Sonntag, 23. April 2023

๑๕๙. นารีผู้ประเสริฐ

๑๕๙. นารีผู้ประเสริฐ


ธมฺเมสุ ปติฎฺฐา นิจฺจํ, สยเนสุ วณฺณิภา;

กุเลสุ ภาตรํ วาจี, ยา นารี เสฎฺฐสมฺมตา.


หญิงใดดำรงตนอยู่ในธรรมเป็นนิจ

เวลาจะนอน มีรัศมีเปล่งปลั่ง

เวลานั่ง กล่าวสอนพี่น้องในตระกูล

หญิงนั้น บัณฑิตนับว่านารีผู้ประเสริฐ“.


(ธรรมนีติ อิตถีกถา ๑๕๙)


--


ศัพท์น่ารู้ :


ธมฺเมสุ (ใสธรรม .) ธมฺม+สุ

ปติฎฺฐา (ดำรง, ตั้งอยู่) ปติฏฺฐา+สิ

นิจฺจํ (ประจำ,​ เนืองนิจ, เสมอ, แน่นอน) นิจฺจ+อํ, หรือ นิจฺจํ เป็นนิบาต ก็ได้ใช้เป็นกาลสัตตมี

สยเนสุ (ในเวลานอน ., กาลพักผ่อน, ในเวลานั่งและเวลานอน .) สยน+สุ 

(ด้วย, และ) เป็นนิบาต

วณฺณิภา (มีวรรณะงาม, มีรัศมีเปล่งปลั่ง) วณฺณ+อาภา > วณฺณิภา+สิ

กุเลสุ (ในตระกูล . ) กุล+สุ บางฉบับเป็น กุสเลสุ (ในกุศล .)

ภาตรํ (พี่ชายน้องชาย, พี่น้องชายหญิง) ภาตุ+อํ เป็น ภาตรํ, 

วาจี (บอก-, ตักเตือน-, กล่าวสอน-, โอวาท) วาจา+อี ปัจจัยในตัทธิต รวมเป็น วาจี แปลว่า ผู้มีวาจา, ผู้มีคำพูด, หรือเป็น วจ+ณี ปัจจัย (ผู้มีปกติกล่าว) ก็ได้.

ยา นารี (นารีใด, หญิงใด), +สิ = ยา (ใด) เป็นสัพพนาม, นารี+สิ = นารี (หญิง, สตรี)

เสฎฺฐสมฺมตา (ถูกรู้แล้วว่าเป็นผู้ประเสริฐ, ยอมกันแล้วว่าเป็นหญิงที่ประเสริฐ) เสฏฺฐ (ประเสริฐ) + สมฺมต (อันบุคคลรู้พร้อมแล้ว, ทราบกันแล้วด้วยดี) > เสฏฺฐสมฺมต+อา > เสฏฺฐสมฺมตา+สิ


.

--


ในโลกนีติ คาถา ๑๐๖ ท่านได้รวมคาถา ๑๕๘ และ ๑๕๙ ในธัมมนีติไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งมีข้อความที่ค่อนข้างชัดเจน และพิศดาร พร้อมกันนี้ ได้นำคำแปลจากโลกนีติไตรพากย์มาประกอบไว้ เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาของท่านทั้งหลายที่สนใจดัวย ดังนี้.


ภุตฺเตสุ มณฺเฑสุ ชนีว กนฺตินี,

คุยฺเห ฐาเน ภคินีว หิริณี;

กมฺเมสุ ปตฺเตสุ กโรติ ทาสีว,

ภเยสุ มนฺตี สยเนสุ รามเย;

รูปีสุ สิกฺขี กุปเนสุ ขนฺตินี,

สา นารี เสฎฺฐาติ วทนฺติ ปณฺฑิตา;

กายสฺส เภทา ทิเว ภเวยฺย สา.


หญิงใดในยามเสพอาหารและยามแต่งกาย มีความเปรมปรีดิ์ดังมารดา

สิ่งไรซึ่งควรปิดบังก็ละอายดุจน้องหญิง ยามกระทำกิจหรือยามเข้าหาสามี

ก็มีความเคารพดุจทาสี ยามเกิดภัยก็มีความคิด ยามนอนก็เป็นที่น่ารื่นรมย์

ยาม [สามี] เห็นหน้าก็เสงี่ยมงาม และในยาม [สามี] โกรธก็อดทน หญิงชนิดนี้

ปราชญ์กล่าวว่า ประเสริฐสุด นางนั้นครั้นทำลายชีพแล้วจะไปสู่เทวโลก.



--


อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้


แลดำรงในธรรมเป็นนิจ 

เวลาจะนอนก็มีรัศมีเปล่งปลั่ง 

สังสอนพี่น้องในความดี 

นารีเช่นนี้ ยอมกันแล้วว่านางประเสริฐ“.



--


อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้...


นางนั้นดำรงมั่นในธรรมเป็นนิตย์

เวลานอนก็มีรัศมีเปล่งปลั่ง

เวลานั่งก็สอนพี่น้องในความความดี

นารีเช่นนี้ ท่านยอมรับกันแล้วว่านางแก้ว“.


--


 

Keine Kommentare: