ปัญหาและเฉลยวิชาวินัย
นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์
ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๘
------------------------------
๑. ในสังฆกรรมทั้ง
๔ นั้น การสวดอนุสาวนามีอยู่ในกรรมไหนบ้าง
?
ในแต่ละกรรมนั้นให้สวดกี่ครั้ง
?
ตอบ:
๑. มีอยู่ใน
ญัตติทุติยกรรม และ ญัตติจตุตถกรรม
ฯ ในญัตติทุติยกรรมให้สวด
๑ ครั้ง ในญัตติจตุตถกรรมให้สวด ๓ ครั้ง ฯ
๑ ครั้ง ในญัตติจตุตถกรรมให้สวด ๓ ครั้ง ฯ
๒. สีมาเป็นหลักสำคัญแห่งสังฆกรรมอย่างไร
?
พัทธสีมามีกำหนดขนาดพื้นที่ไว้อย่างไร
?
ตอบ:
๒. สีมาเป็นเขตประชุมของสงฆ์ผู้ทำกรรม
พระศาสดาทรงพระอนุญาตให้สงฆ์
พร้อมเพรียงกันทำภายในสีมา เพื่อจะรักษาสามัคคีในสงฆ์ ฯ
พร้อมเพรียงกันทำภายในสีมา เพื่อจะรักษาสามัคคีในสงฆ์ ฯ
อย่างนี้
คือ กำหนดไม่ให้สมมติสีมาเล็กเกินไปจนจุภิกษุ
๒๑ รูป นั่งไม่ได้และ
ไม่ให้สมมติสีมาใหญ่เกินไปกว่า ๓ โยชน์ ฯ
ไม่ให้สมมติสีมาใหญ่เกินไปกว่า ๓ โยชน์ ฯ
๓. ภิกษุได้รับอานิสงส์กฐิน
เข้าบ้านในเวลาวิกาลโดยไม่บอกลา
ต้องอาบัติอะไร
หรือไม่ ? เพราะเหตุไร ?
หรือไม่ ? เพราะเหตุไร ?
ตอบ:
๓. ในกรณีที่รับนิมนต์แล้ว
ไปในที่นิมนต์
ภายหลังภัตรเข้าบ้านโดยไม่บอกลา
ไม่ต้องอาบัติ ซึ่งได้รับยกเว้นด้วยอานิสงส์ที่ว่าเที่ยวไปไม่ต้องบอกลา ตาม
สิกขาบทที่ ๖ แห่งอเจลกวรรค ในปาจิตติยกัณฑ์ ฯ แต่ในกรณีที่ไม่ได้รับนิมนต์
เข้าบ้านในเวลาวิกาล ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ตามสิกขาบทที่ ๓ แห่งรัตนวรรค
ในปาจิตติยกัณฑ์ ยกเว้นในกรณีรีบด่วน เช่นภิกษุถูกงูกัดรีบเข้าไปเพื่อหายา
หรือตามหมอ ฯ
ไม่ต้องอาบัติ ซึ่งได้รับยกเว้นด้วยอานิสงส์ที่ว่าเที่ยวไปไม่ต้องบอกลา ตาม
สิกขาบทที่ ๖ แห่งอเจลกวรรค ในปาจิตติยกัณฑ์ ฯ แต่ในกรณีที่ไม่ได้รับนิมนต์
เข้าบ้านในเวลาวิกาล ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ตามสิกขาบทที่ ๓ แห่งรัตนวรรค
ในปาจิตติยกัณฑ์ ยกเว้นในกรณีรีบด่วน เช่นภิกษุถูกงูกัดรีบเข้าไปเพื่อหายา
หรือตามหมอ ฯ
๔. วัตถุสมบัติในการอุปสมบทคืออะไร
?
ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง
?
ตอบ:
๔. คือผู้จะเข้ารับการอุปสมบท
ฯ ประกอบด้วยคุณสมบัติ ๕
ประการ คือ
๑. เป็นชาย
๒. มีอายุครบ
๒๐ ปี
๓. ไม่เป็นมนุษย์วิบัติ
เช่นถูกตอน หรือเป็นกะเทย
๔. ไม่เคยทำอนันตริยกรรม
๕. ไม่เคยต้องปาราชิก
หรือไม่เคยเข้ารีตเดียรถีย์ทั้งที่เป็นภิกษุ
ฯ
๕. อภัพพบุคคลที่ถูกห้ามอุปสมบทเพราะกระทำผิดต่อพระศาสนา
มีกี่ประเภท ?
ใครบ้าง ?
ใครบ้าง ?
ตอบ:
๕. มี
๗ ประเภท คือ
๑.
คนฆ่าพระอรหันต์
๒.
คนทำร้ายภิกษุณี
ได้แก่ผู้ข่มขืนภิกษุณีในอัธยาจาร
๓.
คนลักเพศ
คือคนถือเพศเป็นภิกษุเอง
๔.
ภิกษุไปเข้ารีตเดียรถีย์
๕.
ภิกษุต้องปาราชิก
๖.
ภิกษุทำสังฆเภท
๗.
คนทำร้ายพระศาสดาจนถึงห้อพระโลหิต
ฯ
๖. อธิกรณ์อันสงฆ์วินิจฉัยแล้ว
ฝ่ายไม่ชอบใจจักอุทธรณ์ได้หรือไม่
?
จงตอบให้มีหลัก
ตอบ:
๖. อุทธรณ์ได้ก็มี
อุทธรณ์ไม่ได้ก็มี โดยอธิบายว่า
ตามสิกขาบทที่ ๓ แห่งสัปปาณวรรค
ปาจิตติยกัณฑ์ โจทก์ก็ดี จำเลยก็ดี สงฆ์ก็ดี รู้อยู่ว่าอธิกรณ์นั้น สงฆ์หมู่นั้น
วินิจฉัยเป็นธรรมแล้ว ฟื้นขึ้นเพื่อวินิจฉัยใหม่ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ อย่างนี้อุทธรณ์
ไม่ได้ แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรม ฟื้นขึ้นไม่เป็นอาบัติ อย่างนี้ อุทธรณ์ได้ ฯ
ปาจิตติยกัณฑ์ โจทก์ก็ดี จำเลยก็ดี สงฆ์ก็ดี รู้อยู่ว่าอธิกรณ์นั้น สงฆ์หมู่นั้น
วินิจฉัยเป็นธรรมแล้ว ฟื้นขึ้นเพื่อวินิจฉัยใหม่ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ อย่างนี้อุทธรณ์
ไม่ได้ แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรม ฟื้นขึ้นไม่เป็นอาบัติ อย่างนี้ อุทธรณ์ได้ ฯ
๗. ปริวาส
คืออะไร ?
มานัต
คืออะไร ?
ตอบ:
๗. ปริวาส
คือ การประพฤติวัตรพิเศษอย่างหนึ่งเท่าจำนวนวันที่ปกปิดอาบัติไว้
ก่อนจะประพฤติมานัตต่อไป ฯ
ก่อนจะประพฤติมานัตต่อไป ฯ
มานัต
คือ การประพฤติวัตรพิเศษอย่างหนึ่ง
เป็นเวลา ๖ ราตรี เพื่อออก
จากอาบัติสังฆาทิเสส ฯ
จากอาบัติสังฆาทิเสส ฯ
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์
๘. มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง
?
ตอบ:
๘. มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
๑.
ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม
๒.
ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร
๓. ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา
การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่
การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์
การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์
๔.
รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
๕. ปฏิบัติหน้าที่อื่น
ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
หรือกฎหมายอื่น ฯ
๙. ตามมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
(ฉบับที่
๒)
พ.ศ.
๒๕๓๕
กำหนด
ให้พระภิกษุสละสมณเพศในกรณีใดบ้าง ?
ให้พระภิกษุสละสมณเพศในกรณีใดบ้าง ?
ตอบ:
๙. ในกรณีใดกรณีหนึ่ง
ดังต่อไปนี้
๑.
ต้องคำวินิจฉัยตามมาตรา
๒๕ ให้รับนิคหกรรมไม่ถึงให้สึก
แต่ไม่ยอมรับ
นิคหกรรมนั้น
นิคหกรรมนั้น
๒.
ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ
๓.
ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง
๔.
ไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ฯ
๑๐. ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ได้แก่ที่เช่นไร
?
นาย
ก ได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสให้เข้าปลูกบ้าน
อยู่อาศัยในที่เช่นนั้นนานเกินสิบปี ภายหลังจะยึดที่ดินผืนนั้นเป็นสมบัติส่วนตัว จึงยก
อายุความขึ้นต่อสู้กับวัด โดยอ้างสิทธิครอบครองได้หรือไม่ ? เพราะเหตุไร ?
อยู่อาศัยในที่เช่นนั้นนานเกินสิบปี ภายหลังจะยึดที่ดินผืนนั้นเป็นสมบัติส่วนตัว จึงยก
อายุความขึ้นต่อสู้กับวัด โดยอ้างสิทธิครอบครองได้หรือไม่ ? เพราะเหตุไร ?
ตอบ:
๑๐. ที่วัด
คือที่ที่ตั้งวัดตลอดจนเขตของวัดนั้น
ที่ธรณีสงฆ์ คือที่ซึ่งเป็นสมบัติของวัด
ฯ
ไม่ได้ เพราะมาตรา ๓๔ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติว่า ห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดหรือสำนักงาน
พระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้วแต่กรณี ในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นที่วัด ที่ธรณีสงฆ์
หรือที่ศาสนสมบัติกลาง ฯ
ไม่ได้ เพราะมาตรา ๓๔ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติว่า ห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดหรือสำนักงาน
พระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้วแต่กรณี ในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นที่วัด ที่ธรณีสงฆ์
หรือที่ศาสนสมบัติกลาง ฯ
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
๑.
|
พระธรรมเจดีย์
|
วัดกัลยาณมิตร
|
|
|
๒.
|
พระธรรมบัณฑิต
|
วัดนรนาถสุนทริการาม
|
|
|
๓.
|
พระศรีวิสุทธิโสภณ
|
วัดไชยชุมพลชนะสงคราม
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
|
สนามหลวงแผนกธรรม
|
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen