๑๓.
โลกวคฺโค
คาถาธรรมบท
โลกวรรคที่ ๑๓
๑๖๗.
หีนํ
ธมฺมํ น เสเวยฺย,
ปมาเทน
น สํวเส;
มิจฺฉาทิฏฺฐึ
น เสเวยฺย,
น
สิยา โลกวฑฺฒโนฯ
บุคคลไม่พึงเสพธรรมอันเลว
ไม่พึงอยู่ร่วมกับความ
ประมาท
ไม่พึงเสพมิจฉาทิฐิ
ไม่พึงเป็นคนรกโลก.
(๑๓:๑)
๑๖๘.
อุตฺติฏฺเฐ
นปฺปมชฺเชยฺย,
ธมฺมํ
สุจริตํ จเร;
ธมฺมจารี
สุขํ เสติ,
อสฺมึ
โลเก ปรมฺหิ จฯ
ภิกษุไม่พึงประมาทในบิณฑะที่ลุกพึงขึ้นยืนรับ
พึงประพฤติธรรมให้สุจริต
ผู้ประพฤติธรรมย่อม
อยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า.
(๑๓:๒)
๑๖๙.
ธมฺมํ
จเร สุจริตํ,
น
นํ ทุจฺจริตํ จเร;
ธมฺมจารี
สุขํ เสติ,
อสฺมึ
โลเก ปรมฺหิ จฯ
พึงประพฤติธรรมให้สุจริต
ไม่พึงประพฤติให้ทุจริต
ผู้ประพฤติ
ธรรม
ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า.
(๑๓:๓)
๑๗๐.
ยถา
ปุพฺพุฬกํ ปสฺเส,
ยถา
ปสฺเส มรีจิกํ;
เอวํ
โลกํ อเวกฺขนฺตํ,
มจฺจุราชา
น ปสฺสติฯ
มัจจุราชย่อมไม่เห็นบุคคลผู้พิจารณาเห็นโลก
ดุจบุคคลเห็นฟองน้ำเห็นพยับแดด
ฉะนั้น.
(๑๓:๔)
๑๗๑.
เอถ
ปสฺสถิมํ โลกํ,
จิตฺตํ
ราชรถูปมํ;
ยตฺถ
พาลา วิสีทนฺติ,
นตฺถิ
สงฺโค วิชานตํฯ
ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้อันวิจิตรเปรียบด้วยราชรถ
ที่พวกคนเขลาหมกอยู่
[แต่]
พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่.
(๑๓:๕)
๑๗๒.
โย
จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา,
ปจฺฉา
โส นปฺปมชฺชติ;
โสมํ
โลกํ ปภาเสติ,
อพฺภา
มุตฺโตว จนฺทิมาฯ
ก็ผู้ใดประมาทแล้วในกาลก่อน
ในภายหลังผู้
นั้นย่อมไม่ประมาท
เขาย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสว
เหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ
ฉะนั้น (๑๓:๖
๑๗๓.
ยสฺส
ปาปํ กตํ กมฺมํ,
กุสเลน
ปิถียติ;
โสมํ
โลกํ ปภาเสติ,
อพฺภา
มุตฺโตว จนฺทิมาฯ
ผู้ใดทำกรรมอันลามกผู้นั้นย่อมปิด
[ละ]
เสียได้ด้วยกุศล
บุคคลนั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสว
เหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ
ฉะนั้น.
(๑๓:๗)
๑๗๔.
อนฺธภูโต
อยํ โลโก,
ตนุเกตฺถ
วิปสฺสติ;
สกุโณ
ชาลมุตฺโตว,
อปฺโป
สคฺคาย คจฺฉติฯ
โลกนี้มืดมน
ในโลกนี้น้อยคนที่จะเห็นแจ้ง
สัตว์ไปสวรรค์ได้น้อยดุจนกพ้นจากข่าย.
(๑๓:๘)
๑๗๕.
หํสาทิจฺจปเถ
ยนฺติ,
อากาเส
ยนฺติ อิทฺธิยา;
นียนฺติ
ธีรา โลกมฺหา,
เชตฺวา
มารํ สวาหนํฯ
ฝูงหงส์ย่อมไปในทางพระอาทิตย์
ท่านผู้เจริญ
อิทธิบาทดีแล้ว
ย่อมไปในอากาศด้วยฤทธิ์
นักปราชญ์
ทั้งหลายชนะมารพร้อมทั้งพาหนะได้แล้ว
ย่อมออกไปจากโลก.
(๑๓:๙)
๑๗๖.
เอกํ
ธมฺมํ อตีตสฺส,
มุสาวาทิสฺส
ชนฺตุโน;
วิติณฺณปรโลกสฺส,
นตฺถิ
ปาปํ อการิยํฯ
คนล่วงธรรมอย่างเอกเสียแล้ว
เป็นคนมักพูดเท็จ ข้าม
โลกหน้าเสียแล้ว
ไม่พึงทำบาป ย่อมไม่มี.
(๑๓:๑๐)
๑๗๗.
น
เว กทริยา เทวโลกํ วชนฺติ,
พาลา
หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ;
ธีโร
จ ทานํ อนุโมทมาโน,
เตเนว
โส โหติ สุขี ปรตฺถฯ
คนตระหนี่ย่อมไปสู่เทวโลกไม่ได้เลย
คนพาลย่อมไม่สรรเสริญทานโดยแท้
ส่วนนักปราชญ์อนุโมทนาทาน
เพราะการอนุโมทนาทาน
นั่นเอง
ท่านย่อมเป็นผู้มีความสุขในโลกหน้า.
(๑๓:๑๑)
๑๗๘.
ปฐวฺยา
เอกรชฺเชน,
สคฺคสฺส
คมเนน วา;
สพฺพโลกาธิปจฺเจน,
โสตาปตฺติผลํ
วรํฯ
โลกวคฺโค
เตรสโม นิฏฺฐิโตฯ
โสดาปัตติผลประเสริฐกว่าความเป็นพระราชาเอกในแผ่นดิน
กว่าความไปสู่สวรรค์
และกว่าความเป็นอธิบดีในโลกทั้งปวง.
(๑๓:๑๒)
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen