๔๘. วิถีของนักปราชญ์
สปรตฺถํ จเร ธีโร, อสกฺโกนฺโต สกํ จเร;
ตมฺปิเจว อสกฺโกนฺโต, ปาปาตฺตานํ วิโยชเย.
นักปราชญ์พึงประพฤติประโยชน์เพื่อผู้อื่น
เมื่อไม่อาจทำได้ พึงประพฤติประโยชน์เพื่อตน
เมื่อไม่อาจประพฤติประโยชน์เพื่อตนแม้นั้นได้
ก็พึงหักห้ามตนมิให้ทำกรรมชั่วเถิด.
(ธรรมนีติ ปัญญากถา ๔๘, มหารหนีติ ๕๕)
--
ศัพท์น่ารู้ :
สปรตฺถํ (ประโยชน์ตนและอื่น) สก+ปร+อตฺถ > สปรตฺถ+อํ
จเร (ประพฤติ, เที่ยวไป, จร) จร+อ+เอยฺย ภูวาทิ. กัตตุ.
ธีโร (นักปราชญ์, ธีรชน, คนมีปัญญา) ธีร+สิ
อสกฺโกนฺโต (ไม่อาจอยู่, ไม่สามารถ) สก+โอ+อนฺต > สกฺโกนฺต+สิ, น+สกฺโกนฺโต = อสกฺโกนฺโต.
สกํ (ของตน, ที่เป็นของตน) สก+อํ
ตมฺปิเจว (และแม้..นั่นเทียว) ตํ+อปิจ+เอว, ในมหารหนีติ เป็น ตถาปิจ
ปาปาตฺตานํ ตัดบทเป็น ปาปา (จากบาป, จากความชั่ว) +อตฺตานํ (ซึ่งตน)
วิโยชเย (แยก, ให้แยกออก, ไม่ประกอบ, ปราศจากการประกอบไว้, พรากออก) วิ+ยุช+ณย+เอยฺย จุราทิ. กัตตุ/เหตุกัตตุ.
--
อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้
นักปราชญ์ พึงประพฤติประโยชน์ทั้งของตน
แลของผู้อื่น เมื่อไม่สามารถ จึ่งพึงประพฤติ
ประโยชน์ของตน แม้เท่านั้นยังไม่สามารถไซร์
พึงสงวนตนไว้จากความชั่วเสีย.
--
อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้...
ธรรมดานักปราชญ์ ย่อมประพฤติประโยชน์ตน
ประโยชน์ผู้อื่น, เมื่อไม่สามารถก็ประพฤติแต่ประโยชน์ตน,
แม้อย่างนั้นก็ยังไม่สามารถ, ก็ต้องห้ามตนไม่ให้ทำชั่ว.
--

Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen