Samstag, 12. Mai 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล_๒๖/ ๙. ปาปวรรค


. ปาปวคฺโค
คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙

๑๑๖.
อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ, ปาปา จิตฺตํ นิวารเย;

ทนฺธํ หิ กรโต ปุญฺญํ, ปาปสฺมึ รมตี มโนฯ

บุคคลพึงรีบทำความดี พึงห้ามจิตจากบาป
เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจย่อมยินดีในบาป. (:)

๑๑๗.
ปาปญฺเจ ปุริโส กยิรา, น นํ กยิรา ปุนปฺปุนํ;
น ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ, ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโยฯ

หากบุรุษพึงทำบาปไซร้ ไม่พึงทำบาป
นั้นบ่อยๆ ไม่พึงทำความพอใจในบาปนั้น
เพราะการสั่งสมบาปนำทุกข์มาให้. (:)


๑๑๘.
ปุญฺญญฺเจ ปุริโส กยิรา, กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ;
ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ, สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโยฯ

หากว่าบุรุษพึงทำบุญไซร้ พึงทำบุญ
นั้นบ่อยๆ พึงทำความพอใจในบุญนั้น
เพราะการสั่งสมบุญนำสุขมาให้. (:)

๑๑๙.
ปาโปปิ ปสฺสติ ภทฺรํ, ยาว ปาปํ น ปจฺจติ;

ยทา จ ปจฺจติ ปาปํ, อถ (ปาโป) ปาปานิ ปสฺสติฯ

แม้คนลามกย่อมเห็นความเจริญ
ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล
แต่เมื่อใดบาปย่อมให้ผล
คนลามกจึงเห็นบาป เมื่อนั้น. (:)

๑๒๐.
ภทฺโรปิ ปสฺสติ ปาปํ, ยาว ภทฺรํ น ปจฺจติ;

ยทา จ ปจฺจติ ภทฺรํ, อถ (ภโทฺร) ภทฺรานิ ปสฺสติฯ

แม้คนเจริญก็ย่อมเห็นบาป
ตราบเท่าที่ความเจริญยังไม่ให้ผล
แต่เมื่อใดความเจริญย่อมให้ผล
คนเจริญจึงเห็นความเจริญ เมื่อนั้น. (:)

๑๒๑.
มาวมญฺเญถ ปาปสฺส, น มตฺตํ อาคมิสฺสติ;

อุทพินฺทุนิปาเตน, อุทกุมฺโภปิ ปูรติ;

อาปูรติ พาโล ปาปสฺส, โถกํ โถกํปิ อาจินํฯ

บุคคลอย่าพึงดูหมิ่นบาปว่า บาปมีประมาณน้อย
[พอประมาณ] จักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วย
หยาดน้ำที่ตกทีละหยาดๆ [ฉันใด] คนพาลสั่งสมบาปแม้ทีละ
น้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบาป [ฉันนั้น]. (:)

๑๒๒.
มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส, น มตฺตํ อาคมิสฺสติ;

อุทพินฺทุนิปาเตน, อุทกุมฺโภปิ ปูรติ;

อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส, โถกํ โถกํปิ อาจินํฯ

บุคคลอย่าพึงดูหมิ่นบุญว่า บุญมีประมาณน้อยจักไม่มาถึง
แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตกทีละหยาดๆ
นักปราชญ์สั่งสมบุญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญ. (:)

๑๒๓.
วาณิโชว ภยํ มคฺคํ, อปฺปสตฺโถ มหทฺธโน;

วิสํ ชีวิตุกาโมว ปาปานิ ปริวชฺชเยฯ

ภิกษุพึงเว้นบาปดุจพ่อค้ามีพวกน้อย
มีทรัพย์มาก เว้นทางที่ควรกลัว
ดุจบุรุษผู้ใคร่ต่อชีวิตเว้นยาพิษ ฉะนั้น. (:)

๑๒๔.
ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส, หเรยฺย ปาณินา วิสํ;

นาพฺพณํ วิสมนฺเวติ, นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโตฯ

ถ้าที่ฝ่ามือไม่พึงมีแผลไซร้
บุคคลพึงนำยาพิษไปด้วยฝ่ามือได้
เพราะยาพิษย่อมไม่ซึมซาบฝ่ามือที่ไม่มีแผล
บาปย่อมไม่มีแก่คนไม่ทำ. (:)

๑๒๕.
โย อปฺปทุฏฺฐสฺส นรสฺส ทุสฺสติ,
สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคณสฺส;

ตเมว พาลํ ปจฺเจติ ปาปํ,
สุขุโม รโช ปฏิวาตํว ขิตฺโตฯ

ผู้ใดย่อมประทุษร้ายต่อคนผู้ไม่ประทุษร้าย
ผู้เป็นบุรุษหมดจด ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน
บาปย่อมกลับถึงผู้นั้นแหละ ผู้เป็นพาล
ดุจธุลีละเอียดที่บุคคลซัดทวนลมไป ฉะนั้น. (:๑๐)

๑๒๖.
คพฺภเมเก อุปปชฺชนฺติ, นิรยํ ปาปกมฺมิโน;

สคฺคํ สุคติโน ยนฺติ, ปรินิพฺพนฺติ อนาสวาฯ

คนบางพวกย่อมเข้าถึงครรภ์
บางพวกมีกรรมอันลามก ย่อมเข้าถึงนรก
ผู้ที่มีคติดีย่อมไปสู่สวรรค์
ผู้ที่ไม่มีอาสวะย่อมปรินิพพาน. (:๑๑)

๑๒๗.
น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ,
น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส;

น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส,
ยตฺรฏฺฐิโต มุญฺเจยฺย ปาปกมฺมาฯ

อากาศ ท่ามกลางสมุทร ช่องภูเขาอันเป็นที่เข้าไป
ส่วนแห่งแผ่นดินที่บุคคลสถิตอยู่แล้ว
พึงพ้นจากกรรมอันลามกได้ไม่มีเลย. (:๑๒)

๑๒๘.
น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ,
น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส;

น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส,
ยตฺรฏฺฐิตํ นปฺปสเหยฺย มจฺจุฯ


ปาปวคฺโค นวโม นิฏฺฐิโตฯ

อากาศ ท่ามกลางสมุทร ช่องภูเขาอันเป็นที่เข้าไป
ส่วนแห่งแผ่นดิน ที่บุคคลสถิตอยู่แล้ว
มัจจุพึงครอบงำไม่ได้ ไม่มีเลย. (:๑๓)

จบปาปวรรคที่ ๙

Keine Kommentare: