Sonntag, 12. Oktober 2014

ฝึกแปลธรรมบท ชุดที่ ๑ (ปาปวรรควัณณนา, ชราวรรควัณณนา)

  
(ท่านสามารถเลือกรายการที่ต้องการฟังได้ โดยคลิกที่หน้าต้าง MP3 ด้านล่าง)



. ปาปวโคฺค

. จูเฬกสาฎกพฺราหฺมณวตฺถุ

อภิตฺถเรถ กลฺยาเณติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต จูเฬกสาฎกพฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิฯ
วิปสฺสิทสพลสฺส กาลสฺมิญฺหิ มหาเอกสาฎกพฺราหฺมโณ นาม อโหสิ, อยํ ปน เอตรหิ สาวตฺถิยํ จูเฬกสาฎโก นามฯ 
ตสฺส หิ เอโก นิวาสนสาฎโก อโหสิ, พฺราหฺมณิยาปิ เอโกฯ อุภินฺนมฺปิ เอกเมว ปารุปนํ, พหิ คมนกาเล พฺราหฺมโณ วา พฺราหฺมณี วา ตํ ปารุปติฯ อเถกทิวสํ วิหาเร ธมฺมสฺสวเน โฆสิเต พฺราหฺมโณ อาห – ‘‘โภติ ธมฺมสฺสวนํ โฆสิตํ, กิํ ทิวา ธมฺมสฺสวนํ คมิสฺสสิ, อุทาหุ รตฺติํฯ ปารุปนสฺส หิ อภาเวน น สกฺกา อมฺเหหิ เอกโต คนฺตุ’’นฺติฯ พฺราหฺมณี, ‘‘สามิ, อหํ ทิวา คมิสฺสามี’’ติ สาฎกํ ปารุปิตฺวา อคมาสิฯ พฺราหฺมโณ ทิวสภาคํ เคเห วีตินาเมตฺวา รตฺติํ คนฺตฺวา สตฺถุ ปุรโต นิสินฺโนว ธมฺมํ อสฺโสสิฯ อถสฺส สรีรํ ผรมานา ปญฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิฯ โส สตฺถารํ ปูชิตุกาโม หุตฺวา ‘‘สเจ อิมํ สาฎกํ ทสฺสามิ, เนว พฺราหฺมณิยา, น มยฺหํ ปารุปนํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสิฯ อถสฺส มจฺเฉรจิตฺตานํ สหสฺสํ อุปฺปชฺชิ, ปุเนกํ สทฺธาจิตฺตํ อุปฺปชฺชิฯ ตํ อภิภวิตฺวา ปุน มจฺเฉรสหสฺสํ อุปฺปชฺชิฯ อิติสฺส พลวมจฺเฉรํ พนฺธิตฺวา คณฺหนฺตํ วิย สทฺธาจิตฺตํ ปฎิพาหติเยวฯ ตสฺส ‘‘ทสฺสามิ, น ทสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺตสฺเสว ปฐมยาโม อปคโต, มชฺฌิมยาโม สมฺปตฺโตฯ ตสฺมิมฺปิ ทาตุํ นาสกฺขิฯ ปจฺฉิมยาเม สมฺปตฺเต โส จินฺเตสิ – ‘‘มม สทฺธาจิตฺเตน มจฺเฉรจิตฺเตน จ สทฺธิํ ยุชฺฌนฺตสฺเสว เทฺว ยามา วีติวตฺตา, อิทํ มม เอตฺตกํ มจฺเฉรจิตฺตํ วฑฺฒมานํ จตูหิ อปาเยหิ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น ทสฺสติ, ทสฺสามิ น’’นฺติฯ โส มจฺเฉรสหสฺสํ อภิภวิตฺวา สทฺธาจิตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา สาฎกํ อาทาย สตฺถุ ปาทมูเล ฐเปตฺวา ‘‘ชิตํ เม, ชิตํ เม’’ติ ติกฺขตฺตุํ มหาสทฺทมกาสิฯ
ราชา ปเสนทิ โกสโล ธมฺมํ สุณนฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปุจฺฉถ นํ, กิํ กิร เตน ชิต’’นฺติ อาหฯ โส ราชปุริเสหิ ปุจฺฉิโต ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ทุกฺกรํ กตํ พฺราหฺมเณน, สงฺคหมสฺส กริสฺสามี’’ติ เอกํ สาฎกยุคํ ทาเปสิฯ โส ตมฺปิ ตถาคตสฺเสว อทาสิฯ ปุน ราชา เทฺว จตฺตาริ อฎฺฐ โสฬสาติ ทฺวิคุณํ กตฺวา ทาเปสิฯ โส ตานิปิ ตถาคตสฺเสว อทาสิฯ อถสฺส ราชา ทฺวตฺติํส ยุคานิ ทาเปสิฯ พฺราหฺมโณ ‘‘อตฺตโน อคฺคเหตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ วิสฺสชฺเชสิเยวา’’ติ วาทโมจนตฺถํ ตโต เอกํ ยุคํ อตฺตโน, เอกํ พฺราหฺมณิยาติ เทฺว ยุคานิ คเหตฺวา ติํส ยุคานิ ตถาคตสฺเสว อทาสิฯ ราชา ปน ตสฺมิํ สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ ททนฺเต ปุน ทาตุกาโมเยว อโหสิฯ ปุพฺเพ มหาเอกสาฎโก จตุสฎฺฐิยา สาฎกยุเคสุ เทฺว อคฺคเหสิ, อยํ ปน ทฺวตฺติํสาย ลทฺธกาเล เทฺว อคฺคเหสิฯ ราชา ปุริเส อาณาเปสิ – ‘‘ทุกฺกรํ ภเณ พฺราหฺมเณน กตํ, อนฺเตปุเร มม เทฺว กมฺพลานิ อาหราเปยฺยาถา’’ติฯ เต ตถา กริํสุฯ ราชา สตสหสฺสคฺฆนเก เทฺว กมฺพเล ทาเปสิฯ พฺราหฺมโณ ‘‘น อิเม มม สรีเร อุปโยคํ อรหนฺติ, พุทฺธสาสนสฺเสว เอเต อนุจฺฉวิกา’’ติ เอกํ กมฺพลํ อนฺโตคนฺธกุฎิยํ สตฺถุ สยนสฺส อุปริ วิตานํ กตฺวา พนฺธิ, เอกํ อตฺตโน ฆเร นิพทฺธํ ภุญฺชนฺตสฺส ภิกฺขุโน ภตฺตกิจฺจฎฺฐาเน วิตานํ กตฺวา พนฺธิฯ ราชา สายนฺหสมเย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ กมฺพลํ สญฺชานิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, เกน ปูชา กตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอกสาฎเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘พฺราหฺมโณ มม ปสาทฎฺฐาเนเยว ปสีทตี’’ติ วตฺวา ‘‘จตฺตาโร หตฺถี จตฺตาโร อสฺเส จตฺตาริ กหาปณสหสฺสานิ จตสฺโส อิตฺถิโย จตสฺโส ทาสิโย จตฺตาโร ปุริเส จตุโร คามวเร’’ติ เอวํ ยาว สพฺพสตา จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา สพฺพจตุกฺกํ นาม อสฺส ทาเปสิฯ
ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ – ‘‘อโห อจฺฉริยํ จูเฬกสาฎกสฺส กมฺมํ, ตํมุหุตฺตเมว สพฺพจตุกฺกํ ลภิ, อิทานิ กเตน กลฺยาณกมฺเมน อชฺชเมว วิปาโก ทินฺโน’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, สจายํ เอกสาฎโก ปฐมยาเม มยฺหํ ทาตุํ อสกฺขิสฺส, สพฺพโสฬสกํ อลภิสฺสฯ สเจ มชฺฌิมยาเม อสกฺขิสฺส, สพฺพฎฺฐกํ อลภิสฺส ฯ พลวปจฺฉิมยาเม ทินฺนตฺตา ปเนส สพฺพจตุกฺกํ ลภิฯ กลฺยาณกมฺมํ กโรนฺเตน หิ อุปฺปนฺนํ จิตฺตํ อหาเปตฺวา ตงฺขณญฺเญว กาตพฺพํฯ ทนฺธํ กตํ กุสลญฺหิ สมฺปตฺติํ ททมานํ ทนฺธเมว ททาติ, ตสฺมา จิตฺตุปฺปาทสมนนฺตรเมว กลฺยาณกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
๑๑๖.
‘‘อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ, ปาปา จิตฺตํ นิวารเย;
ทนฺธญฺหิ กโรโต ปุญฺญํ, ปาปสฺมิํ รมตี มโน’’ติฯ
ตตฺถ อภิตฺถเรถาติ ตุริตตุริตํ สีฆสีฆํ กเรยฺยาติ อตฺโถฯ คิหินา วา หิ ‘‘สลากภตฺตทานาทีสุ กิญฺจิเทว กุสลํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ยถา อญฺเญ โอกาสํ น ลภนฺติ, เอวํ ‘‘อหํ ปุเร, อหํ ปุเร’’ติ ตุริตตุริตเมว กาตพฺพํฯ ปพฺพชิเตน วา อุปชฺฌายวตฺตาทีนิ กโรนฺเตน อญฺญสฺส โอกาสํ อทตฺวา ‘‘อหํ ปุเร, อหํ ปุเร’’ติ ตุริตตุริตเมว กาตพฺพํฯ ปาปา จิตฺตนฺติ กายทุจฺจริตาทิปาปกมฺมโต วา อกุสลจิตฺตุปฺปาทโต วา สพฺพถาเมน จิตฺตํ นิวารเยฯ ทนฺธญฺหิ กโรโตติ โย ปน ‘‘ทสฺสามิ, น ทสฺสามิ สมฺปชฺชิสฺสติ นุ โข เม, โน’’ติ เอวํ จิกฺขลฺลมเคฺคน คจฺฉนฺโต วิย ทนฺธํ ปุญฺญํ กโรติ, ตสฺส เอกสาฎกสฺส วิย มจฺเฉรสหสฺสํ ปาปํ โอกาสํ ลภติฯ อถสฺส ปาปสฺมิํ รมตี มโน, กุสลกมฺมกรณกาเลเยว หิ จิตฺตํ กุสเล รมติ, ตโต มุจฺจิตฺวา ปาปนินฺนเมว โหตีติฯ
คาถาปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
จูเฬกสาฎกพฺราหฺมณวตฺถุ ปฐมํฯ
----------------------------------------

. เสยฺยสกตฺเถรวตฺถุ

ปาปญฺจ ปุริโสติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เสยฺยสกตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิฯ
โส หิ ลาฬุทายิตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริโก, อตฺตโน อนภิรติํ ตสฺส อาโรเจตฺวา เตน ปฐมสงฺฆาทิเสสกมฺเม สมาทปิโต อุปฺปนฺนุปฺปนฺนาย อนภิรติยา ตํ กมฺมมกาสิ (ปารา. ๒๓๔)ฯ สตฺถา ตสฺส กิริยํ สุตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอวํ กิร ตฺวํ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา ภาริยํ กมฺมํ อกาสิ, อนนุจฺฉวิกํ โมฆปุริสา’’ติ นานปฺปการโต ครหิตฺวา สิกฺขาปทํ ปญฺญาเปตฺวา ‘‘เอวรูปญฺหิ กมฺมํ ทิฎฺฐธมฺเมปิ สมฺปราเยปิ ทุกฺขสํวตฺตนิกเมว โหตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
๑๑๗.
‘‘ปาปญฺเจ ปุริโส กยิรา, น นํ กยิรา ปุนปฺปุนํ;
น ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ, ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโย’’ติฯ
ตสฺสตฺโถ – สเจ ปุริโส สกิํ ปาปกมฺมํ กเรยฺย, ตงฺขเณเยว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘อิทํ อปฺปติรูปํ โอฬาริก’’นฺติ น นํ กยิรา ปุนปฺปุนํฯ โยปิ ตมฺหิ ฉนฺโท วา รุจิ วา อุปฺปชฺเชยฺย, ตมฺปิ วิโนเทตฺวา น กยิราเถวฯ กิํ การณา? ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโยฯ ปาปสฺส หิ อุจฺจโย วุฑฺฒิ อิธโลเกปิ สมฺปราเยปิ ทุกฺขเมว อาวหตีติฯ
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
เสยฺยสกตฺเถรวตฺถุ ทุติยํฯ
----------------------------------------

. ลาชเทวธีตาวตฺถุ

ปุญฺญญฺเจติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ลาชเทวธีตรํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ ราชคเห สมุฎฺฐิตํฯ
อายสฺมา หิ มหากสฺสโป ปิปฺปลิคุหายํ วิหรนฺโต ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส วุฎฺฐาย ทิพฺเพน จกฺขุนา ภิกฺขาจารฎฺฐานํ โอโลเกนฺโต เอกํ สาลิเขตฺตปาลิกํ อิตฺถิํ สาลิสีสานิ คเหตฺวา ลาเช กุรุมานํ ทิสฺวา ‘‘สทฺธา นุ โข, อสฺสทฺธา’’ติ วีมํสิตฺวา ‘‘สทฺธา’’ติ ญตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสติ นุ โข เม สงฺคหํ กาตุํ, โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘วิสารทา กุลธีตา มม สงฺคหํ กริสฺสติ, กตฺวา จ ปน มหาสมฺปตฺติํ ลภิสฺสตี’’ติ ญตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตมาทาย สาลิเขตฺตสมีเปเยว อฎฺฐาสิฯ กุลธีตา เถรํ ทิสฺวาว ปสนฺนจิตฺตา ปญฺจวณฺณาย ปีติยา ผุฎฺฐสรีรา ‘‘ติฎฺฐถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา ลาเช อาทาย เวเคน คนฺตฺวา เถรสฺส ปตฺเต อากิริตฺวา ปญฺจปติฎฺฐิเตน วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ ทิฎฺฐธมฺมสฺส ภาคินี อสฺส’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิฯ เถโร ‘‘เอวํ โหตู’’ติ อนุโมทนมกาสิฯ สาปิ เถรํ วนฺทิตฺวา อตฺตนา ทินฺนทานํ อาวชฺชมานา นิวตฺติฯ ตาย จ ปน เกทารมริยาทาย คมนมเคฺค เอกสฺมิํ พิเล โฆรวิโส สโปฺป นิปชฺชิฯ โส เถรสฺส กาสายปฎิจฺฉนฺนํ ชงฺฆํ ฑํสิตุํ นาสกฺขิฯ อิตรา ทานํ อาวชฺชมานา นิวตฺตนฺตี ตํ ปเทสํ ปาปุณิฯ สโปฺป พิลา นิกฺขมิตฺวา ตํ ฑํสิตฺวา ตตฺเถว ปาเตสิฯ สา ปสนฺนจิตฺเตน กาลํ กตฺวา ตาวติํสภวเน ติํสโยชนิเก กนกวิมาเน สุตฺตปฺปพุทฺธา วิย สพฺพาลงฺการปฎิมณฺฑิเตน ติคาวุเตน อตฺตภาเวน นิพฺพตฺติฯ สา ทฺวาทสโยชนิกํ เอกํ ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อจฺฉราสหสฺสปริวุตา ปุพฺพกมฺมปกาสนตฺถาย สุวณฺณลาชภริเตน โอลมฺพเกน สุวณฺณสรเกน ปฎิมณฺฑิเต วิมานทฺวาเร ฐิตา อตฺตโน สมฺปตฺติํ โอโลเกตฺวา ‘‘กิํ นุ โข เม กตฺวา อยํ สมฺปตฺติ ลทฺธา’’ติ ทิพฺเพน จกฺขุนา อุปธาเรนฺตี ‘‘อยฺยสฺส เม มหากสฺสปตฺเถรสฺส ทินฺนลาชนิสฺสนฺเทน สา ลทฺธา’’ติ อญฺญาสิฯ
สา เอวํ ปริตฺตเกน กมฺเมน เอวรูปํ สมฺปตฺติํ ลภิตฺวา ‘‘น ทานิ มยา ปมชฺชิตุํ วฎฺฎติ, อยฺยสฺส วตฺตปฎิวตฺตํ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺติํ ถาวรํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปาโตว กนกมยํ สมฺมชฺชนิญฺเจว กจวรฉฑฺฑนกญฺจ ปจฺฉิํ อาทาย คนฺตฺวา เถรสฺส ปริเวณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปสิฯ เถโร ตํ ทิสฺวา ‘‘เกนจิ ทหเรน วา สามเณเรน วา วตฺตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขสิฯ สา ทุติยทิวเสปิ ตเถว อกาสิ, เถโรปิ ตเถว สลฺลกฺเขสิฯ ตติยทิวเส ปน เถโร ตสฺสา สมฺมชฺชนิสทฺทํ สุตฺวา ตาลจฺฉิทฺทาทีหิ จ ปวิฎฺฐํ สรีโรภาสํ ทิสฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘โก เอส สมฺมชฺชตี’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ อุปฎฺฐายิกา ลาชเทวธีตา’’ติฯ ‘‘นนุ มยฺหํ เอวํนามิกา อุปฎฺฐายิกา นาม นตฺถี’’ติฯ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สาลิเขตฺตํ รกฺขมานา ลาเช ทตฺวา ปสนฺนจิตฺตา นิวตฺตนฺตี สเปฺปน ทฎฺฐา กาลํ กตฺวา ตาวติํสเทวโลเก อุปฺปนฺนา, มยา อยฺยํ นิสฺสาย อยํ สมฺปตฺติ ลทฺธา, อิทานิปิ ตุมฺหากํ วตฺตปฎิวตฺตํ กตฺวา ‘สมฺปตฺติํ ถาวรํ กริสฺสามี’ติ อาคตามฺหิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘หิโยฺยปิ ปเรปิ ตยาเวตํ ฐานํ สมฺมชฺชิตํ, ตยาว ปานียโภชนียํ อุปฎฺฐาปิต’’นฺติฯ ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘อเปหิ เทวธีเต, ตยา กตํ วตฺตํ กตํว โหตุ, อิโต ปฎฺฐาย อิมํ ฐานํ มา อาคมี’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, มา มํ นาเสถ, ตุมฺหากํ วตฺตํ กตฺวา สมฺปตฺติํ เม ถิรํ กาตุํ เทถา’’ติฯ ‘‘อเปหิ เทวธีเต, มา มํ อนาคเต จิตฺตพีชนิํ คเหตฺวา นิสินฺเนหิ ธมฺมกถิเกหิ ‘มหากสฺสปตฺเถรสฺส กิร เอกา เทวธีตา อาคนฺตฺวา วตฺตปฎิวตฺตํ กตฺวา ปานียปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปสี’ติ วตฺตพฺพตํ กริ, อิโต ปฎฺฐาย อิธ มา อาคมิ, ปฎิกฺกมา’’ติฯ สา ‘‘มา มํ, ภนฺเต, นาเสถา’’ติ ปุนปฺปุนํ ยาจิเยวฯ เถโร ‘‘นายํ มม วจนํ สุณาตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตุวํ ปมาณํ น ชานาสี’’ติ อจฺฉรํ ปหริฯ สา ตตฺถ สณฺฐาตุํ อสกฺโกนฺตี อากาเส อุปฺปติตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห, ‘‘ภนฺเต, มยา ลทฺธสมฺปตฺติํ มา นาเสถ, ถาวรํ กาตุํ เทถา’’ติ โรทนฺตี อากาเส อฎฺฐาสิฯ
สตฺถา เชตวเน คนฺธกุฎิยํ นิสินฺโนว ตสฺสา โรทิตสทฺทํ สุตฺวา โอภาสํ ผริตฺวา เทวธีตาย สมฺมุเข นิสีทิตฺวา กเถนฺโต วิย ‘‘เทวธีเต มม ปุตฺตสฺส กสฺสปสฺส สํวรกรณเมว ภาโร, ปุญฺญตฺถิกานํ ปน ‘อยํ โน อตฺโถ’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปุญฺญกรณเมว ภาโรฯ ปุญฺญกรณญฺหิ อิธ เจว สมฺปราเย จ สุขเมวา’’ติ วตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
๑๑๘.
‘‘ปุญฺญญฺเจ ปุริโส กยิรา, กยิรา นํ ปุนปฺปุนํ;
ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ, สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย’’ติฯ
ตสฺสตฺโถ – สเจ ปุริโส ปุญฺญํ กเรยฺย, ‘‘เอกวารํ เม ปุญฺญํ กตํ, อลํ เอตฺตาวตา’’ติ อโนรมิตฺวา ปุนปฺปุนํ กโรเถวฯ ตสฺส อกรณกฺขเณปิ ตมฺหิ ปุญฺเญ ฉนฺทํ รุจิํ อุสฺสาหํ กโรเถวฯ กิํ การณา? สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโยฯ ปุญฺญสฺส หิ อุจฺจโย วุฑฺฒิ อิธโลกปรโลกสุขาวหนโต สุโขติฯ
เทสนาวสาเน เทวธีตา ปญฺจจตฺตาลีสโยชนมตฺถเก ฐิตาว โสตาปตฺติผลํ ปาปุณีติฯ
ลาชเทวธีตาวตฺถุ ตติยํฯ
----------------------------------------

. อนาถปิณฺฑิกเสฎฺฐิวตฺถุ

ปาโปปิ ปสฺสตี ภทฺรนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อนาถปิณฺฑิกํ อารพฺภ กเถสิฯ
อนาถปิณฺฑิโก หิ วิหารเมว อุทฺทิสฺส จตุปณฺณาสโกฎิธนํ พุทฺธสาสเน วิกิริตฺวา สตฺถริ เชตวเน วิหรนฺเต เทวสิกํ ตีณิ มหาอุปฎฺฐานานิ คจฺฉติ, คจฺฉนฺโต จ ‘‘กิํ นุ โข อาทาย อาคโตติ สามเณรา วา ทหรา วา หตฺถมฺปิ เม โอโลเกยฺยุ’’นฺติ ตุจฺฉหตฺโถ นาม น คตปุพฺโพฯ ปาโตว คจฺฉนฺโต ยาคุํ คาหาเปตฺวาว คจฺฉติ, กตปาตราโส สปฺปินวนีตาทีนิ เภสชฺชานิฯ สายนฺหสมเย มาลาคนฺธวิเลปนวตฺถาทีนิ คาหาเปตฺวา คจฺฉติฯ เอวํ นิจฺจกาลเมว ทิวเส ทิวเส ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขติฯ อปรภาเค ธนํ ปริกฺขยํ คจฺฉติฯ โวหารูปชีวิโนปิสฺส หตฺถโต อฎฺฐารสโกฎิธนํ อิณํ คณฺหิํสุ, กุลสนฺตกาปิสฺส อฎฺฐารสหิรญฺญโกฎิโย, นทีตีเร นิทหิตฺวา ฐปิตา อุทเกน กูเล ภินฺเน มหาสมุทฺทํ ปวิสิํสุฯ เอวมสฺส อนุปุพฺเพน ธนํ ปริกฺขยํ อคมาสิฯ โส เอวํภูโตปิ สงฺฆสฺส ทานํ เทติเยว, ปณีตํ ปน กตฺวา ทาตุํ น สกฺโกติฯ
โส เอกทิวสํ สตฺถารา ‘‘ทียติ ปน เต, คหปติ, กุเล ทาน’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ทียติ, ภนฺเต, ตญฺจ โข กณาชกํ พิลงฺคทุติย’’นฺติ อาหฯ อถ นํ สตฺถา, ‘‘คหปติ, ‘ลูขํ ทานํ เทมี’ติ มา จินฺตยิฯ จิตฺตสฺมิญฺหิ ปณีเต พุทฺธาทีนํ ทินฺนทานํ ลูขํ นาม นตฺถิ, อปิจ ตฺวํ อฎฺฐนฺนํ อริยปุคฺคลานํ ทานํ เทสิ, อหํ ปน เวลามกาเล สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กตฺวา มหาทานํ ปวตฺตยมาโนปิ ติสรณคตมฺปิ กญฺจิ นาลตฺถํ, ทกฺขิเณยฺยา นาม เอวํ ทุลฺลภาฯ ตสฺมา ‘ลูขํ เม ทาน’นฺติ มา จินฺตยี’’ติ วตฺวา เวลามสุตฺตมสฺส (. นิ. .๒๐) กเถสิฯ อถสฺส ทฺวารโกฎฺฐเก อธิวตฺถา เทวตา สตฺถริ เจว สตฺถุสาวเกสุ จ เคหํ ปวิสนฺเตสุ เตสํ เตเชน สณฺฐาตุํ อสกฺโกนฺตี, ‘‘ยถา อิเม อิมํ เคหํ น ปวิสนฺติ, ตถา คหปติํ ปริภินฺทิสฺสามี’’ติ ตํ วตฺตุกามาปิ อิสฺสรกาเล กิญฺจิ วตฺตุํ นาสกฺขิ, อิทานิ ‘‘ปนายํ ทุคฺคโต คณฺหิสฺสติ เม วจน’’นฺติ รตฺติภาเค เสฎฺฐิสฺส สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา อากาเส อฎฺฐาสิฯ อถ เสฎฺฐิ นํ ทิสฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ อาหฯ อหํ เต มหาเสฎฺฐิ จตุตฺถทฺวารโกฎฺฐเก อธิวตฺถา เทวตา, ตุยฺหํ โอวาททานตฺถาย อาคตาติฯ เตน หิ โอวเทหีติฯ มหาเสฎฺฐิ ตยา ปจฺฉิมกาลํ อโนโลเกตฺวาว สมณสฺส โคตมสฺส สาสเน พหุํ ธนํ วิปฺปกิณฺณํ, อิทานิ ทุคฺคโต หุตฺวาปิ ตํ น มุญฺจสิเยว, เอวํ วตฺตมาโน กติปาเหเนว ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ น ลภิสฺสสิ , กิํ เต สมเณน โคตเมน, อติปริจฺจาคโต โอรมิตฺวา กมฺมนฺเต ปโยเชนฺโต กุฎุมฺพํ สณฺฐาเปหีติฯ อยํ เม ตยา ทินฺนโอวาโทติฯ อาม, เสฎฺฐีติฯ คจฺฉ, นาหํ ตาทิสีนํ สเตนปิ สหสฺเสนปิ สตสหสฺเสนปิ สกฺกา กมฺเปตุํ, อยุตฺตํ เต วุตฺตํ, กํ ตยา มม เคเห วสมานาย, สีฆํ สีฆํ เม ฆรา นิกฺขมาหีติฯ สา โสตาปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส วจนํ สุตฺวา ฐาตุํ อสกฺโกนฺตี ทารเก อาทาย นิกฺขมิ, นิกฺขมิตฺวา จ ปน อญฺญตฺถ วสนฎฺฐานํ อลภมานา ‘‘เสฎฺฐิํ ขมาเปตฺวา ตตฺเถว วสิสฺสามี’’ติ นครปริคฺคาหกํ เทวปุตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตนา กตาปราธํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘เอหิ, มํ เสฎฺฐิสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ขมาเปตฺวา วสนฎฺฐานํ ทาเปหี’’ติ อาหฯ โส ‘‘อยุตฺตํ ตยา วุตฺตํ, นาหํ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุํ อุสฺสหามี’’ติ ตํ ปฎิกฺขิปิฯ สา จตุนฺนํ มหาราชานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา เตหิปิ ปฎิกฺขิตฺตา สกฺกํ เทวราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปวตฺติํ อาจิกฺขิตฺวา, ‘‘อหํ, เทว, วสนฎฺฐานํ อลภมานา ทารเก หตฺเถน คเหตฺวา อนาถา วิจรามิ, วสนฎฺฐานํ เม ทาเปหี’’ติ สุฎฺฐุตรํ ยาจิฯ
อถ นํ โส ‘‘อหมฺปิ ตว การณา เสฎฺฐิํ วตฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ, เอกํ ปน เต อุปายํ กเถสฺสามี’’ติ อาหฯ สาธุ, เทว, กเถหีติฯ คจฺฉ, เสฎฺฐิโน อายุตฺตกเวสํ คเหตฺวา เสฎฺฐิสฺส หตฺถโต ปณฺณํ อาโรเปตฺวา โวหารูปชีวีหิ คหิตํ อฎฺฐารสโกฎิธนํ อตฺตโน อานุภาเวน โสเธตฺวา ตุจฺฉคพฺเภ ปูเรตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิฎฺฐํ อฎฺฐารสโกฎิธนํ อตฺถิ, อญฺญมฺปิ อสุกฎฺฐาเน นาม อสฺสามิกํ อฎฺฐารสโกฎิธนํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ สํหริตฺวา ตสฺส ตุจฺฉคพฺเภ ปูเรตฺวา ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ขมาเปหีติฯ สา ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วุตฺตนเยเนว ตํ สพฺพํ กตฺวา ปุน ตสฺส สิริคพฺภํ โอภาสยมานา อากาเส ฐตฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ วุตฺเต อหํ เต จตุตฺถทฺวารโกฎฺฐเก อธิวตฺถา อนฺธพาลเทวตา, มยา อนฺธพาลตาย ยํ ตุมฺหากํ สนฺติเก กถิตํ, ตํ เม ขมถฯ สกฺกสฺส หิ เม วจเนน จตุปณฺณาสโกฎิธนํ สํหริตฺวา ตุจฺฉคพฺภปูรณํ ทณฺฑกมฺมํ กตํ, วสนฎฺฐานํ อลภมานา กิลมามีติฯ อนาถปิณฺฑิโก จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เทวตา ‘ทณฺฑกมฺมญฺจ เม กต’นฺติ วทติ, อตฺตโน จ โทสํ ปฎิชานาติ, สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส นํ ทสฺเสสฺสามี’’ติฯ โส ตํ สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ตาย กตกมฺมํ สพฺพํ อาโรเจสิฯ เทวตา สตฺถุ ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยํ มยา อนฺธพาลตาย ตุมฺหากํ คุเณ อชานิตฺวา ปาปกํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ เม ขมถา’’ติ สตฺถารํ ขมาเปตฺวา มหาเสฎฺฐิํ ขมาเปสิฯ สตฺถา กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากวเสน เสฎฺฐิญฺเจว เทวตญฺจ โอวทนฺโต ‘‘อิธ, คหปติ, ปาปปุคฺคโลปิ ยาว ปาปํ น ปจฺจติ, ตาว ภทฺรมฺปิ ปสฺสติฯ ยทา ปนสฺส ปาปํ ปจฺจติ, ตทา ปาปเมว ปสฺสติฯ ภทฺรปุคฺคโลปิ ยาว ภทฺรํ น ปจฺจติ, ตาว ปาปานิ ปสฺสติฯ ยทา ปนสฺส ภทฺรํ ปจฺจติ, ตทา ภทฺรเมว ปสฺสตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
๑๑๙.
‘‘ปาโปปิ ปสฺสตี ภทฺรํ, ยาว ปาปํ น ปจฺจติ;
ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ, อถ ปาโป ปาปานิ ปสฺสติฯ
๑๒๐.
‘‘ภทฺโรปิ ปสฺสตี ปาปํ, ยาว ภทฺรํ น ปจฺจติ;
ยทา จ ปจฺจตี ภทฺรํ, อถ ภทฺโร ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติฯ
ตตฺถ ปาโปติ กายทุจฺจริตาทินา ปาปกมฺเมน ยุตฺตปุคฺคโลฯ โสปิ หิ ปุริมสุจริตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ สุขํ อนุภวมาโน ภทฺรมฺปิ ปสฺสติฯ ยาว ปาปํ น ปจฺจตีติ ยาวสฺส ตํ ปาปกมฺมํ ทิฎฺฐธมฺเม วา สมฺปราเย วา วิปากํ น เทติฯ ยทา ปนสฺส ตํ ทิฎฺฐธมฺเม วา สมฺปราเย วา วิปากํ เทติ, อถ ทิฎฺฐธมฺเม วิวิธา กมฺมการณา, สมฺปราเย จ อปายทุกฺขํ อนุโภนฺโต โส ปาโป ปาปานิเยว ปสฺสติฯ ทุติยคาถายปิ กายสุจริตาทินา ภทฺรกมฺเมน ยุตฺโต ภทฺโรฯ โสปิ หิ ปุริมทุจฺจริตานุภาเวน นิพฺพตฺตํ ทุกฺขํ อนุภวมาโน ปาปํ ปสฺสติฯ ยาว ภทฺรํ น ปจฺจตีติ ยาวสฺส ตํ ภทฺรํ กมฺมํ ทิฎฺฐธมฺเม วา สมฺปราเย วา วิปากํ น เทติฯ ยทา ปน ตํ วิปากํ เทติ, อถ ทิฎฺฐธมฺเม ลาภสกฺการาทิสุขํ, สมฺปราเย จ ทิพฺพสมฺปตฺติสุขํ อนุภวมาโน โส ภทฺโร ภทฺรานิเยว ปสฺสตีติฯ
เทสนาวสาเน สา เทวตา โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ
อนาถปิณฺฑิกเสฎฺฐิวตฺถุ จตุตฺถํฯ
----------------------------------------

. อสญฺญตปริกฺขารภิกฺขุวตฺถุ

มาวมญฺเญถ ปาปสฺสาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อสญฺญตปริกฺขารํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ
โส กิร ยํ กิญฺจิ มญฺจปีฐาทิเภทํ ปริกฺขารํ พหิ ปริภุญฺชิตฺวา ตตฺเถว ฉฑฺเฑติฯ ปริกฺขาโร วสฺเสนปิ อาตเปนปิ อุปจิกาทีหิปิ วินสฺสติฯ โส ภิกฺขูหิ ‘‘นนุ, อาวุโส, ปริกฺขาโร นาม ปฎิสามิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต ‘‘อปฺปกํ มยา กตํ, อาวุโส, เอตํ, น เอตสฺส จิตฺตํ อตฺถิ, น ปิตฺต’’นฺติ วตฺวา ตเถว กโรติฯ ภิกฺขู ตสฺส กิริยํ สตฺถุ อาโรเจสุํฯ สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ เอวํ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิฯ โส สตฺถารา ปุจฺฉิโตปิ ‘‘กิํ เอตํ ภควา อปฺปกํ มยา กตํ, น ตสฺส จิตฺตํ อตฺถิ, นาสฺส ปิตฺต’’นฺติ ตเถว อวมญฺญนฺโต อาหฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘ภิกฺขูหิ เอวํ กาตุํ น วฎฺฎติ, ปาปกมฺมํ นาม ‘อปฺปก’นฺติ น อวมญฺญิตพฺพํฯ อชฺโฌกาเส ฐปิตญฺหิ วิวฎมุขํ ภาชนํ เทเว วสฺสนฺเต กิญฺจาปิ เอกพินฺทุนา น ปูรติ, ปุนปฺปุนํ วสฺสนฺเต ปน ปูรเตว, เอวเมวํ ปาปํ กโรนฺโต ปุคฺคโล อนุปุพฺเพน มหนฺตํ ปาปราสิํ กโรตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
๑๒๑.
‘‘มาวมญฺเญถ ปาปสฺส, น มนฺทํ อาคมิสฺสติ;
อุทพินฺทุนิปาเตน, อุทกุมฺโภปิ ปูรติ;
พาโล ปูรติ ปาปสฺส, โถกํ โถกมฺปิ อาจิน’’นฺติฯ
ตตฺถ มาวมญฺเญถาติ น อวชาเนยฺยฯ ปาปสฺสาติ ปาปํฯ น มนฺทํ อาคมิสฺสตีติ ‘‘อปฺปมตฺตกํ เม ปาปกํ กตํ, กทา เอตํ วิปจฺจิสฺสตี’’ติ เอวํ ปาปํ นาวชาเนยฺยาติ อตฺโถฯ อุทกุมฺโภปีติ เทเว วสฺสนฺเต มุขํ วิวริตฺวา ฐปิตํ ยํ กิญฺจิ กุลาลภาชนํ ยถา ตํ เอเกกสฺสาปิ อุทกพินฺทุโน นิปาเตน อนุปุพฺเพน ปูรติ, เอวํ พาลปุคฺคโล โถกํ โถกมฺปิ ปาปํ อาจินนฺโต กโรนฺโต วฑฺเฒนฺโต ปาปสฺส ปูรติเยวาติ อตฺโถฯ
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสุฯ สตฺถาปิ ‘‘อชฺโฌกาเส เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ปฎิปากติกํ อกโรนฺโต อิมํ นาม อาปตฺติมาปชฺชตี’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘-๑๑๐) สิกฺขาปทํ ปญฺญาเปสีติฯ
อสญฺญตปริกฺขารภิกฺขุวตฺถุ ปญฺจมํฯ
----------------------------------------

๑๑. ชราวคฺโค

. สมฺพหุลอธิมานิกภิกฺขุวตฺถุ
ยานิมานีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สมฺพหุเล อธิมานิเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิฯ
ปญฺจสตา กิร ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา ฆเฎนฺตา วายมนฺตา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘กิเลสานํ อสมุทาจาเรน ปพฺพชิตกิจฺจํ โน นิปฺผนฺนํ, อตฺตนา ปฎิลทฺธคุณํ สตฺถุ อาโรเจสฺสามา’’ติ อาคมิํสุฯ สตฺถา เตสํ พหิทฺวารโกฎฺฐกํ ปตฺตกาเลเยว อานนฺทตฺเถรํ อาห – ‘‘อานนฺท, เอเตสํ ภิกฺขูนํ ปวิสิตฺวา มยา ทิเฎฺฐน กมฺมํ นตฺถิ, อามกสุสานํ คนฺตฺวา ตโต อาคนฺตฺวา มํ ปสฺสนฺตู’’ติฯ เถโร คนฺตฺวา เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เต ‘‘กิํ อมฺหากํ อามกสุสาเนนา’’ติ อวตฺวาว ‘‘ทีฆทสฺสินา พุทฺเธน การณํ ทิฎฺฐํ ภวิสฺสตี’’ติ อามกสุสานํ คนฺตฺวา ตตฺถ กุณปานิ ปสฺสนฺตา เอกาหทฺวีหปติเตสุ กุณเปสุ อาฆาตํ ปฎิลภิตฺวา ตํ ขณํ ปติเตสุ อลฺลสรีเรสุ ราคํ อุปฺปาทยิํสุ, ตสฺมิํ ขเณ อตฺตโน สกิเลสภาวํ ชานิํสุฯ สตฺถา คนฺธกุฎิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ สมฺมุเข กเถนฺโต วิย ‘‘นปฺปติรูปํ นุ โข, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวรูปํ อฎฺฐิสงฺฆาตํ ทิสฺวา ราครติํ อุปฺปาเทตุ’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
๑๔๙.
‘‘ยานิมานิ อปตฺถานิ, อลาพูเนว สารเท;
กาโปตกานิ อฎฺฐีนิ, ตานิ ทิสฺวาน กา รตี’’ติฯ
ตตฺถ อปตฺถานีติ ฉฑฺฑิตานิฯ สารเทติ สรทกาเล วาตาตปปหตานิ ตตฺถ ตตฺถ วิปฺปกิณฺณอลาพูนิ วิยฯ กาโปตกานีติ กโปตกวณฺณานิฯ ตานิ ทิสฺวานาติ ตานิ เอวรูปานิ อฎฺฐีนิ ทิสฺวา ตุมฺหากํ กา รติ, นนุ อปฺปมตฺตกมฺปิ กามรติํ กาตุํ น วฎฺฎติเยวาติ อตฺโถฯ
เทสนาวสาเน เต ภิกฺขู ยถาฐิตาว อรหตฺตํ ปตฺวา ภควนฺตํ อภิตฺถวมานา อาคนฺตฺวา วนฺทิํสูติฯ
สมฺพหุลอธิมานิกภิกฺขุวตฺถุ จตุตฺถํฯ
----------------------------------------
. ชนปทกลฺยาณี รูปนนฺทาเถรีวตฺถุ
อฎฺฐีนํ นครํ กตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ชนปทกลฺยาณิํ รูปนนฺทาเถริํ อารพฺภ กเถสิฯ
สา กิร เอกทิวสํ จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ เชฎฺฐภาติโก รชฺชสิริํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา โลเก อคฺคปุคฺคโล พุทฺโธ ชาโต, ปุตฺโตปิสฺส ราหุลกุมาโร ปพฺพชิโต, ภตฺตาปิ เม ปพฺพชิโต, มาตาปิ เม ปพฺพชิตา, อหมฺปิ เอตฺตเก ญาติชเน ปพฺพชิเต เคเห กิํ กริสฺสามิ, ปพฺพชิสฺสามา’’ติฯ สา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิ ญาติสิเนเหเนว, โน สทฺธาย, อภิรูปตาย ปน รูปนนฺทาติ ปญฺญายิฯ ‘‘สตฺถา กิร ‘รูปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, เวทนา… สญฺญา… สงฺขารา… วิญฺญาณํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ วเทตี’’ติ สุตฺวา สา เอวํ ทสฺสนีเย ปาสาทิเก มมปิ รูเป โทสํ กเถยฺยาติ สตฺถุ สมฺมุขีภาวํ น คจฺฉติฯ สาวตฺถิวาสิโน ปาโตว ทานํ ทตฺวา สมาทินฺนุโปสถา สุทฺธุตฺตราสงฺคา คนฺธมาลาทิหตฺถา สายนฺหสมเย เชตวเน สนฺนิปติตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติฯ ภิกฺขุนิสโงฺฆปิ สตฺถุ ธมฺมเทสนาย อุปฺปนฺนจฺฉนฺโท วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณาติฯ ธมฺมํ สุตฺวา นครํ ปวิสนฺโต สตฺถุ คุณกถํ กเถนฺโตว ปวิสติฯ
จตุปฺปมาณิเก หิ โลกสนฺนิวาเส อปฺปกาว เต สตฺตา, เยสํ ตถาคตํ ปสฺสนฺตานํ ปสาโท น อุปฺปชฺชติฯ รูปปฺปมาณิกาปิ หิ ตถาคตสฺส ลกฺขณานุพฺยญฺชนปฎิมณฺฑิตํ สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ ทิสฺวา ปสีทนฺติ, โฆสปฺปมาณิกาปิ อเนกานิ ชาติสตานิ นิสฺสาย ปวตฺตํ สตฺถุ คุณโฆสญฺเจว อฎฺฐงฺคสมนฺนาคตํ ธมฺมเทสนาโฆสญฺจ สุตฺวา ปสีทนฺติ, ลูขปฺปมาณิกาปิสฺส จีวราทิลูขตํ ปฎิจฺจ ปสีทนฺติ, ธมฺมปฺปมาณิกาปิ ‘‘เอวรูปํ ทสพลสฺส สีลํ, เอวรูโป สมาธิ, เอวรูปา ปญฺญา, ภควา สีลาทีหิ คุเณหิ อสโม อปฺปฎิปุคฺคโล’’ติ ปสีทนฺติฯ เตสํ ตถาคตสฺส คุณํ กเถนฺตานํ มุขํ นปฺปโหติฯ รูปนนฺทา ภิกฺขุนีนญฺเจว อุปาสิกานญฺจ สนฺติกา ตถาคตสฺส คุณกถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อติวิย เม ภาติกสฺส วณฺณํ กเถนฺติเยวฯ เอกทิวสมฺปิ เม รูเป โทสํ กเถนฺโต กิตฺตกํ กเถสฺสติฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ คนฺตฺวา อตฺตานํ อทสฺเสตฺวาว ตถาคตํ ปสฺสิตฺวา ธมฺมมสฺส สุณิตฺวา อาคจฺเฉยฺย’’นฺติฯ สา ‘‘อหมฺปิ อชฺช ธมฺมสฺสวนํ คมิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุนีนํ อาโรเจสิฯ
ภิกฺขุนิโย ‘‘จิรสฺสํ วต รูปนนฺทาย สตฺถุ อุปฎฺฐานํ คนฺตุกามตา อุปฺปนฺนา, อชฺช สตฺถา อิมํ นิสฺสาย วิจิตฺรธมฺมเทสนํ นานานยํ เทเสสฺสตี’’ติ ตุฎฺฐมานสา ตํ อาทาย นิกฺขมิํสุฯ สา นิกฺขนฺตกาลโต ปฎฺฐาย ‘‘อหํ อตฺตานํ เนว ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตสิฯ สตฺถา ‘‘อชฺช รูปนนฺทา มยฺหํ อุปฎฺฐานํ อาคมิสฺสติ, กีทิสี นุ โข ตสฺสา ธมฺมเทสนา สปฺปายา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘รูปครุกา เอสา อตฺตภาเว พลวสิเนหา, กณฺฎเกน กณฺฎกุทฺธรณํ วิย รูเปเนวสฺสา รูปมทนิมฺมทนํ สปฺปาย’’นฺติ สนฺนิฎฺฐานํ กตฺวา ตสฺสา วิหารํ ปวิสนสมเย เอกํ ปน อภิรูปํ อิตฺถิํ โสฬสวสฺสุทฺเทสิกํ รตฺตวตฺถนิวตฺถํ สพฺพาภรณปฎิมณฺฑิตํ พีชนิํ คเหตฺวา อตฺตโน สนฺติเก ฐตฺวา พีชยมานํ อิทฺธิพเลน อภินิมฺมินิฯ ตํ โข ปน อิตฺถิํ สตฺถา เจว ปสฺสติ รูปนนฺทา จฯ สา ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ วิหารํ ปวิสิตฺวา ภิกฺขุนีนํ ปิฎฺฐิปสฺเส ฐตฺวา ปญฺจปติฎฺฐิเตน สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ภิกฺขุนีนํ อนฺตเร นิสินฺนา ปาทนฺตโต ปฎฺฐาย สตฺถารํ โอโลเกนฺตี ลกฺขณวิจิตฺตํ อนุพฺยญฺชนสมุชฺชลํ พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺตํ สตฺถุ สรีรํ ทิสฺวา ปุณฺณจนฺทสสฺสิริกํ มุขํ โอโลเกนฺตี สมีเป ฐิตํ อิตฺถิรูปํ อทฺทส ฯ สา ตํ โอโลเกตฺวา อตฺตภาวํ โอโลเกนฺตี สุวณฺณราชหํสิยา ปุรโต กากีสทิสํ อตฺตานํ อวมญฺญิฯ อิทฺธิมยรูปํ ทิฎฺฐกาลโต ปฎฺฐาเยว หิ ตสฺสา อกฺขีนิ ภมิํสุฯ สา ‘‘อโห อิมิสฺสา เกสา โสภนา, อโห นลาฎํ โสภน’’นฺติ สพฺเพสํ สารีรปฺปเทสานํ รูปสิริยา สมากฑฺฒิตจิตฺตา ตสฺมิํ รูเป พลวสิเนหา อโหสิฯ
สตฺถา ตสฺสา ตตฺถ อภิรติํ ญตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโตว ตํ รูปํ โสฬสวสฺสุทฺเทสิกภาวํ อติกฺกมิตฺวา วีสติวสฺสุทฺเทสิกํ กตฺวา ทสฺเสสิฯ รูปนนฺทา โอโลเกตฺวา ‘‘น วติทํ รูปํ ปุริมสทิส’’นฺติ โถกํ วิรตฺตจิตฺตา อโหสิฯ สตฺถา อนุกฺกเมเนว ตสฺสา อิตฺถิยา สกิํ วิชาตวณฺณํ มชฺฌิมิตฺถิวณฺณํ ชราชิณฺณมหลฺลิกิตฺถิวณฺณญฺจ ทสฺเสสิฯ สาปิ อนุปุพฺเพเนว ‘‘อิทมฺปิ อนฺตรหิตํ, อิทมฺปิ อนฺตรหิต’’นฺติ ชราชิณฺณกาเล ตํ วิรชฺชมานา ขณฺฑทนฺติํ ปลิตสิรํ โอภคฺคํ โคปานสิวงฺกํ ทณฺฑปรายณํ ปเวธมานํ ทิสฺวา อติวิย วิรชฺชิฯ อถ สตฺถา ตํ พฺยาธินา อภิภูตํ กตฺวา ทสฺเสสิฯ สา ตงฺขณญฺเญว ทณฺฑญฺจ ตาลวณฺฎญฺจ ฉฑฺเฑตฺวา มหาวิรวํ วิรวมานา ภูมิยํ ปติตฺวา สเก มุตฺตกรีเส นิมุคฺคา อปราปรํ ปริวตฺติฯ รูปนนฺทา ตมฺปิ ทิสฺวา อติวิย วิรชฺชิฯ สตฺถาปิ ตสฺสา อิตฺถิยา มรณํ ทสฺเสสิฯ สา ตงฺขณํเยว อุทฺธุมาตกภาวํ อาปชฺชิ, นวหิ วณมุเขหิ ปุพฺพวฎฺฎิโย เจว ปุฬวา จ ปคฺฆริํสุ, กากาทโย สนฺนิปติตฺวา วิลุมฺปิํสุฯ รูปนนฺทาปิ ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ อิตฺถี อิมสฺมิํเยว ฐาเน ชรํ ปตฺตา, พฺยาธิํ ปตฺตา, มรณํ ปตฺตา, อิมสฺสาปิ เม อตฺตภาวสฺส เอวเมว ชราพฺยาธิมรณานิ อาคมิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตภาวํ อนิจฺจโต ปสฺสิฯ อนิจฺจโต ทิฎฺฐตฺตา เอว ปน ทุกฺขโต อนตฺตโต ทิโฎฺฐเยว โหติฯ อถสฺสา ตโย ภวา อาทิตฺตา เคหา วิย คีวาย พทฺธกุณปํ วิย จ อุปฎฺฐหิํสุ, กมฺมฎฺฐานาภิมุขํ จิตฺตํ ปกฺขนฺทิฯ สตฺถา ตาย อนิจฺจโต ทิฎฺฐภาวํ ญตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสติ นุ โข สยเมว อตฺตโน ปติฎฺฐํ กาตุ’’นฺติ โอโลเกนฺโต ‘‘น สกฺขิสฺสติ, พหิทฺธา ปจฺจยํ ลทฺธุํ วฎฺฎตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺสา สปฺปายวเสน ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –
‘‘อาตุรํ อสุจิํ ปูติํ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;
อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ, พาลานํ อภิปตฺถิตํฯ
‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;
ธาตุโต สุญฺญโต ปสฺส, มา โลกํ ปุนราคมิ;
ภเว ฉนฺทํ วิราเชตฺวา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติฯ –
อิตฺถํ สุทํ ภควา นนฺทํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ นนฺทา เทสนานุสาเรน ญาณํ เปเสตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิฯ อถสฺสา อุปริ ติณฺณํ มคฺคผลานํ วิปสฺสนาปริวาสตฺถาย สุญฺญตากมฺมฎฺฐานํ กเถตุํ, ‘‘นนฺเท, มา ‘อิมสฺมิํ สรีเร สาโร อตฺถี’ติ สญฺญํ กริฯ อปฺปมตฺตโกปิ หิ เอตฺถ สาโร นตฺถิ, ตีณิ อฎฺฐิสตานิ อุสฺสาเปตฺวา กตํ อฎฺฐินครเมต’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
๑๕๐.
‘‘อฎฺฐีนํ นครํ กตํ, มํสโลหิตเลปนํ;
ยตฺถ ชรา จ มจฺจุ จ, มาโน มกฺโข จ โอหิโต’’ติฯ
ตสฺสตฺโถ – ยเถว หิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณาทีนํ โอทหนตฺถาย กฎฺฐานิ อุสฺสาเปตฺวา วลฺลีหิ พนฺธิตฺวา มตฺติกาย วิลิมฺเปตฺวา นครสงฺขาตํ พหิทฺธา เคหํ กโรนฺติ, เอวมิทํ อชฺฌตฺติกมฺปิ ตีณิ อฎฺฐิสตานิ อุสฺสาเปตฺวา นฺหารุวินทฺธํ มํสโลหิตเลปนํ ตจปฎิจฺฉนฺนํ ชีรณลกฺขณาย ชราย มรณลกฺขณสฺส มจฺจุโน อาโรหสมฺปทาทีนิ ปฎิจฺจ มญฺญนลกฺขณสฺส มานสฺส สุกตการณวินาสนลกฺขณสฺส มกฺขสฺส จ โอทหนตฺถาย นครํ กตํฯ เอวรูโป เอว หิ เอตฺถ กายิกเจตสิโก อาพาโธ โอหิโต, อิโต อุทฺธํ กิญฺจิ คยฺหูปคํ นตฺถีติฯ
เทสนาวสาเน สา เถรี อรหตฺตํ ปาปุณิ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ
ชนปทกลฺยาณี รูปนนฺทาเถรีวตฺถุ ปญฺจมํฯ
----------------------------------------
. มลฺลิกาเทวีวตฺถุ
ชีรนฺติ เวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มลฺลิกํ เทวิํ อารพฺภ กเถสิฯ
สา กิร เอกทิวสํ นฺหานโกฎฺฐกํ ปวิฎฺฐา มุขํ โธวิตฺวา โอนตสรีรา ชงฺฆํ โธวิตุํ อารภิฯ ตาย จ สทฺธิํเยว ปวิโฎฺฐ เอโก วลฺลภสุนโข อตฺถิฯ โส ตํ ตถา โอนตํ ทิสฺวา อสทฺธมฺมสนฺถวํ กาตุํ อารภิฯ สา ผสฺสํ สาทิยนฺตี อฎฺฐาสิฯ ราชาปิ อุปริปาสาเท วาตปาเนน โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ตโต อาคตกาเล ‘‘นสฺส, วสลิ, กสฺมา เอวรูปมกาสี’’ติ อาหฯ กิํ มยา กตํ, เทวาติฯ สุนเขน สทฺธิํ สนฺถโวติฯ นตฺเถตํ, เทวาติฯ มยา สามํ ทิฎฺฐํ, นาหํ ตว สทฺทหิสฺสามิ, นสฺส, วสลีติฯ ‘‘มหาราช, โย โกจิ อิมํ โกฎฺฐกํ ปวิโฎฺฐ อิมินา วาตปาเนน โอโลเกนฺตสฺส เอโกว ทฺวิธา ปญฺญายตี’’ติ อภูตํ กเถสิฯ เทว, สเจ เม สทฺทหสิ, เอตํ โกฎฺฐกํ ปวิส, อหํ ตํ อิมินา วาตปาเนน โอโลเกสฺสามีติฯ ราชา มูฬฺหธาตุโก ตสฺสา วจนํ สทฺทหิตฺวา โกฎฺฐกํ ปาวิสิฯ สาปิ โข เทวี วาตปาเน ฐตฺวา โอโลเกนฺตี ‘‘อนฺธพาล, มหาราช, กิํ นาเมตํ, อชิกาย สทฺธิํ สนฺถวํ กโรสี’’ติ อาหฯ ‘‘นาหํ, ภทฺเท, เอวรูปํ กโรมี’’ติ จ วุตฺเตปิ ‘‘มยา สามํ ทิฎฺฐํ, นาหํ ตว สทฺทหิสฺสามี’’ติ อาหฯ
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อทฺธา อิมํ โกฎฺฐกํ ปวิโฎฺฐ เอโกว ทฺวิธา ปญฺญายตี’’ติ สทฺทหิฯ มลฺลิกา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา อนฺธพาลตาย มยา วญฺจิโต, ปาปํ เม กตํ, อยญฺจ เม อภูเตน อพฺภาจิกฺขิโต, อิทํ เม กมฺมํ สตฺถาปิ ชานิสฺสติ, เทฺว อคฺคสาวกาปิ อสีติ มหาสาวกาปิ ชานิสฺสนฺติ, อโห วต เม ภาริยํ กมฺมํ กต’’นฺติฯ อยํ กิร รญฺโญ อสทิสทาเน สหายิกา อโหสิฯ ตตฺถ จ เอกทิวสํ กตปริจฺจาโค ธนสฺส จุทฺทสโกฎิอคฺฆนโก อโหสิฯ ตถาคตสฺส เสตจฺฉตฺตํ นิสีทนปลฺลโงฺก อาธารโก ปาทปีฐนฺติ อิมานิ ปน จตฺตาริ อนคฺฆาเนว อเหสุํฯ สา มรณกาเล เอวรูปํ มหาปริจฺจาคํ นานุสฺสริตฺวา ตเทว ปาปกมฺมํ อนุสฺสรนฺตี กาลํ กตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติฯ รญฺโญ ปน สา อติวิย ปิยา อโหสิฯ โส พลวโสกาภิภูโต ตสฺสา สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ‘‘นิพฺพตฺตฎฺฐานมสฺสา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิฯ สตฺถา ยถา โส อาคตการณํ น สรติ, ตถา อกาสิฯ โส สตฺถุ สนฺติเก สารณียธมฺมกถํ สุตฺวา เคหํ ปวิฎฺฐกาเล สริตฺวา ‘‘อหํ ภเณ มลฺลิกาย นิพฺพตฺตฎฺฐานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปมุโฎฺฐ, สฺเว ปุน ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ปุนทิวเสปิ อคมาสิฯ สตฺถาปิ ปฎิปาฎิยา สตฺต ทิวสานิ ยถา โส น สรติ , ตถา อกาสิฯ สาปิ สตฺตาหเมว นิรเย ปจฺจิตฺวา อฎฺฐเม ทิวเส ตโต จุตา ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติฯ กสฺมา ปนสฺส สตฺถา อสรณภาวํ อกาสีติ? สา กิร ตสฺส อติวิย ปิยา อโหสิ มนาปา, ตสฺมา ตสฺสา นิรเย นิพฺพตฺตภาวํ สุตฺวา ‘‘สเจ เอวรูปา สทฺธาสมฺปนฺนา นิรเย นิพฺพตฺตา, ทานํ ทตฺวา กิํ กริสฺสามี’’ติ มิจฺฉาทิฎฺฐิํ คเหตฺวา ปญฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ เคเห ปวตฺตํ นิจฺจภตฺตํ หราเปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺเตยฺย, เตนสฺส สตฺถา สตฺตาหํ อสรณภาวํ กตฺวา อฎฺฐเม ทิวเส ปิณฺฑาย จรนฺโต สยเมว ราชกุลทฺวารํ อคมาสิฯ
ราชา ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปตฺตํ อาทาย ปาสาทํ อภิรุหิตุํ อารภิฯ สตฺถา ปน รถสาลาย นิสีทิตุํ อาการํ ทสฺเสสิฯ ราชา สตฺถารํ ตตฺเถว นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชเกน ปฎิมาเนตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺโนว อหํ, ภนฺเต, มลฺลิกาย เทวิยา นิพฺพตฺตฎฺฐานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ คนฺตฺวา ปมุโฎฺฐ, กตฺถ นุ โข สา, ภนฺเต, นิพฺพตฺตาติฯ ตุสิตภวเน, มหาราชาติ, ภนฺเต, ตาย ตุสิตภวเน อนิพฺพตฺตนฺติยา โก อญฺโญ นิพฺพตฺติสฺสติ , ภนฺเต, นตฺถิ ตาย สทิสา อิตฺถีฯ ตสฺสา หิ นิสินฺนฎฺฐานาทีสุ ‘‘สฺเว ตถาคตสฺส อิทํ ทสฺสามิ, อิทํ กริสฺสามี’’ติ ทานสํวิธานํ ฐเปตฺวา อญฺญํ กิจฺจเมว นตฺถิ, ภนฺเต, ตสฺสา ปรโลกํ คตกาลโต ปฎฺฐาย สรีรํ เม น วหตีติฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘มา จินฺตยิ, มหาราช, สพฺเพสํ ธุวธมฺโม อย’’นฺติ วตฺวา ‘‘อยํ, มหาราช, รโถ กสฺสา’’ติ ปุจฺฉิฯ ตํ สุตฺวา ราชา สิรสฺมิํ อญฺชลิํ ปติฎฺฐาเปตฺวา ‘‘ปิตามหสฺส เม, ภนฺเต’’ติ อาหฯ ‘‘อยํ กสฺสา’’ติ? ‘‘ปิตุ เม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘อยํ ปน รโถ กสฺสา’’ติ? ‘‘มม, ภนฺเต’’ติฯ เอวํ วุตฺเต สตฺถา, ‘‘มหาราช, ตว ปิตามหสฺส รโถ เตเนวากาเรน ตว ปิตุ รถํ น ปาปุณิ, ตว ปิตุ รโถ ตว รถํ น ปาปุณิ, เอวรูปสฺส นาม กฎฺฐกลิงฺครสฺสาปิ ชรา อาคจฺฉติ, กิมงฺคํ ปน อตฺตภาวสฺสฯ มหาราช, สปฺปุริสธมฺมสฺเสว หิ ชรา นตฺถิ, สตฺตา ปน อชีรกา นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
๑๕๑.
‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา,
อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;
สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ,
สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติฯ
ตตฺถ เวติ นิปาโตฯ สุจิตฺตาติ สตฺตหิ รตเนหิ อปเรหิ จ รถาลงฺกาเรหิ สุฎฺฐุ จิตฺติตา ราชูนํ รถาปิ ชีรนฺติฯ สรีรมฺปีติ น เกวลํ รถา เอว, อิทํ สุปฺปฎิชคฺคิตํ สรีรมฺปิ ขณฺฑิจฺจาทีนิ ปาปุณนฺตํ ชรํ อุเปติฯ สตญฺจาติ พุทฺธาทีนํ ปน สนฺตานํ นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม จ กิญฺจิ อุปฆาตํ น อุเปตีติ น ชรํ อุเปติ นามฯ ปเวทยนฺตีติ เอวํ สนฺโต พุทฺธาทโย สพฺภิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธิํ กเถนฺตีติ อตฺโถฯ
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
มลฺลิกาเทวีวตฺถุ ฉฎฺฐํฯ

Keine Kommentare: