Sonntag, 25. Dezember 2022

๕๐. แกล้งเป็นเห็นธรรม

 

๕๐. แกล้งเป็นเห็นธรรม


จกฺขุมาสฺส ยถา อนฺโธ, โสตวา พธิโร ยถา;

ปญฺญาวาปิ ยถา มูโค, พลวา ทุพฺพโลริว;

อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สเยยฺย มตสายิตํ.


มีตาก็พึงเป็นเหมือนคนบอด, 

มีหูก็พึงเป็นเหมือนคนหนวก; 

มีปัญญาก็พึงเป็นเหมือนคนใบ้, 

มีกำลังก็พึงเป็นเหมือนคนทุรพล; 

แต่เมื่อประโยชน์เกิดขึ้น, 

ถึงนอนอยู่ในเวลาใกล้ตาย ก็ยังทำประโยชน์นั้นได้.


(ธรรมนีติ ปัญญากถา ๕๐, มหารหนีติ ๖๑, กวิทัปปณนีติ ๑๑๓, ขุ. เถร. ๒๖/๓๖๖ อัฏฐกนิบาต มหากัจจายนเถระ)


--


ศัพท์น่ารู้ :


จกฺขุมาสฺส ตัดบทเป็น จกฺขุมา+อสฺส (คนมีตา+พึงเป็น), = จกฺขุมนฺตุ+สิ วิ. จกฺขุ อสฺส อตฺถีติ จกฺขุมา (ดวงตาของเขา มีอยู่ เหตุนั้น เขา ชือว่า ผู้มีดวงตา) มาจาก จกฺขุ+มนฺตุ > จกฺขุมนฺตุ+สิ เป็นตทัสสัตถตัทธิต, ส่วนเ อสฺส เป็นกิริยาอาขยาต มาจากอส++เอยฺย แปลง อส กับที่สุดธาตุเป็น สฺส ด้วยมหาสูตรว่า กฺวจิ ธาตุ . (รู ๔๘๘)

ยถา (เหมือน, ดุจ, ดัง) นิบาตบอกการเปรียบเทียบ

อนฺโธ (คนตาบอด) อนฺธ+สิ


โสตวา (คนมีหู) โสตวนฺตุ+สิ 

พธิโร (คนหูหนวก) พธิร+สิ 


ปญฺญวาสฺส ตัดบทเป็น ปญฺญวา+อสฺส (ผู้มีปัญญา+พึงเป็น), = ปญฺญนฺตุ+สิ วิ. ปญฺญา อสฺส อตฺถีติ จกฺขุมา (ปัญญาของเขา มีอยู่ เหตุนั้น เขา ชือว่า ผู้มีปัญญา)  มาจาก ปญฺญา+วนฺตุ> ปญฺญวนฺตุ+สิ เป็นตทัสสัตถตัทธิต

มูโค (คนใบ้) มูค+สิ, 


พลวา (ผู้มีกำลัง) พลวนฺตุ+สิ วิ. พลํ อสฺส อตฺถีติ พลวา (กำลังของเขามีอยู่ เหตุนั้น เขาจึงชื่อว่า พลวา) พล+วนฺตุ > พลวนฺตุ+สิ = พลวา.

ทุพฺพโลริว ตัดบทเป็น ทุพฺพโล+ อาคม+อิว (เหมือนคนทุรพล, ดุจคนไม่มีแรง) ทุ+พล > ทุพฺพล+สิ, ส่วน อิว เป็นนิบาตบอกการเปรียบเทียบ


อถ (แต่, อนึง, ลำดับนั้น) เป็นนิบาตทำบทให้เต็ม หรือใช้ในอรรถการถามเป็นต้น

อตฺเถ (เมื่ออรรถ, ประโยชน์, เนื่อความ, ความต้องการ) อตฺถ+สฺมึ 

สมุปฺปนฺเน (เกิดขึ้นแล้ว, ถึงพร้อมแล้ว) สํ+อุ+ปท+ > สมุปฺปนฺน+สฺมึ, 



สเยยฺย (พึงนอน) สิ++เอถ วุทธิ อิ เป็น เอ ด้วยสูตรว่า อญฺเญสุ . (๔๓๔), แปลง เอ เป็น อย ด้วยสูตรว่า เอ อย. (รู ๔๙๑) ในพระบาฬีเป็น สเยถ.

มตสายิตํ (การนอนในเวลาใกล้ตาย, นอนรอความตาย) มตสายิต+อํ ลงทุติยาวิภัตติในอรรถกาลสัตตมีได้บ้าง ด้วยสูตรว่า ตติยาสตฺตมีนญฺจ. (รู ๒๙๐), ในพระบาฬีเป็น มตสายิกํ


ในอรรถกถาท่านอธิบายว่า ถ้าเรื่องที่ไม่มีประโยชน์เกิดขึ้น ให้แกล้งนอนเหมือนคนใกล้ตายได้ แต่ถ้าเรื่องที่เป็นประโยชน์เกิดขึ้น ต้องรีบทำ รีบจัดการทันที ไม่ทำไม่ได้.


--


อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้



มีตาก็เหมือนอย่างตาบอด 

มีหูก็เหมือนอย่างหูหนวก 

มีปัญญาก็เหมือนอย่างคนใบ้ 

มีกำลังก็เหมือนหนึ่งหมดกำลัง 

ก็เมื่อประโยชน์เกิดประจวบขึ้นแล้ว 

ก็นอนแอ้งแม้งเหมือนคนตาย.


--


อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้...



มีตาก็เหมือนตาบอด

มีหูก็เหมือนหูหนวก

มีปัญญาก็เหมือนคนใบ้

มีกำลังวังชาก็เหมือนหมดกำลัง

เมื่อมีธุระเกิดขึ้น ก็ต้องนอนเหมือนตาย.



--


Keine Kommentare: