๔๗. ผู้นี้เป็นบัณฑิตได้ฤๅ
คุณสมฺปนฺนลงฺกาโร, สพฺพสตฺตหิตาวโห;
ปรตฺตตฺถํ น จเรยฺย, กุโต โส ปณฺฑิโต ภเว.
ผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมเป็นเครื่องประดับ
อาจนำประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งมวลได้,
ถ้าไม่ประพฤติประโยชน์เพื่อตนและผู้อื่นเสียแล้ว
เขาจะพึงเป็น บัณฑิต ได้แต่ที่ไหน.
(ธรรมนีติ ปัญญากถา ๔๗, มหารหนีติ ๕๔)
--
ศัพท์น่ารู้ :
คุณสมฺปนฺนลงฺกาโร (ผู้ถึงพร้อมด้วยคุณเป็นเครื่องประดับ) คุณ+สมฺปนฺน+อลงฺการ > คุณสมฺปนฺนลงฺการ+สิ
สพฺพสตฺตหิตาวโห (ผู้นำประโยชน์เกื้อกูลมาให้แก่สัตว์ทั้งปวง) สพฺพ+สตฺต >สพฺพสตฺต, หิต+อาวห > หิตอาวห = สพฺพสตฺต+หิตาวห > สพฺพสตฺตหิตาวห+สิ
ปรตฺตตฺถํ (ซึ่งประโยชน์ของเพื่อและเพื่อผู้อื่น) ปร+อตฺต+อตฺถ > ปรตฺตตฺถ+อํ
น (ไม่, หามิได้) นิบาตบอกปฏิเสธ
จเรยฺย (ประพฤติ, จรไป) จร+อ+เอยฺย ภูวาทิง กัตตุ.
กุโต (แต่ที่ไหน, อย่างไรเล่า?) กึ+โต ปัจจัย, อัพยยศัพท์ (อ.)
โส (นั้น, เชา) ต+สิ สัพพนาม
ปณฺฑิโต (บัณฑิต, ผู้มีปัญญา) ปณฺฑิต+สิ
ภเว (เป็น, อยู่, คือ) ภู+อ+เอยฺย ภูวาทิ. กัตตุ.
--
อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้
ผู้มีความสะพรั่งพร้อมด้วยคุณเป็นเครื่องประดับ
เป็นผู้อาจนำมาซึ่งประโยชน์แก่สรรพสัตว์
แต่ไม่ประพฤติประโยชน์ให้แก่ตนแลผู้อื่น
ดั่งฤาจะนับเป็นบัณฑิตได้.
--
อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้...
ผู้ประดับประดาตนด้วยคุณธรรม
เป็นผู้ทำประโยชน์แก่สรรพสัตว์ได้
แต่ถถ้าไมทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน
จะจัดว่าเป็นบัณฑิตได้อย่างไร.
--

Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen