Dienstag, 23. April 2019

ปัญหาและเฉลย(วิชาวินัย) นักธรรมชั้นโท ปี 2548


ปัญหาและเฉลยวิชาวินัย นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.. ๒๕๔๘
-------------------------------------------------------

. ภิกษุผู้ละเมิดสิกขาบทนอกพระปาฏิโมกข์ต้องอาบัติอะไรได้บ้าง ?
ตอบ:
. ต้องอาบัติถุลลัจจัย และ ทุกกฏ ฯ

. พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ภิกษุไว้ผมได้ยาวที่สุดเท่าไร ? ไว้ได้นานที่สุดเท่าไร ?
ตอบ:
. ไม่เกิน ๒ นิ้ว ฯ ไม่เกิน ๒ เดือน ฯ

. ภิกษุไม่ต้องนำผ้าไตรจีวรไปครบสำรับ มีพระพุทธานุญาตไว้ในกรณีใดบ้าง ?
ตอบ:
. ใน ๒ กรณี คือ
. ในกรณีเข้าบ้านมีพระพุทธานุญาตไว้อย่างนี้ คือ
. คราวเจ็บไข้
. สังเกตเห็นว่าฝนจะตก
. ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ
. วิหารคือกุฎีคุ้มได้ด้วยดาล
. ได้รับอานิสงส์พรรษา
. ได้กรานกฐิน ฯ
. ในกรณีต้องไปค้างแรมที่อื่น มีพระพุทธานุญาตไว้อย่างนี้ คือ
. ได้รับอานิสงส์พรรษา
. ได้กรานกฐิน ฯ

. ในพระวินัยส่วนอภิสมาจาร มีพระพุทธบัญญัติสำหรับพระภิกษุผู้รับถือเสนาสนะ
ของสงฆ์ ควรเอาใจใส่รักษาเสนาสนะด้วยอาการอย่างไรบ้าง ?
ตอบ:

. ควรเอาใจใส่รักษาอย่างนี้ คือ
. อย่าทำเปรอะเปื้อน
. ชำระให้สะอาด
. ระวังไม่ให้ชำรุด
. รักษาเครื่องเสนาสนะ
. ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้ให้มีพร้อม
. ของใช้สำหรับเสนาสนะหนึ่ง อย่าเอาไปใช้ในที่อื่นให้กระจัดกระจาย ฯ

. วัตร ๓ คืออะไรบ้าง ? ภิกษุเหยียบผ้าขาวอันเขาลาดไว้ในที่นิมนต์ผิดวัตรข้อไหน ?
มีโทษให้เกิดความเสียหายอย่างไร ?
ตอบ:
. คือ กิจวัตร ๑ จริยาวัตร ๑ วิธิวัตร ๑ ฯ ผิดวัตรข้อจริยาวัตร ฯ
มีโทษให้เกิดความเสียหาย คือเป็นการเสียมารยาทของพระ ไม่ระวังกิริยา ทำให้
ผ้าขาวมีรอยเปื้อนสกปรกน่ารังเกียจ แม้ภิกษุพวกเดียวกันจะนั่งก็รังเกียจขยะแขยง
เป็นที่ตำหนิของบัณฑิตทั้งหลาย ฯ

. ภิกษุพบพระเถระในเวลาเข้าบ้านหรือเดินอยู่ตามทาง ควรปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ:
. ไม่ควรไหว้ ควรหลีกทาง ลุกรับ และให้อาสนะแก่ท่าน ฯ

. อเนสนา คืออะไร ? ภิกษุทำอเนสนา ต้องอาบัติอะไรได้บ้าง ?
ตอบ:
. คือ กิริยาที่แสวงหาเลี้ยงชีพในทางไม่สมควร ฯ ปาราชิก สังฆาทิเสส ปาจิตตีย์
และ ทุกกฏ ฯ

. ความรู้ในการทำเสน่ห์ให้ชายหญิงรักกัน จัดเป็นดิรัจฉานวิชาเพราะเหตุไร ?
ตอบ:
. เพราะเป็นความรู้ที่ไม่เกี่ยวกับธรรมวินัยของภิกษุ และเป็นความรู้ที่ทำให้เขา
สงสัยว่าลวง ทำให้เขาหลงงมงาย ไม่ใช่ความรู้จริง ผู้บอกเป็นผู้ลวง ฝ่ายผู้เรียน
เป็นผู้หัดเพื่อลวง หรือเป็นผู้หลงงมงาย ฯ

. สภาคาบัติ คืออาบัติเช่นไร ?
ตอบ:
. คือ อาบัติที่ภิกษุต้องเหมือนกันเพราะล่วงละเมิดสิกขาบทเดียวกัน ฯ

๑๐. การอธิษฐานเข้าพรรษา กับการปวารณาออกพรรษา ทั้ง ๒ นี้ อย่างไหนกำหนด
ด้วยสงฆ์เท่าไร ? และกำหนดเขตอย่างไร ?
ตอบ:
๑๐. การอธิษฐานเข้าพรรษาไม่เป็นสังฆกรรมจึงไม่กำหนดด้วยสงฆ์ แต่เป็น
ธรรมเนียมปฏิบัติอธิษฐานเข้าพรรษาพร้อมๆ กัน จะอธิษฐานที่ไหนก็ได้ แต่ท่าน
ห้ามไม่ให้จำพรรษาในที่ไม่สมควรเท่านั้น เช่น ในโพรงไม้ บนค่าคบไม้ ในตุ่ม
หรือในกระท่อมผี เป็นต้น ฯ และให้กำหนดบริเวณอาวาสเป็นเขต ฯ
ส่วนการปวารณาออกพรรษาเป็นสังฆกรรม กำหนดด้วยสงฆ์ตั้งแต่ ๕ รูปขึ้นไป ฯ
และกำหนดให้ทำภายในเขตสีมา ถ้าต่ำกว่า ๕ รูป ท่านให้ปวารณาเป็นการคณะ
ถ้ารูปเดียวให้อธิษฐานเป็นการบุคคล ฯ


ผู้ออกข้อสอบ
:
.
พระพรหมเมธาจารย์
วัดบุรณศิริมาตยาราม


.
พระเทพปริยัติเมธี
วัดชลประทานรังสฤษฎ์


.
พระราชวรเมธี
วัดเทพธิดาราม
ตรวจ/ปรับปรุง
:

สนามหลวงแผนกธรรม



Keine Kommentare: