๑.
๑.๑
พระปัญจวัคคีย์ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
เพราะฟังพระธรรมเทศนาชื่ออะไร
?
๑.๒
พระธรรมเทศนานั้นโดยย่อว่าด้วยเรื่องอะไร
?
ตอบ:
๑.๑
ชื่อ
อนัตตลักขณสูตร
๑.๒
ว่าด้วย
รูป เวทนา สัญญา สังขาร
วิญญาณ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา
๒.
๒.๑
พระสาวกรูปใดที่ได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่า
เป็นยอดแห่งภิกษุผู้มีบริวารมาก
?
๒.๒
ความเป็นผู้มีบริวารมากนั้น
เป็นผลเกิดจากอะไร ?
ตอบ:
๒.๑
พระอุรุเวลกัสสปะ
๒.๒
เกิดจากเหตุ
คือความรู้จักเอาใจบริษัท
รู้จักสงเคราะห์ด้วยอามิสบ้าง
ด้วยธรรมบ้าง
๓.
๓.๑
คำถามว่า
"
ผู้มีอายุ
อินทรีย์ของท่านหมดจดผ่องใส
ท่านบวชจำเพาะใคร
ใครเป็นศาสดาผู้สอนของท่าน
ท่านชอบใจธรรมของใคร "
เป็นคำถาม ของใคร
?
๓.๒
ใครเป็นผู้ตอบ
?
ตอบว่าอย่างไร
?
ตอบ:
๓.๑
อุปติสสปริพาชก
๓.๒
พระอัสสชิเป็นผู้ตอบ
ตอบว่า "
ผู้มีอายุ
เราบวชจำเพาะพระมหาสมณะ
ผู้เป็นโอรสศากยราชออกจากศากยสกุล
ท่านเป็นศาสดาของเรา
เราชอบใจธรรมของท่าน "
๔.
๔.๑
ทิฏฐิแสดงความเห็นว่า
"
สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้า ไม่ชอบใจทั้งหมด
"
ใครพูดกับใคร
?
๔.๒
ตามทิฏฐิแสดงความเห็นนั้น
มีคำกล่าวตอบว่าอย่างไร
?
ตอบ:
๔.๑
ปริพาชกทีฆนขะ
อัคคิเวสสนโคตร ทูลกับพระศาสดา
๔.๒
มีพระดำรัสตอบว่า
"
อัคคิเวสสนะ
ถ้าอย่างนั้น ความเห็นอย่างนั้น
ก็ต้องไม่ควรแก่ท่าน
ท่านก็ต้องไม่ชอบความเห็นอย่างนั้น
"
๕.
๕.๑
พระศาสดาทรงยกย่องพระสาวกรูปใดว่า
มีธรรมเครื่องอยู่เสมอด้วยพระองค์
?
๕.๒
พระองค์ทรงปฏิบัติต่อพระสาวกรูปนั้นโดยพระอาการอย่างไร
?
ตอบ:
๕.๑
พระมหากัสสปะ
๕.๒
ทรงรับผ้าสังฆาฏิของท่านไปทรง
และประทานผ้าสังฆาฏิของพระองค์ให้แก่ท่าน
๖.
๖.๑
พระศาสดาทรงทราบความขัดข้องจากพระสาวกรูปใด
จึงได้ทรงพระอนุญาตให้สงฆ์ปัญจวรรคทำการอุปสมบทในปัจจันตชนบทได้
?
๖.๒
ท่านได้รับยกย่องว่าเลิศทางไหน
?
ตอบ:
๖.๑
พระโสณกุฏิกัณณะ
๖.๒
เป็นผู้มีวาจาไพเราะ
๗.
๗.๑
พระรัฐบาล
และพระนันทะ ออกบวชเพราะเหตุใด
?
๗.๒
พระโมฆราช
และพระอุบาลี
ได้รับการยกย่องว่าเลิศในทางไหน
?
ตอบ:
๗.๑
พระรัฐบาล
ออกบวชเพราะศรัทธา
พระนันทะ
ออกบวชเพราะจำใจ
๗.๒
พระโมฆราช
ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง
พระอุบาลี
ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ทรงพระวินัย
ศาสนพิธี
๘.
๘.๑
กุศลพิธี
และบุญพิธี คือพิธีเช่นไร
?
๘.๒
วันเทโวโรหณะ
คือวันอะไร ?
มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันอะไร
?
ตอบ:
๘.๑
กุศลพิธี
คือพิธีกรรมต่าง ๆ
อันเกี่ยวด้วยการอบรมความดีงามทาง พระพุทธศาสนาเฉพาะตัวบุคคล
เช่น พิธีรักษาอุโบสถศีล
เป็นต้น
บุญพิธี
คือพิธีทำบุญงานมงคล
และงานอวมงคล
๘.๒
คือวันที่พระองค์เสด็จลงจากเทวโลก
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันพระเจ้าเปิดโลก
๙.
๙.๑
พิธีสวดพระอภิธรรมมีกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
๙.๒
การสวดมาติกาคือการสวดเรื่องอะไร
?
ตอบ:
๙.๑
มี
๒ อย่างคือ
๑)
สวดประจำยามหน้าศพ
๒)
สวดหน้าไฟในขณะฌาปนกิจ
๙.๒
คือการสวดบทมาติกาของพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์หรือที่เรียกว่า
"
สัตตัปปกรณาภิธรรม
"
ซึ่งมีการบังสุกุลเป็นที่สุด
เป็นประเพณีนิยมจัดให้พระสงฆ์สวดในงานทำบุญหน้าศพอย่างหนึ่ง
เรียกโดยโวหาร ทางราชการในงานหลวงว่า
"
สดับปกรณ์
"
แต่ราษฎรสามัญทั่วไปเรียกว่า
"
สวดมาติกา
"
๑๐.
๑๐.๑
ผ้าป่า
และผ้าอัจเจกจีวร ได้แก่ผ้าเช่นไร
?
๑๐.๒
การทอดผ้าป่ากำหนดกาลเวลาทอดไว้หรือไม่
?
ตอบ:
๑๐.๑
ผ้าป่า
หมายถึง ผ้าเปื้อนฝุ่นที่ไม่มีเจ้าของหวงเเหน
ทิ้งอยู่ตามป่าดงบ้าง
ตามป่าช้าบ้าง
ตามถนนหนทางและห้อยย้อยอยู่ตามกิ่งไม้บ้าง
ผ้าอัจเจกจีวร
หมายถึง ผ้าจำนำพรรษาที่ทายกรีบด่วนถวายก่อนกำหนดกาล
คือถวายก่อนออกพรรษา
๑๐.๒
ไม่มีกำหนดกาลเวลา
มีศรัทธาเมื่อไรก็ถวายได้
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen