๒๖๑. พระปรีชาญาณ
อายํ ขยํ สยํ ชญฺญา, กตากตํ สยํ ชญฺญา;
นิคฺคเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคเห ปคฺคหารหํฯ
“พระราชาทรงทราบความเจริญ
และความเสื่อมด้วยพระองค์เอง,
ทรงทราบพระกรณียกิจทีทรงทำแล้ว
หรือมิได้กระทำแล้วด้วยพระองค์เอง;
พระองค์ทรงข่มบุคคลที่ควรข่ม,
และทรงยกย่องบุคคลที่ควรยกย่อง.“
(กวิทปฺปณนีติ ๒๖๑)
..
ศัพท์น่ารู้ :
อายํ: (กำไร, รายได้, ผลประโยชน์, ความเจริญ) อาย+อํ ป.
ขยํ: (ความสิ้นไป, ความเสื่อม) ขย+อํ ป.
สยํ: (เอง, ด้วยตนเอง) สย+อํ
ชญฺญา: (พึงทราบ, รู้) ญา+นา+เอยฺย
กตากตํ: (กิจที่ได้ทำและมิได้ทำ) กตากต+อํ
สยํ: (เอง, ด้วยตนเอง) สย+อํ
ชญฺญา: (พึงทราบ, รู้) ญา+นา+เอยฺย
นิคฺคเห: (พึงข่ม, ตำหนิ) นิ+คห+อ+เอยฺย ภูวาทิคณะ กัตตุวาจก
นิคฺคหารหํ: (ที่ควรข่ม, ควรตำหนิ) นิคฺคหารห+อํ
ปคฺคเห: (พึงยกย่อง, ชมเชย) ป+คห+อ+เอยฺย ภูวาทิคณะ กัตตุวาจก
ปคฺคหารหํ: (ที่ควรยกย่อง, ควรชมเชย) ปคฺคหารห+อํ
..
ต่อไปนี้จะได้ยกคาถาเดียวกันนี้จากนีติอื่นมาเปรียบเทียบให้เห็นการใช้ศัพท์ เพื่อความเป็นฉลาดในอักษรต่อไป
ในโลกนีติ (โลกนีติ ๑๒๓) มีข้อความแตกต่างกันนิดหน่อย ดังนี้
อายํ ขยํ สยํ ชญฺญา,
ราชา สยํ กตากตํ;
นิคฺคเห นิคฺคเหตพฺพํ,
ปคฺคเห ปคฺคหารหํฯ
ในธัมมนีติ (ธมฺมนีติ ๑๘๖) ท่านใช้เป็น นิคฺคณฺเห เป็นคหาทิคณะ กัตตุวาจก ดังนี้
สยํ อายํ วยํ ชญฺญา,
สยํ ชญฺญา กตากตํ;
นิคฺคณฺเห นิคฺคณฺหารหํ,
ปคฺคณฺเห ปคฺคณฺหารหํฯ
ส่วนในมหารหนีติ (มหารหนีติ ๒๕๑) ในครึ่งคาถาหลัง ค่อนข้างแปลกจากนีติอื่นอย่างมาก ดังนี้
สยํ อายํ วยํ รญฺญา,
สยํ ชญฺญา กตากตํ;
อตฺตนาว ภวกฺเขยฺย,
กตานิ อกตานิ จ ฯ
..
กวิทัปปณนีติ ราชกัณฑ์ คาถา ๒๖๑, พระปรีชาญาณของจอมแผ่นดิน
เหมือนและต่างกันอย่างไร?
ปคฺคณฺเห (พึงยกย่อง, ชมเชย) ป+คห+ณฺหา+เอยฺย คหาทิคณะ กัตตุวาจก
ปคฺคเห (พึงยกย่อง, ชมเชย) ป+คห+อ+เอยฺย ภูวาทิคณะ กัตตุวาจก
เพราะในธาตฺวัตถสังคหะ (คาถา ๙๔) กล่าวว่า
„คโห อาทาเน คภูจุ,“
หมายถึง คห ธาตุเป็นไปในอรรถว่า ถือเอา เป็นได้ ๓ หมวดธาตุคือ คหาทิ. ภูวาทิ. และ จุราทิ.
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen