ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม
ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันพฤหัสบดี
ที่ ๒๙ พฤศจิกายน
พ.ศ.
๒๕๕๐
เวลา ๑๓.๐๐ น.
เวลา ๑๓.๐๐ น.
คำสั่ง
:
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
---------------------
๑.
พระพุทธเจ้าทรงเชิญชวนให้มาดูโลก
เพื่อประโยชน์อะไร ?
ก.
เพื่อคลายเครียด ข.
เพื่อคลายทุกข์
ค.
เพื่อให้รู้ความจริง ง.
เพื่อเพลิดเพลิน
๒.
คำว่า
โลก ในส่วนปรมัตถปฏิปทา
หมายถึงอะไร ?
ก.
แผ่นดินน้ำอากาศ ข.
แผ่นดินและหมู่สัตว์
ค.
แผ่นดินที่อยู่อาศัย ง.
หมู่สัตว์ผู้อยู่อาศัย
๓.
คำว่า
คนเขลา หมายถึงคนเช่นไร ?
ก.
คนดื้อรั้น ข.
คนมีความเห็นผิด
ค.
คนขาดสติ ง.
คนไม่มีการศึกษา
๔.
คำว่า
ผู้รู้ หมายถึงใคร ?
ก.
ผู้รู้ทันโลก ข.
ผู้รู้โลกตามเป็นจริง
ค.
ผู้รู้โลกธรรม ง.
ผู้รู้คดีโลกคดีธรรม
๕.
คำว่า
ข้องอยู่ในโลก ได้แก่อาการเช่นไร
?
ก.
พัวพันอยู่ในสิ่งอันล่อใจ ข.
มัวเมาในสิ่งที่อำนวยสุข
ค.
เพลิดเพลินในสิ่งให้โทษ ง.
ถูกทุกข้อ
๖.
โทษล้างผลาญคุณความดีและทำให้เสียคน
เรียกว่าอะไร ?
ก.
มาร ข.
บ่วงมาร
ค.
เสนามาร ง.
มัจจุมาร
๗.
คนเช่นไร
สงเคราะห์เข้าในคำว่า มาร
?
ก.
คนเป็นศัตรูกัน ข.
คนอันธพาล
ค.
คนขัดขวางการทำดี ง.
คนหลอกลวง
๘.
คำว่า
บ่วงแห่งมาร หมายถึงข้อใด
?
ก.
กิเลสกาม ข.
วัตถุกาม
ค.
กามฉันท์ ง.
กามตัณหา
๙.
ทำอย่างไร
จึงจะพ้นจากบ่วงแห่งมาร ?
ก.
สำรวมอินทรีย์ ข.
มนสิการกัมมัฏฐาน
ค.
เจริญวิปัสสนา ง.
ถูกทุกข้อ
๑๐.
เบื่อหน่ายอะไร
จัดเป็นนิพพิทา ?
ก.
เบื่อหน่ายสังขาร ข.
เบื่อหน่ายการงาน
ค.
เบื่อหน่ายการเรียน ง.
เบื่อหน่ายสังคม
๑๑.
คนและสัตว์
จัดเป็นสังขารประเภทใด ?
ก.
วิสังขาร ข.
ปุญญาภิสังขาร
ค.
อุปาทินนกสังขาร ง.
อนุปาทินนกสังขาร
๑๒.
ความขาดแห่งสันตติ
ทำให้เห็นอะไร ?
ก.
ความไม่เที่ยง ข.
ความทุกข์
ค.
ความแก่ ง.
ความตาย
๑๓.
อนิจจลักษณะ
ไม่ปรากฏในข้อใด ?
ก.
ร่างกาย ข.
จิตใจ
ค.
ต้นไม้
ง.
นิพพาน
๑๔.
อนิจจตา
มีลักษณะเช่นไร ?
ก.
เกิดแล้วเสื่อมไป
ข.
ทนอยู่ไม่ได้
ค.
ไม่อยู่ในอำนาจ
ง.
หาเจ้าของมิได้
๑๕.
เกิด
แก่ ตาย จัดเป็นทุกข์ประเภทใด
?
ก.
สภาวทุกข์ ข.
ปกิณณกทุกข์
ค.
นิพัทธทุกข์ ง.
พยาธิทุกข์
๑๖.
มองไม่เห็นทุกข์
เพราะมีอะไรปิดบังไว้ ?
ก.
สันตติ
ข.
อิริยาบถ
ค.
ฆนสัญญา ง.
สุขเวทนา
๑๗.
ปกิณณกทุกข์
ได้แก่ข้อใด ?
ก.
เศร้าโศกเสียใจ ข.
หนาวร้อน
ค.
เจ็บไข้ได้ป่วย
ง.
หิวกระหาย
๑๘.
ข้อใด
จัดเป็นนิพัทธทุกข์ ?
ก.
เสียใจ
ข.
เจ็บป่วย
ค.
เกิด
แก่ ตาย ง.
หนาวร้อน
๑๙.
ลาภ
ยศ สรรเสริญ จัดเป็นทุกข์ประเภทใด
?
ก.
สภาวทุกข์ ข.
ปกิณณกทุกข์
ค.
นิพัทธทุกข์
ง.
สหคตทุกข์
๒๐.
ความไม่อยู่ในอำนาจ
จัดเป็นอาการของอะไร ?
ก.
อนิจจตา ข.
ทุกขตา
ค.
อนัตตตา ง.
สามัญญตา
๒๑.
ทุกสิ่งมีสภาพสูญ
หมายถึงข้อใด ?
ก.
ควบคุมไม่ได้ ข.
ค้นหาไม่พบ
ค.
ไม่เที่ยงแท้ ง.
มีความแปรปรวน
๒๒.
ข้อใด
เป็นความหมายของวิราคะ ?
ก.
สิ้นอาลัย ข.
สิ้นกำหนัด
ค.
สิ้นวัฏฏะ ง.
สิ้นตัณหา
๒๓.
วิกขัมภนวิมุตติ
ความหลุดพ้นด้วยข่มไว้นั้น
คือข่มอะไร ?
ก.
โลภะ ข.
โทสะ
ค. นิวรณ์ ง. ตัณหา
ค. นิวรณ์ ง. ตัณหา
๒๔.
การหลุดพ้นด้วยวิธีใด
เรียกว่าปัญญาวิมุตติ ?
ก.
เจริญสมถะอย่างเดียว
ข.
เจริญวิปัสสนาอย่างเดียว
ค.
เจริญทั้งสมถะและวิปัสสนา
ง.
ถูกทุกข้อ
๒๕.
วิสุทธิ
ความหมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย
ในพระพุทธศาสนากล่าวเรื่องนี้ไว้อย่างไร
?
ก.
สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยลอยบาป
ข.
สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยชำระบาป
ค.
สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา
ง.
สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยเทพเจ้า
๒๖.
ข้อใด
ไม่จัดเข้าในสีลวิสุทธิ
ความหมดจดแห่งศีล ?
ก.
สัมมาวาจา ข.
สัมมากัมมันตะ
ค.
สัมมาอาชีวะ ง.
สัมมาสมาธิ
๒๗.
วิสุทธิ
เป็นจุดหมายปลายทางของอะไร
?
ก.
นิพพิทา ข.
วิราคะ
ค.
นิพพาน ง.
วิมุตติ
๒๘.
ข้อใด
เป็นทางแห่งสันติภาพแท้ ?
ก.
ทำตามกฎหมาย ข.
เชื่อฟังผู้ใหญ่
ค.
เคารพสิทธิผู้อื่น ง.
มีกายวาจาใจสงบ
๒๙.
ผู้เพ่งความสงบพึงละโลกามิส
คำว่า โลกามิส คืออะไร ?
ก.
กามคุณ
ข.
กามฉันท์
ค.
กามกิเลส
ง.
กามราคะ
๓๐.
ปฏิบัติอย่างไร
จึงจะเข้าใกล้พระนิพพาน ?
ก.
ฝึกสมาธิเป็นนิตย์
ข.
เห็นภัยในความประมาท
ค.
ฟังธรรมสม่ำเสมอ
ง.
รักษาศีลเป็นประจำ
๓๑.
อุปมาว่า
ไฟสิ้นเชื้อแล้วย่อมดับไปเอง
กล่าวถึงเรื่องใด ?
ก.
ฌาน ข.
สมาบัติ
ค.
อภิญญา ง.
นิพพาน
๓๒.
ข้อใด
กล่าวถึงสอุปาทิเสสนิพพานได้ถูกต้อง
?
ก.
ปฏิบัติเพื่อละกิเลส ข.
สิ้นกิเลส
มีชีวิตอยู่
ค.
สิ้นกิเลส
สิ้นชีวิต ง.
สิ้นชีวิต
มีกิเลสอยู่
๓๓.
จิตที่เป็นสมาธิ
มีลักษณะอย่างไร ?
ก.
มีอารมณ์เดียว ข.
ปราศจากนิวรณ์
ค.
มีสมาธิตั้งมั่น ง.
ถูกทุกข้อ
๓๔.
กายคตาสติกัมมัฏฐาน
กำหนดอะไรเป็นอารมณ์ ?
ก.
ผมขนเล็บฟันหนัง ข.
ซากศพ
ค.
ลมหายใจ ง.
ความตาย
๓๕.
ผู้เจริญกายคตาสติ
ย่อมได้รับอานิสงส์อย่างไร
?
ก.
ไม่กลัวความตาย
ข.
มีผิวพรรณผ่องใส
ค.
มีจิตใจเบิกบาน
ง.
ไม่ยึดติดกายตนคนอื่น
๓๖.
กายคตาสติ
เป็นคู่ปรับนิวรณ์ใด ?
ก.
กามฉันท์ ข.
พยาบาท
ค.
ถีนมิทธะ
ง.
วิจิกิจฉา
๓๗.
ผู้เจริญเมตตา
พึงแผ่ไปในใครก่อน ?
ก.
ตนเอง ข.
บิดามารดา
ค.
คนทั่วไป
ง.
คนเป็นศัตรู
๓๘.
ผู้เจริญพุทธานุสสติ
ควรระลึกถึงอะไร ?
ก.
พุทธประวัติ ข.
พุทธโอวาท
ค.
พระพุทธรูป ง.
พระพุทธคุณ
๓๙.
การเจริญกสิณ
เพื่อข่มนิวรณ์ใด ?
ก.
พยาบาท ข.
วิจิกิจฉา
ค.
อุทธัจจกุกกุจจะ
ง.
ถีนมิทธะ
๔๐.
การกำหนดรูปกายโดยความเป็นธาตุ
๔ หมายถึงข้อใด ?
ก.
จตุธาตุววัตถาน ข.
อสุภกัมมัฏฐาน
ค.
กายคตาสติ
ง.
อาหาเรปฏิกูลสัญญา
๔๑.
ประโยชน์ของการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน
คือข้อใด ?
ก.
คลายสงสัย
ข.
คลายกำหนัด
ค.
ตัดกิเลส
ง.
ให้เกิดเมตตา
๔๒.
การเจริญมรณสติ
มีประโยชน์อย่างไร ?
ก.
ทำให้ไม่ประมาท ข.
ทำให้กล้าหาญ
ค.
ทำให้อดทน ง.
ทำให้วางเฉย
๔๓.
คนโทสจริต
มีลักษณะเช่นไร ?
ก.
เจ้าระเบียบ ข.
โกรธง่าย
ค.
เชื่อคนง่าย ง.
ลืมง่าย
๔๔.
คนโทสจริต
ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
ก.
เมตตา
ข.
จาคานุสสติ
ค.
อสุภะ ง.
มรณานุสสติ
๔๕.
คนมีสติไม่มั่นคง
หลงๆ ลืมๆ ตรงกับจริตใด ?
ก.
วิตักกจริต ข.
พุทธิจริต
ค.
โมหจริต ง.
สัทธาจริต
๔๖.
คนมีสติไม่มั่นคง
ควรแก้ด้วยวิธีใด ?
ก.
พิจารณาความตาย ข.
กำหนดลมหายใจ
ค.
พิจารณาอสุภะ ง.
กำหนดธาตุ
๔
๔๗.
การแสดงธรรมโปรดสัตว์
จัดเป็นพุทธคุณข้อใด ?
ก.
พระปัญญาคุณ
ข.
พระวิสุทธิคุณ
ค.
พระกรุณาคุณ
ง.
ถูกทุกข้อ
๔๘.
จตุธาตุววัตถาน
ท่านให้กำหนดพิจารณากายให้เห็นว่า...
?
ก.
เป็นเพียงสมมติว่าธาตุ
๔
ข.
เป็นเพียงธาตุ
๔ ประชุมกัน
ค.
ธาตุ
๔ เป็นนิพพานบัญญัติ
ง.
ธาตุ
๔ เป็นปรมัตถบัญญัติ
๔๙.
บุคคลเช่นไร
เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานไม่ได้ผล
?
ก.
มีจิตฟุ้งซ่าน ข.
มีศีลไม่บริสุทธิ์
ค.
ไม่รู้วิปัสสนาภูมิ ง.
ถูกทุกข้อ
๕๐.
ประโยชน์สูงสุดของการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน
คืออะไร ?
ก.
พ้นจากสังสารทุกข์
ข.
ระงับนิวรณ์
ค.
กำจัดความสงสัย ง.
พ้นจากอบาย
***
*** ***
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen