป็นต้น
๑.๒
มีกำหนดจำนวนไว้ดังนี้
จตุวรรค
สงฆ์มีจำนวน ๔ รูป
ปัญจวรรค
สงฆ์มีจำนวน ๕ รูป
ทสวรรค
สงฆ์มีจำนวน ๑๐ รูป
วีสติวรรค
สงฆ์มีจำนวน ๒๐ รูป
๒.
๒.๑
วัตถุที่ใช้เป็นนิมิตกำหนดเขตสีมามีกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
๒.๒
ปัจจุบันนิยมใช้วัตถุอะไรเป็นนิมิต
?
และวัตถุที่จะใช้เป็นนิมิตนั้นได้มีกำหนดไว้อย่างไร
?
ตอบ:
๒.๑
มี
๘ อย่างคือ
๑)
ภูเขา
๒)
ศิลา
๓)
ป่าไม้
๔)
ต้นไม้
๕)
จอมปลวก
๖)
หนทาง
๗)
แม่น้ำ
๘)
น้ำ
๒.๒
ใช้ศิลาเป็นนิมิต
มีกำหนดไว้ดังนี้
๑)
เป็นศิลาหินแท้
หินปนแร่ ใช้ได้ทั้งหมด
๒)
เป็นศิลามีก้อนโตไม่ถึงตัวช้าง
ขนาดเท่าศีรษะโคหรือ กระบือเขื่อง
ๆ
๓)
เป็นศิลาแท่งเดียว
๔)
อย่างเล็กขนาดเท่าก้อนน้ำอ้อยหนัก
๓๒ ปะละ ราว ๕ ชั่ง ก็ใช้ได้
๓.
๓.๑
สมานสังวาสสีมา
และติจีวราวิปปวาสสีมา
ได้แก่สีมาเช่นไร ?
๓.๒
ในการถอน
และสมมติ สีมาทั้ง ๒ นี้
มีวิธีปฏิบัติก่อนหลังอย่างไร
?
ตอบ:
๓.๑
สีมาที่ทรงพระอนุญาตให้สงฆ์สมมติเป็นแดนมีสังวาสเสมอกัน
ภิกษุผู้อยู่ในเขตนี้มีสิทธิในอันจะเข้าอุโบสถ
ปวารณา และสังฆกรรมร่วมกัน
เรียกว่าสมานสังวาสสีมา
สมานสังวาสสีมานี้
ทรงพระอนุญาตให้สมมติติจีวราวิปปวาส
ซ้ำลงได้อีก เว้นบ้าน
และอุปจารบ้าน
อันตั้งอยู่ในสีมานั้น เมื่อได้สมมติอย่างนี้แล้ว แม้ภิกษุอยู่ห่างจากไตรจีวรในสีมานั้น ก็ไม่เป็นอันอยู่ปราศ เรียกว่าติจีวราวิปปวาสสีมา
อันตั้งอยู่ในสีมานั้น เมื่อได้สมมติอย่างนี้แล้ว แม้ภิกษุอยู่ห่างจากไตรจีวรในสีมานั้น ก็ไม่เป็นอันอยู่ปราศ เรียกว่าติจีวราวิปปวาสสีมา
๓.๒
ในการถอน
ให้ถอนติจีวราวิปปวาสสีมาก่อน
ถอนสมานสังวาสสีมาภายหลังในการสมมติ
ให้สมมติสมานสังวาสสีมาก่อน
สมมติติจีวราวิปปวาสสีมาภายหลัง
๔.
๔.๑
ภิกษุผู้ควรได้รับสมมติให้เป็นภัตตุทเทสกะ
ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติเช่นไร
?
๔.๒
ภัตรที่ควรแจกเฉพาะมีกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
ตอบ:
๔.๑
ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้คือ
๑)
เว้นอคติ
๔ คือฉันทาคติ โทสาคติ
โมหาคติ ภยาคติ
๒)
รู้จักภัตรที่ควรแจกหรือมิควรแจก
๓)
รู้จักลำดับที่พึงแจก
๔.๒
มี
๕ อย่างคือ
๑)
อาคันตุกภัตร
อาหารที่เขาถวายเฉพาะภิกษุอาคันตุกะ
๒)
คมิยภัตร
อาหารที่เขาถวายเฉพาะภิกษุผู้จะไปอยู่ที่อื่น
๓)
คิลานภัตร
อาหารที่เขาถวายเฉพาะภิกษุอาพาธ
๔)
คิลานุปัฏฐากภัตร
อาหารที่เขาถวายเฉพาะภิกษุผู้พยาบาลไข้
๕)
กุฏิภัตร
อาหารที่เขาถวายแก่ภิกษุผู้อยู่ในกุฏิที่เขาสร้าง
๕.
๕.๑
อภัพบุคคลในอุปสมบทกรรมได้แก่บุคคลเช่นไร
?
โดยวัตถุมีกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
๕.๒
ปัจฉิมกิจแห่งการอุปสมบทมีอะไรบ้าง
?
ตอบเพียง
๒ ข้อ
ตอบ:
๕.๑
ได้แก่บุคคลที่ไม่สมควรแก่การอุปสมบท
อุปสมบทไม่ขึ้น ถูกห้ามอุปสมบทตลอดชีวิต
โดยวัตถุมี ๓ คือ
๑)
พวกที่มีเพศบกพร่อง
ไม่รู้ว่าเป็นชายหรือเป็นหญิง
๒)
พวกประพฤติผิดพระธรรมวินัย
เช่น ฆ่าพระอรหันต์ เป็นต้น
๓)
พวกประพฤติผิดต่อกำเนิดของตน
คือฆ่ามารดาบิดา
๕.๒
มี
๖ ข้อ (ตอบเพียง
๒ ข้อ)
คือ
๑)
วัดเงาแดดในทันที
๒)
บอกประมาณแห่งฤดู
๓)
บอกส่วนแห่งวัน
๔)
บอกสังคีติ
๕)
บอกนิสสัย
๔
๖)
บอกอกรณียกิจ
๔
๖.
๖.๑
วิวาทาธิกรณ์คืออะไร
?
๖.๒
วิวาทาธิกรณ์นั้น
ระงับด้วยอธิกรณสมถะกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
ตอบ:
๖.๑
คืออธิกรณ์ที่เกิดจากการทะเลาะกัน
โต้เถียงกัน โดยปรารภพระธรรมวินัย
๖.๒
ด้วยอธิกรณสมถะ
๒ อย่างคือ
๑)
สัมมุขาวินัย
๒)
เยภุยยสิกา
๗.
๗.๑
วุฏฐานวิธี
แปลว่าอะไร ?
ประกอบด้วยอะไรบ้าง
?
๗.๒
ในการทำวุฏฐานวิธีแต่ละอย่างนั้น
ต้องการสงฆ์จำนวนเท่าไร ?
ตอบ:
๗.๑
แปลว่าระเบียบเป็นเครื่องออกจากอาบัติ
ประกอบด้วย ปริวาส มานัต
ปฏิกัสสนา และอัพภาน
๗.๒
การให้ปริวาส
ให้มานัต และทำปฏิกัสสนาต้องการสงฆ์จตุวรรค
การให้อัพภาน ต้องการสงฆ์วีสติวรรค
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์
พ.ศ.
๒๕๐๕,
(ฉบับที่
๒)
พ.ศ.
๒๕๓๕
๘.
๘.๑
ตามมาตรา
๑๒ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
กำหนดองค์ประกอบของมหาเถรสมาคมไว้อย่างไร
?
๘.๒
มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่อย่างไร
?
ตอบเพียง
๒ ข้อ
ตอบ:
๘.๑
กำหนดไว้ดังนี้
สมเด็จพระสังฆราช
ทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการโดยตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะทุกรูป
เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
และพระราชาคณะซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้ง
มีจำนวนไม่เกิน ๑๒ รูป
เป็นกรรมการ
๘.๒
มีอำนาจหน้าที่อย่างนี้
(ตอบเพียง
๒ ข้อ)
๑)
ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม
๒)
ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร
๓)
ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา
การศึกษาสงเคราะห์ การสาธารณูปการ
และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์
๔)
รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
๕)
ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ
ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น
๙.
๙.๑
ตามมาตรา
๒๑ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ให้จัดแบ่งเขตปกครองคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาคไว้อย่างไร
?
๙.๒
พระภิกษุจะต้องรับนิคหกรรมเมื่อทำผิดเช่นไร
?
และได้รับนิคหกรรม
ให้สึก ต้องสึกภายในเวลาเท่าไร ?
ให้สึก ต้องสึกภายในเวลาเท่าไร ?
ตอบ:
๙.๑
แบ่งดังนี้คือ ๑)
ภาค
๒)
จังหวัด
๓)
อำเภอ
๔)
ตำบล
ส่วนจำนวนและเขตปกครองดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม
๙.๒
เมื่อกระทำการล่วงละเมิดพระธรรมวินัย
และนิคหกรรมที่จะลงโทษแก่ภิกษุจะต้องเป็นนิคหกรรมตามพระธรรมวินัยต้องสึกภายใน
๒๔ ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้น
๑๐.
๑๐.๑
พระภิกษุจะไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่งเลยได้หรือไม่
อ้างมาตราประกอบด้วย ?
๑๐.๒
เจ้าพนักงาน
ตามความในประมวลกฎหมายอาญา
ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ได้แก่ใคร ?
ตอบ:
๑๐.๑
ไม่ได้,
ตามมาตรา
๒๗ (๓)
แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
๒๕๐๕,
(ฉบับที่
๒)
พ.ศ.
๒๕๓๕
๑๐.๒
ได้แก่พระภิกษุซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์
และไวยาวัจกร
เป็นเจ้าพนักงานตามความในประมวลกฎหมายอาญา
(มาตรา
๔๕)
__________________
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
๑.
|
พระเทพเวที
|
วัดชนะสงคราม
|
|
|
๒.
|
พระเทพรัชมงคลเมธี
|
วัดนรนาถสุนทริการาม
|
|
|
๓.
|
พระศรีรัตนโมลี
|
วัดพระปฐมเจดีย์
จ.นครปฐม
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
โดยสนามหลวงแผนกธรรม
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen