ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม
ธรรมศึกษาชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์
ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๙
เวลา ๑๓.๐๐ น.
เวลา ๑๓.๐๐ น.
คำสั่ง
:
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
-------------------------------
๑.
ธรรมอะไร
ทำให้เป็นคนรอบคอบ ?
ก.
สติ
สัมปชัญญะ
ข.
หิริ
โอตตัปปะ
ค.
ขันติ
โสรัจจะ
ง.
วิจารณญาณ
๒.
ขาดธรรมอะไร
แม้มีชีวิตอยู่ก็ชื่อว่าตาย
?
ก.
สติ
ข.
สัมปชัญญะ
ค.
หิริ
ง.
โอตตัปปะ
๓.
คนเช่นไร
ไตร่ตรองทุกสิ่งที่ทำ
ทุกคำที่พูด ทุกสิ่งที่คิด
?
ก.
คนช่างคิด
ข.
คนเจ้าปัญญา
ค.
คนไม่ประมาท
ง.
คนไม่ทำชั่ว
๔.
คนขาดธรรมอะไร
ทำชั่วได้ทุกอย่าง ?
ก.
สติ
สัมปชัญญะ
ข.
หิริ
โอตตัปปะ
ค.
ขันติ
โสรัจจะ
ง.
กตัญญู
กตเวที
๕.
“ทำดีมักกลัว
ทำชั่วมักกล้า” เพราะขาดหลักธรรมอะไร
?
ก.
กตัญญู
กตเวที
ข.
ขันติ
โสรัจจะ
ค.
สติ
สัมปชัญญะ
ง.
หิริ
โอตตัปปะ
๖.
“งามนอกดึงดูดตา
งามในดึงดูดจิต” ตรงกับหลักธรรมข้อใด
?
ก.
หิริ
โอตตัปปะ
ข.
ขันติ
โสรัจจะ
ค.
สติ
สัมปชัญญะ
ง.
กตัญญู
กตเวที
๗.
อดกลั้นความยากลำบากและอำนาจกิเลสได้
ชื่อว่ามีธรรมข้อใด ?
ก.
หิริ
ข.
โอตตัปปะ
ค.
ขันติ
ง.
โสรัจจะ
๘.
เพราะเหตุไร
มารดาบิดา จึงจัดเป็นบุคคลที่หาได้ยากในโลก
?
ก.
เพราะไม่เห็นแก่ตัว
ข.
เพราะให้มากกว่ารับ
ค.
เพราะไม่หวังตอบแทน
ง.
ถูกทุกข้อ
๙.
คนเรามักลืมบุญคุณคนง่ายๆ
พระพุทธศาสนาจึงสอนเรื่องใดไว้
?
ก.
ความกตัญญู
ข.
ความมีเมตตา
ค.
ความซื่อสัตย์
ง.
ความเสียสละ
๑๐. “หาความดีใส่หัวลูก
ดีกว่าหาเงินใส่กระเป๋าลูก”
สอนอะไร ?
ก.
รักลูกเหนือสิ่งใด
ข.
รักลูกให้ถูกทาง
ค.
รักลูกอย่าตามใจ
ง.
รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
๑๑.
พระแก้วมรกตที่พึ่งทางใจของคนไทย
ตรงกับพระรัตนตรัยใด ?
ก.
พระพุทธเจ้า
ข.
พระธรรม
ค.
พระสงฆ์
ง.
ถูกทุกข้อ
๑๒.
“นโม
ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส”
นอบน้อมใคร ?
ก.
พระพุทธเจ้า
ข.
พระธรรม
ค.
พระสงฆ์
ง.
ถูกทุกข้อ
๑๓.
หน้าที่หลักของพระสงฆ์
คืออะไร ?
ก.
เรียน
ปฏิบัติ ธุดงค์
ข.
เรียน
ปฏิบัติ สอน
ค.
เรียน
สอน สวดมนต์
ง.
ปฏิบัติ
สอน ทำพิธี
๑๔.
ผู้ใด
ชื่อว่าปฏิบัติตามโอวาทของพระพุทธเจ้า
๓ ข้อ ?
ก.
คนมีสติ
ข.
คนมีปัญญา
ค.
คนมีความรู้
ง.
คนมีความคิด
๑๕.
โอวาทของพระพุทธเจ้าข้อว่า
“ไม่ทำความชั่ว” ตรงกับข้อใด
?
ก.
ศีล
ข.
สมาธิ
ค.
ปัญญา
ง.
ไตรสิกขา
๑๖.
ทำอย่างไร
ถึงจะไม่ตกไปในที่ชั่ว ?
ก.
ปฏิบัติตามกฎหมาย
ข.
ปฏิบัติตามครูสอน
ค.
ปฏิบัติตามใจตน
ง.
ปฏิบัติตามธรรม
๑๗.
ข้อใด
จัดเป็นกายทุจริต ?
ก.
สั่งให้ฆ่า
ข.
สั่งให้ซื้อเสียง
ค.
สั่งให้สอบประวัติ
ง.
สั่งให้สร้างสถานการณ์
๑๘.
การพูดสร้างสถานการณ์
ให้คนเข้าใจผิด จัดเป็นทุจริตอะไร
?
ก.
กายทุจริต
ข.
วจีทุจริต
ค.
มโนทุจริต
ง.
ถูกทุกข้อ
๑๙.
สำนวนว่า
“ยุแยงตะแคงรั่ว” ตรงกับข้อใด
?
ก.
พูดเท็จ
ข.
พูดคำหยาบ
ค.
พูดส่อเสียด
ง.
พูดเพ้อเจ้อ
๒๐.
คนประเภทใด
ทำสังคมให้เกิดความแตกแยก
?
ก.
คนพูดให้ทะเลาะกัน
ข.
คนปั้นน้ำเป็นตัว
ค.
คนพูดกลับไปกลับมา
ง.
คนไม่มีวาจาสัตย์
๒๑.
ทำอย่างไร
คำพูดของคนพาลจึงจะไร้ค่า
?
ก.
อย่าใส่ใจ
ข.
พิจารณาเหมือนลมพัด
ค.
เก็บไว้ในใจ
ง.
ข้อ
ก.
และ
ข.
ถูก
๒๒.
“พลั้งปากเสียศีล
พลั้งตีนตกต้นไม้” เป็นทุจริตอะไร
?
ก.
กายทุจริต
ข.
วจีทุจริต
ค.
มโนทุจริต
ง.
ถูกทุกข้อ
๒๓.
ผู้ไม่คิดร้ายทำลายคนอื่นให้เดือดร้อน
ชื่อว่าประพฤติสุจริตใด ?
ก.
กายสุจริต
ข.
วจีสุจริต
ค.
มโนสุจริต
ง.
ถูกทุกข้อ
๒๔.
ข้อใด
ไม่ใช่ลักษณะของความหลงงมงาย
?
ก.
เชื่อผู้รู้ใกล้ตัว
ข.
เชื่อเหตุผล
ค.
เชื่อเรื่องเปลี่ยนชื่อ
ง.
เชื่อมั่นตัวเอง
๒๕.
ข้อใด
เป็นมูลเหตุของการคอรัปชั่น
?
ก.
โลภะ
ข.
โทสะ
ค.
โมหะ
ง.
ถูกทุกข้อ
๒๖.
ข้อใด
ช่วยลดความเห็นแก่ตัว ?
ก.
รู้จักพอเพียง
ข.
ไม่ยึดมั่นถือมั่น
ค.
คิดถึงอกเขาอกเรา
ง.
ถูกทุกข้อ
๒๗.
อย่างไร
ชื่อว่าไม่รอกินบุญเก่า ?
ก.
เก็บสมบัติไว้มากๆ
ข.
ส่งลูกเรียนสูงๆ
ค.
หมั่นบริจาค
ง.
เป็นพลเมืองดี
๒๘.
การทำบุญข้อใด
ลงทุนน้อย แต่กลับได้บุญมาก
?
ก.
ทานมัย
ข.
สีลมัย
ค.
ภาวนามัย
ง.
ข้อ
ข.
และ
ค.
ถูก
๒๙.
ข้อใด
ไม่ใช่ภาวนามัย ?
ก.
แผ่เมตตา
ข.
ปล่อยสัตว์
ค.
ไหว้พระสวดมนต์
ง.
ตั้งใจฟังเทศน์
๓๐.
การทำบุญบริจาคทาน
จัดเข้าในบุญกิริยาวัตถุข้อใด
?
ก.
ทานมัย
ข.
สีลมัย
ค.
ภาวนามัย
ง.
ถูกทุกข้อ
๓๑.
ข้อใด
เป็นเหตุแห่งความเจริญ ?
ก.
คบสัตบุรุษ
ข.
ฟังและตรองตามท่าน
ค.
ปฏิบัติตามธรรม
ง.
ถูกทุกข้อ
๓๒.
“แข่งเรือแข่งพายพอแข่งได้
แข่งบุญวาสนาแข่งกันไม่ได้”
ตรงกับธรรมข้อใด ?
ก.
คบหาสัตบุรุษ
ข.
ได้ทำบุญไว้ปางก่อน
ค.
ตั้งตนไว้ชอบ
ง.
อยู่ในประเทศสมควร
๓๓.
ข้อใด
ตรงกับอัตตสัมมาปณิธิ
ตั้งตนไว้ชอบ ?
ก.
สร้างบุญใหม่
ข.
กินบุญเก่า
ค.
คอยเฝ้าขอพร
ง.
อ้อนวอนเทวดา
๓๔.
“จะรักษาความเป็นกลางและยุติธรรม”
ต้องเว้นอะไร ?
ก.
อกุศล
ข.
อบายมุข
ค.
อคติ
ง.
อนันตริยกรรม
๓๕.
“คนนี้ไม่ถูกชะตาฉันเลย”
ตรงกับอคติข้อใด ?
ก.
ฉันทาคติ
ข.
โทสาคติ
ค.
โมหาคติ
ง.
ภยาคติ
๓๖.
ปธาน
คือความเพียร ๔ อย่าง คือมรรค
๘ ข้อใด ?
ก.
สัมมาทิฏฐิ
ข.
สัมมาสังกัปปะ
ค.
สัมมาวาจา
ง.
สัมมาวายามะ
๓๗.
ซื่อสัตย์
ตรงไปตรงมา เป็นอธิษฐานธรรมข้อใด
?
ก.
ปัญญา
ข.
สัจจะ
ค.
จาคะ
ง.
อุปสมะ
๓๘.
จะบรรลุจุดประสงค์ซึ่งไม่เหลือวิสัยได้
ด้วยธรรมอะไร ?
ก.
วุฑฒิ
๔
ข.
จักร
๔
ค.
อิทธิบาท
๔
ง.
ปธาน
๔
๓๙.
พรหมวิหารข้อใด
ควรแผ่ไปยังสัตว์ทั้งปวง
?
ก.
เมตตา
ข.
กรุณา
ค.
มุทิตา
ง.
อุเบกขา
๔๐.
ข้อใด
มีความหมายตรงกับคำว่า
“กรุณา” ?
ก.
ปรารถนาให้มีความสุข
ข.
ปรารถนาให้พ้นจากทุกข์
ค.
พลอยชื่นชมยินดีด้วย
ง.
วางตัวเฉยเป็นกลางๆ
๔๑.
“ปรารถนาสิ่งใด
ไม่ได้สมหวัง” จัดเป็นอริยสัจข้อใด
?
ก.
ทุกข์
ข.
สมุทัย
ค.
นิโรธ
ง.
มรรค
๔๒.
ข้อใด
เป็นอานิสงส์แห่งการฟังธรรม
?
ก.
ได้ฟังเรื่องใหม่
ข.
บรรเทาความสงสัย
ค.
มีความเห็นถูกต้อง
ง.
ถูกทุกข้อ
๔๓.
รู้จักจับจ่ายใช้สอยเก็บหอมรอมริบ
เป็นสัปปุริสธรรมข้อใด ?
ก.
รู้จักเหตุ
ข.
รู้จักผล
ค.
รู้จักตน
ง.
รู้จักประมาณ
๔๔.
“ใจป้ำ
คำดี มีกิจเห็น เป็นกันเอง”
ตรงกับหลักธรรมข้อใด ?
ก.
สังคหวัตถุ
ข.
ฆราวาสธรรม
ค.
อริยสัจ
ง.
อิทธิบาท
๔๕.
กินใช้อย่างพอเพียง
ไม่ฟุ้งเฟ้อนัก ไม่ให้ฝืดเคืองนัก
คือข้อใด ?
ก.
อุฏฐานสัมปทา
ข.
อารักขสัมปทา
ค.
กัลยาณมิตตตา
ง.
สมชีวิตา
๔๖.
คนที่ใช้จ่ายเกินตัวเรียกว่า
“ติดลบ” เพราะขาดธรรมข้อใด
?
ก.
อุฏฐานสัมปทา
ข.
อารักขสัมปทา
ค.
กัลยาณมิตตตา
ง.
สมชีวิตา
๔๗.
ข้อใด
เป็นความหมายของปิยวาจา ?
ก.
พูดหวานปานจะกลืน
ข.
พูดไพเราะก่อสามัคคี
ค.
พูดแทงใจดำ
ง.
พูดตรงไปตรงมา
๔๘.
“รู้จักปลง
ปล่อยวาง ทำจิตให้ผ่องใส
ไม่ขุ่นมัว” ตรงกับข้อใด ?
ก.
สัจจะ
ข.
ทมะ
ค.
ขันติ
ง.
จาคะ
๔๙.
“ให้ความเคารพ
เชื่อฟัง ช่วยเหลือ
เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ”
คือหน้าที่ของใคร ?
ก.
บุตรธิดา
ข.
ศิษย์
ค.
ครูอาจารย์
ง.
มารดาบิดา
๕๐.
ข้อใด
คืออบายมุข “เหตุเครื่องฉิบหาย”
?
ก.
ดื่มน้ำเมา
เสพสิ่งเสพติด
ข.
เที่ยวเตร่
ไม่ทำงาน
ค.
เล่นการพนัน
คบคนชั่ว
ง.
ถูกทุกข้อ
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen