Donnerstag, 4. April 2019

ปัญหาและเฉลย(วิชาพุทธานุพุทธประวัติ) นักธรรมชั้นเอก ปี 2546


ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันเสาร์ ที่ .. พฤศจิกายน .. ๒๕๔๖
---------------------------------

.
.
ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สำเร็จด้วยญาณอะไร ? เพราะเหตุไร ?
.
พระพุทธองค์ ครั้นตรัสรู้แล้ว ทรงเปล่งพระอุทานในยามสุดท้าย มีความว่าอย่างไร ?
ตอบ:
.
ด้วยอาสวักขยญาณ เพราะอาสวักขยญาณ คือความรู้เป็นเหตุสิ้นอาสวะ คือ เครื่องเศร้าหมองอันหมักหมมในจิตสันดาน
.
มีความว่า เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏชัดแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ พราหมณ์นั้นย่อมกำจัดเสนามาร คือชรา พยาธิ มรณะ เสียได้ ดุจพระอาทิตย์อุทัย กำจัดมืดทำอากาศให้สว่างขึ้นฉะนั้น

.
.
พระพุทธองค์ทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาที่ไหนเป็นแห่งแรก ? 
ทรงเห็นประโยชน์อะไรจึงทรงประดิษฐาน ที่นั้น ?

.
การที่พระพุทธองค์ทรงสามารถประดิษฐานพระพุทธศาสนาได้มั่นคง เพราะทรงสั่งสอนโดยอาการอย่างไรบ้าง ?
ตอบ:
.
ที่ กรุงราชคฤห์ เพราะทรงเห็นว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่บริบูรณ์มั่งคั่ง และมีศาสดาเจ้าลัทธิมาก ถ้าได้โปรดคนเหล่านี้ให้เกิดความเลื่อมใสได้แล้ว การเผยแผ่พระพุทธศาสนาก็สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะศาสดาเจ้าลัทธิต่างๆ นั้น ล้วนมีศิษยานุศิษย์มาก ผู้คนนับถือมาก ด้วยเหตุนี้จึงทรงเลือกเมืองนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนาเป็นแห่งแรก
.
โดยอาการ อย่าง คือ
) ทรงสั่งสอนให้ผู้ฟังรู้ยิ่ง เห็นจริงในธรรมที่ควรรู้ควรเห็น
) ทรงสั่งสอนมีเหตุมีผลที่ผู้ฟังอาจตรองตามให้เห็นจริงได้
) ทรงสั่งสอนเป็นอัศจรรย์ที่ผู้ปฏิบัติตาม ย่อมได้รับผลโดยสมควรแก่การปฏิบัติ

.
.
ความปรารถนาของพระเจ้าพิมพิสารข้อที่ ความว่าอย่างไร ?
.
ความปรารถนานั้นสำเร็จแก่พระองค์เมื่อไร ? ที่ไหน ?
ตอบ:
.
ความว่า ขอให้ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์
.
สำเร็จบริบูรณ์ในวันที่ได้ฟังอนุปุพพีกถาและอริยสัจ ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโปรด จนได้ดวงตาเห็นธรรม ที่สวนตาลหนุ่ม

.
.
พระวาจาที่พระมหาบุรุษทรงเปล่งในวันประสูตินั้น เรียกว่าอะไร ? ใจความโดยย่ออย่างไร ?
.
พระพุทธกิจ อย่าง มีอะไรบ้าง ? ข้อไหนที่ทรงบำเพ็ญเป็นนิจตราบเท่าปรินิพพาน ?
ตอบ:
.
เรียกว่า อาสภิวาจา ใจความย่อว่า เราเป็นผู้เลิศเป็นยอดแห่งโลก เราเป็นผู้เจริญผู้ใหญ่แห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก ความบังเกิดชาตินี้มี ที่สุด บัดนี้ ความบังเกิดอีกมิได้มี
.
มี อย่าง คือ
) เวลาเช้า เสด็จออกบิณฑบาต
) เวลาเย็น ทรงแสดงธรรม
) เวลาย่ำค่ำ ทรงโอวาทภิกษุ
) เวลาเที่ยงคืน ทรงตอบปัญหาเทวดา
) เวลาย่ำรุ่ง ทรงตรวจดูเวไนยสัตว์
ยกเว้นข้อเสด็จออกบิณฑบาต นอกนั้นทรงบำเพ็ญเป็นนิจ ตราบเท่าปรินิพพาน

.
.
โอวาทปาฏิโมกข์ทรงแสดงที่ไหน ? เมื่อไร ?
.
ข้อที่ทรงยกขันติขึ้นตรัสในโอวาทปาฏิโมกข์นั้น หมายความว่าอย่างไร ?
ตอบ:
.
ที่เวฬุวนาราม กรุงราชคฤห์ เมื่อวันเพ็ญเดือน
.
หมายความว่า ศาสนธรรมคำสอนของพระองค์เป็นไปเพื่อให้อดทนต่อเย็น ร้อน หิวระหาย ถ้อยคำให้ร้าย ใส่ความ ด่าว่า และทุกขเวทนาอันแรงกล้าเกิดแต่อาพาธ

.
.
อุปติสสปริพาชก เมื่อได้ฟังธรรมโดยย่อจากพระอัสสชิเถระแล้ว มีความเข้าใจในเนื้อความแห่งธรรมนั้นว่าอย่างไร ?
.
ครั้งพุทธกาล กุลบุตรผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในพระศาสนาขออนุญาตบวชจากมารดาบิดา เมื่อไม่ได้รับอนุญาตก็เสียใจ จึงทำการประท้วง กุลบุตรผู้นั้นคือใคร ? ประท้วงด้วยวิธีใด ?
ตอบ:
.
ว่าอย่างนี้คือ ธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ และจะสงบระงับไป เพราะเหตุดับก่อน พระศาสดา ทรงสั่งสอนให้ปฏิบัติ เพื่อสงบระงับเหตุแห่งธรรมเป็นเครื่องก่อให้เกิดทุกข์
.
กุลบุตรผู้นั้น คือพระรัฐบาล ประท้วงด้วยวิธีนอนไม่ลุกขึ้น และอดอาหาร

.
.
อนาถบิณฑิกเศรษฐี มีนามเดิมว่าอะไร ?
.
ท่านได้บรรลุคุณวิเศษอะไรในพระพุทธศาสนา ?
ตอบ:
.
สุทัตตะ
.
โสดาปัตติผล

.
.
ผู้ได้นามว่า ภัทเทกรัตตะ ผู้มีราตรีเดียวเจริญ เพราะประพฤติเช่นไร ?
.
พระเถระรูปใดได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เข้าใจอธิบายเรื่อง ผู้มีราตรีเดียวเจริญ นี้ให้พิสดาร ?
ตอบ:
.
เพราะเป็นผู้มีความเพียร ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันกลางคืน อยู่ด้วยความไม่ประมาท
.
พระมหากัจจายนเถระ

.
.
ปัญหาว่า หมู่มนุษย์ในโลกนี้ คือ ฤษี กษัตริย์ พราหมณ์ เป็นอันมาก อาศัยอะไร จึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา ใครเป็นผู้ถาม ?
.
พระศาสดาทรงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?
ตอบ:
.
ปุณณกมาณพ
.
ทรงพยากรณ์ว่า หมู่มนุษย์เหล่านั้นอยากได้ของที่ตนปรารถนา อาศัยของที่มีชราทรุดโทรม จึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา

๑๐.
๑๐.
พระพุทธดำรัสว่า ดูก่อนสุภัททะ ถ้าภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ จะพึงอยู่ดีอยู่ชอบแล้วไซร้ โลกก็จกไม่พึงว่างเปล่าจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้ คำว่า พระอรหันต์ ในที่นี้ หมายถึงใคร ?
๑๐.
โทณพราหมณ์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันแจกพระบรมสารีริกธาตุ มีใจความย่ออย่างไร ?
ตอบ:
๑๐.
หมายถึง พระขีณาสวอรหันต์
๑๐.
มีใจความย่อดังนี้
) พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญขันติธรรมและตำหนิในการที่จะทำ สงครามกัน
) ชวนให้สามัคคีร่วมใจกัน โดยแบ่งส่วนพระบรมสารีริกธาตุเท่า ๆ กัน ฯ

ผู้ออกข้อสอบ
:
. พระพรหมเวที
วัดไตรมิตรวิทยาราม


. พระเทพมงคลสุธี
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม


. พระศรีวชิรโมลี
วัดเทวราชกุญชร
ตรวจ/ปรับปรุง
:
สนามหลวงแผนกธรรม


Keine Kommentare: