ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ
นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์
ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๘
๑. ประวัติอนุพุทธบุคคลมีความสำคัญต่อผู้ศึกษาอย่างไร
?
ตอบ:
๑. ทำให้ผู้ศึกษาได้รับความรู้ในจริยาวัตรและคุณความดีที่ท่านได้บำเพ็ญมา
ตลอด
จนถึงผลงานในการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาอันทำให้เจริญสืบมาถึงทุกวันนี้
นำให้เกิดความเลื่อมใสและความนับถือ เป็นทิฏฐานุคติอันดี สามารถน้อมนำมา
ปฏิบัติตามได้ ฯ
จนถึงผลงานในการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาอันทำให้เจริญสืบมาถึงทุกวันนี้
นำให้เกิดความเลื่อมใสและความนับถือ เป็นทิฏฐานุคติอันดี สามารถน้อมนำมา
ปฏิบัติตามได้ ฯ
๒. คำที่มีอยู่ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตรต่อไปนี้
ได้แก่อะไร ?
ก.
ส่วนสุด
๒ อย่าง
ข.
มัชฌิมาปฏิปทา
ตอบ:
๒. ก.
ส่วนสุด
๒ อย่าง คือ
๑.
กามสุขัลลิกานุโยค
ความหมกมุ่นอยู่ในกาม
๒.
อัตตกิลมถานุโยค
ความทำตนให้ลำบาก
ข.
มัชฌิมาปฏิปทา
ได้แก่ข้อปฏิบัติสายกลาง
คือ มรรคมีองค์ ๘ ฯ
๓. ความเป็นผู้สำรวมกิริยาอาการให้เรียบร้อยดีงามสมความเป็นสมณะ
เป็นการ
เผยแผ่พระพุทธศาสนาได้ทางหนึ่ง ในข้อนี้มีปฏิปทาของพระสาวกองค์ใดเป็น
ตัวอย่าง ? จงเล่าประวัติโดยสังเขปมาประกอบ
เผยแผ่พระพุทธศาสนาได้ทางหนึ่ง ในข้อนี้มีปฏิปทาของพระสาวกองค์ใดเป็น
ตัวอย่าง ? จงเล่าประวัติโดยสังเขปมาประกอบ
ตอบ:
๓. พระอรหันตสาวกทุกรูปล้วนเป็นผู้สำรวมกิริยาอาการเรียบร้อยดีงามทั้งสิ้น
แต่ที่
ได้รับยกย่องเป็นพิเศษคือพระอัสสชิเถระ ท่านมีกิริยาอาการที่น่าเลื่อมใส เป็นเหตุ
ให้อุปติสสะปริพาชกเห็นแล้วเกิดศรัทธา เข้าไปหา ขอฟังธรรมจนได้บรรลุ
โสดาปัตติผล ภายหลังยังชักชวนสหายของตนเข้ามาบวชในพระธรรมวินัย ได้เป็น
กำลังสำคัญช่วยพระศาสดาเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองกว้างขวาง
และมั่นคงอย่างรวดเร็ว ฯ
ได้รับยกย่องเป็นพิเศษคือพระอัสสชิเถระ ท่านมีกิริยาอาการที่น่าเลื่อมใส เป็นเหตุ
ให้อุปติสสะปริพาชกเห็นแล้วเกิดศรัทธา เข้าไปหา ขอฟังธรรมจนได้บรรลุ
โสดาปัตติผล ภายหลังยังชักชวนสหายของตนเข้ามาบวชในพระธรรมวินัย ได้เป็น
กำลังสำคัญช่วยพระศาสดาเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองกว้างขวาง
และมั่นคงอย่างรวดเร็ว ฯ
๔. พระสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีบริวารมาก
คือใคร ?
เพราะท่านมีคุณธรรมอะไร
?
ตอบ:
๔. คือ
พระอุรุเวลกัสสปะ ฯ
เพราะท่านรู้จักสงเคราะห์บริวารด้วยอามิสบ้าง
ด้วยธรรมบ้าง จึงเป็นที่รักใคร่นับถือ
สามารถยึดเหนี่ยวน้ำใจบริวารไว้ได้
ฯ
๕. ธรรมเสนาบดี
และ นวกัมมาธิฏฐายี
เป็นนามของพระสาวกองค์ใด
?
เพราะเหตุไร
จึงมีนามเช่นนั้น ?
จึงมีนามเช่นนั้น ?
ตอบ:
๕. ธรรมเสนาบดี
เป็นนามของพระสารีบุตรเถระ
เพราะท่านเป็นกำลังสำคัญยิ่งในการ
ประกาศพระพุทธศาสนา ฯ นวกัมมาธิฏฐายี เป็นนามของพระโมคคัลลานเถระ
เพราะท่านเป็นผู้สามารถกำกับดูแลการก่อสร้าง ฯ
ประกาศพระพุทธศาสนา ฯ นวกัมมาธิฏฐายี เป็นนามของพระโมคคัลลานเถระ
เพราะท่านเป็นผู้สามารถกำกับดูแลการก่อสร้าง ฯ
๖. พระศาสดาทรงประทานพระโอวาทเป็นการให้อุปสมบทแก่พระมหากัสสปะไว้
กี่ข้อ ? อะไรบ้าง ?
กี่ข้อ ? อะไรบ้าง ?
ตอบ:
๖. ๓
ข้อ คือ
๑.
เราจักเข้าไปตั้งความละอายและความยำเกรงอย่างแรงกล้าไว้ในภิกษุ
ทั้งที่เป็นเถระ
ปานกลาง และผู้ใหม่
๒.
เราจักเงี่ยหูลงฟังธรรม
อันประกอบด้วยกุศล
และพิจารณาเนื้อความ
แห่งธรรมนั้น
๓.
เราจักไม่ละสติที่ไปในกาย
ฯ
๗. พระมหากัจจายนะ
นิพพานก่อนหรือหลังพระพุทธเจ้า
?
มีอะไรเป็นข้ออ้าง
?
ตอบ:
๗. พระมหากัจจายนะ
นิพพานหลังพระพุทธเจ้า
มีมธุรสูตรเป็นข้ออ้าง
โดยมีใจความ
ตอนหนึ่งในพระสูตรนั้นว่า พระเจ้ามธุรราชตรัสถามว่า เดี๋ยวนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
นั้นเสด็จอยู่ ณ ที่ไหน พระมหากัจจายนะทูลว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว ฯ
ตอนหนึ่งในพระสูตรนั้นว่า พระเจ้ามธุรราชตรัสถามว่า เดี๋ยวนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
นั้นเสด็จอยู่ ณ ที่ไหน พระมหากัจจายนะทูลว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว ฯ
ศาสนพิธี
๘. วันธรรมสวนะ
คือวันอะไร ?
ทรงอนุญาตให้มีในวันใดบ้าง
?
ตอบ:
๘. คือ
วันกำหนดประชุมฟังธรรม
หรือที่เรียกว่า “วันพระ”
ฯ ในวัน ๘ ค่ำ และ
วัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำของปักษ์ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม ฯ
วัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำของปักษ์ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม ฯ
๙. ผ้าป่าคือผ้าอะไร
?
คำพิจารณาผ้าป่าว่าอย่างไร
?
ตอบ:
๙. คือ
ผ้าบังสุกุลจีวร
ได้แก่ผ้าเปื้อนฝุ่นที่ไม่มีเจ้าของหวงแหน
ทิ้งอยู่ตามป่าดงบ้าง
ตามป่าช้าบ้าง ตามถนนหนทางและห้อยอยู่ตามกิ่งไม้บ้าง ที่สุดจนกระทั่งที่เขา
อุทิศไว้แทบเท้า รวมเรียกว่า “ผ้าป่า” ฯ
ตามป่าช้าบ้าง ตามถนนหนทางและห้อยอยู่ตามกิ่งไม้บ้าง ที่สุดจนกระทั่งที่เขา
อุทิศไว้แทบเท้า รวมเรียกว่า “ผ้าป่า” ฯ
คำพิจารณาผ้าป่าว่า
อิมํ ปํสุกูลจีวรํ อสฺสามิกํ
มยฺหํ ปาปุณาติ หรือว่า
อิมํ วตฺถํ อสฺสามิกํ ปํสุกูลจีวรํ มยฺหํ ปาปุณาติ ฯ
อิมํ วตฺถํ อสฺสามิกํ ปํสุกูลจีวรํ มยฺหํ ปาปุณาติ ฯ
๑๐. จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้
?
ก.
ปาฏิปุคคลิกทาน
ข.
เภสัชทาน
ค.
สลากภัตต์
ง.
ผ้าวัสสิกสาฎก
จ.
ผ้าอัจเจกจีวร
ตอบ:
๑๐. ก.
คือทานที่ถวายเจาะจงเฉพาะรูปนั้นรูปนี้
ข.
คือการถวายเภสัช
๕ ได้แก่ เนยใส เนยข้น น้ำมัน
น้ำผึ้ง น้ำอ้อย
ค.
คือภัตตาหารที่ทายกทายิกาถวายตามสลาก
ง.
คือผ้าที่อธิษฐานสำหรับใช้นุ่งในเวลาอาบน้ำฝน
หรืออาบน้ำทั่วไป
จ.
คือผ้าจำนำพรรษาที่ทายกรีบด่วนถวายก่อนกำหนดกาล
ฯ
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
๑.
|
พระธรรมปริยัติเวที
|
วัดพระปฐมเจดีย์
|
|
|
๒.
|
พระธรรมวราภรณ์
|
วัดราชบพิธ
|
|
|
๓.
|
พระธรรมคุณาภรณ์
|
วัดสามพระยา
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
|
สนามหลวงแผนกธรรม
|
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen