ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ
นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์
ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๕๑
--------------------
๑. พุทธประวัติ
วิภาคที่ ๑ ปุริมกาล และวิภาคที่
๓ อปรกาล ที่ทรงรจนาไว้แสดงถึงเรื่องอะไร
?
ตอบ:
๑. ปุริมกาล
แสดงถึงเรื่องเป็นไปในกาลก่อนแต่บำเพ็ญพุทธกิจ
อปรกาล
แสดงถึงเรื่องถวายพระเพลิงและแจกพระธาตุ
ฯ
๒. ในขณะเสวยวิมุตติสุขใต้ร่มไม้มหาโพธิ์
พระพุทธเจ้าทรงพิจารณา
ข้อธรรมอะไร ?
และธรรมนั้นมีใจความย่อว่าอย่างไร
?
ตอบ:
๒. ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท
ฯ
มีใจความย่อว่า
สภาวะอย่างหนึ่งเป็นผลเกิดแต่เหตุอย่างหนึ่งแล้ว
ซ้ำเป็นเหตุยังผลอย่างอื่นให้เกิดต่อไปอีก
เหมือนลูกโซ่เกี่ยวคล้องกันเป็นสาย
ฯ
๓. อนุปุพพีกถาและสามุกกังสิกธรรม
คืออะไร ?
พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่บุคคลผู้มีองคสมบัติอะไร
?
ตอบ:
๓. อนุปุพพีกถา
คือ ถ้อยคำที่กล่าวเรียงเรื่องเป็นลำดับไป
คือ ทานกถา สีลกถา สัคคกถา
กามาทีนวกถา เนกขัมมานิสังสกถา
สามุกกังสิกธรรม
คือ ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงยกขึ้นแสดงเอง
ได้แก่อริยสัจ ๔ ฯ
ได้แก่อริยสัจ ๔ ฯ
ผู้มีองคสมบัติ
คือ
๑.
เป็นมนุษย์
๒.
เป็นคฤหัสถ์
๓.
มีอุปนิสัยแก่กล้า
ควรบรรลุโลกุตรคุณในที่นั้น
ฯ
๔. พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดชฎิล
๓ พี่น้องพร้อมบริวาร
โดยบังเอิญหรือโดยตั้งพระหฤทัยไว้ก่อน
? มีหลักฐานสนับสนุนคำตอบนั้นอย่างไร
?
ตอบ:
๔. โดยตั้งพระหฤทัยไว้ก่อน
ฯ มีหลักฐานปรากฏว่า
ในครั้งที่ทรงส่งพระสาวก
๖๐ องค์แรกไปประกาศพระพุทธศาสนาในที่ต่าง
ๆ ทรงมีพระดำรัสว่า
“แม้เราก็จะไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม
เพื่อจะแสดงธรรม” ฯ
๕. มีภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า
สัตบุรุษตั้งมั่นแล้วในสัจจะที่เป็นอรรถเป็นธรรม
ดังนี้ ข้อนี้ มีปฏิปทาของพระสาวกรูปใด
ที่ให้สัญญาต่อกันไว้แล้วปฏิบัติตามสัญญานั้น
เป็นตัวอย่าง ?
จงเล่าเรื่องประกอบ
ตอบ:
๕. มีปฏิปทาของพระสารีบุตร
เป็นตัวอย่าง ฯ เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อครั้งที่ท่านและพระโมคคัลลานะยังไม่ได้อุปสมบท
เคยให้สัญญากันว่า
ใครได้โมกขธรรมก่อน จะบอกแก่กัน
ต่อมาท่านพระสารีบุตรได้ฟัง
อริยสัจจกถาแต่สำนักพระอัสสชิแล้ว ได้ดวงตาเห็นธรรม จึงนำข้อความนั้นไปบอกแก่พระโมคคัลลานะ จนได้บรรลุธรรมเช่นเดียวกัน ฯ
อริยสัจจกถาแต่สำนักพระอัสสชิแล้ว ได้ดวงตาเห็นธรรม จึงนำข้อความนั้นไปบอกแก่พระโมคคัลลานะ จนได้บรรลุธรรมเช่นเดียวกัน ฯ
๖. พระเจ้าโกรัพยะตรัสถึงเหตุแห่งความเสื่อมที่จะให้คนออกบวชกะ
พระสาวกรูปใด ?
เหตุแห่งความเสื่อมนั้นได้แก่อะไรบ้าง
?
ตอบ:
๖. กะพระรัฏฐปาลเถระ
ฯ เหตุนั้นได้แก่ ๑.
ความแก่ชรา ๒.
ความเจ็บ ๓.
ความสิ้นโภคทรัพย์
๔. ความสิ้นญาติ
ฯ
๗. ในวันที่พระมหาบุรุษประสูติ
มีสหชาติที่เกิดพร้อมกันกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
ตอบ:
๗. มี
๗ อย่าง คือ ๑.
พระนางพิมพา
๒. พระอานนท์
๓. กาฬุทายีอมาตย์
๔. ฉันนะอมาตย์
๕. ม้ากัณฐกะ
๖. ต้นมหาโพธิ์
๗. ขุมทรัพย์ทั้ง
๔ ฯ
๘. การทำสังคายนาครั้งที่
๓ มีมูลเหตุจากอะไร ?
ใครเป็นผู้อุปถัมภ์
?
พระสงฆ์ผู้เข้าร่วมทำสังคายนามีจำนวนเท่าไร ? ใครเป็นประธาน ?
ใช้เวลานานเท่าไร ?
พระสงฆ์ผู้เข้าร่วมทำสังคายนามีจำนวนเท่าไร ? ใครเป็นประธาน ?
ใช้เวลานานเท่าไร ?
ตอบ:
๘. มีมูลเหตุจากพวกเดียรถีย์เป็นจำนวนมากปลอมบวชในพระพุทธศาสนา
ฯ พระเจ้าอโศกมหาราช
ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ ฯ มีจำนวน
๑,๐๐๐
รูป ฯ พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
เป็นประธาน ฯ ใช้เวลา ๙ เดือน
ฯ
๙. จงระบุชื่อพระสาวกผู้ที่บวชด้วยเหตุต่อไปนี้
ก.
บวชด้วยศรัทธา
ข.
บวชเพราะจำใจ
ค.
บวชตามเพื่อน
ง.
บวชเพราะเห็นโทษของการครองเรือน
ตอบ:
๙. ก.
บวชด้วยศรัทธา
คือ พระรัฐปาลเถระ
ข.
บวชเพราะจำใจ
คือ พระนันทเถระ
ค.
บวชตามเพื่อน
คือ พระวิมล พระสุพาหุ
พระปุณณชิ พระควัมปติ
ง.
บวชเพราะเห็นโทษของการครองเรือน
คือ พระมหากัสสปเถระ ฯ
๑๐. ถูปารหบุคคล
ได้แก่บุคคลเช่นไร ?
มีใครบ้าง ?
ตอบ:
๑๐. ได้แก่
บุคคลผู้ควรแก่การบรรจุอัฐิธาตุไว้ในสถูปเพื่อสักการบูชาด้วยความเลื่อมใส
ฯ มี
๑.
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒.
พระปัจเจกสัมพุทธเจ้า
๓.
พระอรหันตสาวก
๔.
พระเจ้าจักรพรรดิราช
ฯ
***********
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen