Sonntag, 30. Januar 2022

๕๙.คนดีชอบแต่คนพาลไม่ชอบ

๕๙. คนดีชอบแต่คนพาลไม่ชอบ


โอวาเทยฺยานุสาเสยฺย, ปาปกา นิวารเย;

สตญฺหิ โส ปิโย โหติ, อสตํ โหติ อปฺปิโยฯ


ผู้ตักเตือนและตามสั่งสอน, 

และคอยห้ามจากบาปอกุศล, 

ย่อมเป็นที่รักของสัตบุรุษ, 

แต่ไม่เป็นที่รักของอสัตบุรุษ.“


(โลกนีติ หมวดคนดี คาถาที่ ๕๙, ธัมมนีติ ๑๗๘, กวิทัปปณีติ ๑๙๒, ขุ. . ๒๕/๑๖, ขุ. เถร. ๒๖/๓๖๙)


..


ศัพท์น่ารู้ :


โอวาเทยฺยานุสาเสยฺย ตัดบทเป็น โอวาเทยฺย+อนุสาเสยฺย 

โอวาเทยฺย (กล่าวสอน, โอวาท) อว+√วท+เณ+เอยฺย จุราทิ. กัตตุ. แปลง อว เป็น โอ ได้บ้าง ด้วยสูตรว่า โอ อวสฺส. (รู ๔๕)

อนุสาเสยฺย (ตามสอน, สั่งสอน) อนุ+√สาส++เอยฺย ภูวาทิ. กัตตุ.

ปาปกา (จากบาป, ความชั่ว) ปาปก+สฺมา, (หมายเหตุ: เดิมต้นฉบับเป็น คาปกา ได้แก้เป็น ปาปกา เห็นว่าสมควรกว่า แต่ในพระบาฬีและกวิทัปปณนีติ เป็น อสพฺภา แปลว่า จากคนชั่ว, อสัตบุรุษ, ส่วนในธัมมนีติ เป็น อสปฺปายา)

นิวารเย (ห้าม,​ ปราม,​ ขัดขวาง) นิ+√วร+ณย+เอยฺย จุราทิ. กัตตุ.

สตญฺหิ =  สตํ+หิ, สตํ (ของคนดี, สัปบุรุษ ., บัณฑิต, พระอริยเจ้า) สนฺต+นํ, ให้เอา นฺต เป็น นฺตุ ก่อน ด้วยสูตร - เสเสตุ นฺตุว. (รู ๑๐๘) = สนฺตุ+นํ, แล้วจึงแปลง นฺตุ กับ นํ เป็น ตํ ด้วยสูตร – “นํมฺหิ ตํ วา. (รู ๑๐๔) สำเร็จเป็น สตํ.

โส (ผูนั้น, เขา) +สิ สัพพนาม

โหติ (ย่อมเป็น) √หู++ติ ภูวาทิ. กัตตุ.

อสตํ (ของคนชั่ว, อสัตบุรุษ .) อสนฺต+นํ



ส่วนในพระบาฬีและกวิทัปปณีติ มีข้อความดังนี้


โอวเทยฺยานุสาเสยฺย, อสพฺภา นิวารเย;

สตญฺหิ โส ปิโย โหติ, อสตํ โหติ อปฺปิโยฯ


แปลว่า:


"บุคคลใด ย่อมให้โอวาท ย่อมสั่งสอน, 

และห้ามผู้อื่นจากธรรมที่มิใช่ของสัตบุรุษ; 

บุคคลนั้นแล ย่อมเป็นที่รักใคร่ของเหล่าสัตบุรุษ, 

แต่จะไม่เป็นที่รักใคร่ของพวกอสัตบุรุษทั้งหลาย.“


..


 

Keine Kommentare: