Donnerstag, 17. August 2023

๒๖๗. สังคหวัตถุธรรม ๔


 ๒๖๗. สังคหวัตถุธรรม


ทานํ อตฺถจริยา ปิย-, วาจา อตฺตสมํปิ ;

สงฺคหา จตุโร อิเม, มุนินฺเทน ปกาสิตา.


ธรรมเครื่องสงเคราะห์ ประการ เหล่านี้ คือ

การแบ่งปัน การประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์

การเจรจาน่ารัก และความเป็นผู้มีตนสม่ำเสมอ

อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นจอมมุนีทรงประกาศไว้แล้ว.


(ธรรมนีติ ราชธรรมกถา ๒๖๗, กวิทัปปณนีติ ๒๕๒, นรทักขทีปนี ๑๔๑, องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๓๒, ขุ. ชา. ๒๘/๑๖๒)


--


ศัพท์น่ารู้ :


ทานํ (การให้ปัน) ทาน+สิ นป.

อตฺถจริยา (การประพฤติประโยชน์) อตฺถ+จริยา > อตฺถจริยา+สิ อิต.


ปิยวาจา (เจรจาวาจาเป็นอ่อนหวาน, พูดคำที่ไพเราะ, วาจาเป็นที่รัก, -น่ารัก) ปิย+วาจา > ปิยวาจา+สิ  อิต.

อตฺตสมํปิ ตัดบทเป็น อตฺตสมํ+อปิ (แม้ความเป็นผู้มีตนเสมอ, -เสมอแห่งตน?) อตฺต+สม > อตฺตสม+สิ นป.

สงฺคหา (การสงเคราะห์ ธรรมเป็นเครื่องสงเคราะห์ .) สงฺคห+โย 

จตุโร (สี่) จตุ+โย  สังขยาสัพพนาม

อิเม (เหล่านี้) อิม+โย สัพพนาม

มุนินฺเทน (อันพระผู้เป็นจอมแห่งพระมุนี, อันพระพุทธเจ้า) มุนิ+อินฺท > มุนินฺท+นา 

ปกาสิตา: (ประกาศแล้ว, กล่าวแล้ว, ตรัสไว้แล้ว) +√กาส+อิ+ > ปกาสิต+โย



คาถานี้เข้าใจว่า เป็นคาถาที่ท่านโบราณาจารย์แต่งขึ้น เป็นบทขัด สังคหวัตถุธรรม ประการ ก็อาจเป็นได้ หรือไม่ก็เพื่อให้จดจำสังคหธรรมสี่ประการให้ง่าย เพราะมีคำว่า มุนินฺเทน ปกาสิตา ซึ่งแปลว่า อันพระจอมมุนีได้ตรัสไว้แล้ว.


ส่วนสังหควัตถุธรรม ที่มาในพระบาฬี องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๓๒, และ ขุ. ชา. ๒๘/๑๖๒ มีข้อความ ดังนี้.



ทานญฺจ เปยฺยวชฺชญฺจ,  อตฺถจริยา ยา อิธ;

สมานตฺตตา ธมฺเมสุ,  ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;

เอเต โข สงฺคหา โลเก,  รถสฺสาณีว ยายโตฯ


"การให้ ความเป็นผู้มีวาจาน่ารัก  

ความประพฤติประโยชน์ในโลกนี้  

ความเป็นผู้มีตนสม่ำเสมอในธรรมนั้นๆ ตามสมควร  

ธรรมเหล่านั้นแล เป็นเครื่องสงเคราะห์โลก

ประดุจสลักเพลาควบคุมรถที่แล่นไปอยู่ไว้ได้ ฉะนั้น.

และทรงตรัสบอกถึงโทษและอานิสงส์แก่ผู้ประพฤติตามสังคหวัตถุธรรมทั้ง ประการไว้ว่า 


เอเต สงฺคหา นาสฺสุ, มาตา ปุตฺตการณา;

ลเภถ มานํ ปูชํ วา, ปิตา วา ปุตฺตการณา


ยสฺมา สงฺคหา เอเต, สมเวกฺขนฺติ ปณฺฑิตา;

ตสฺมา มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ, ปาสํสา ภวนฺติ เต


ถ้าธรรมเครื่องสงเคราะห์เหล่านี้ ไม่พึงมีไซร์

มารดาหรือบิดาไม่พึงได้ความนับถือหรือบูชา

เพราะเหตุแห่งบุตร.


ก็เพราะเหตุที่ บัณฑิตพิจารณาเห็นธรรมเครื่องสงเคราะห์เหล่านี้

ฉะนั้น พวกเขาจึงถึงความเป็นใหญ่ และเป็นที่นาสรรเสริญ.



--


อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ (พากย์ธัมมนีติ) ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้



การเผื่อแผ่ ประพฤติประโยชน์ วาจาน่ารัก

ความมีตนเสมอไม่ถือตัว ธรรม เหล่านี้แล

เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว(โลกไว้) อันพระจอมปราชญ์

ประกาศแล้ว.


--


อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้..


การเผื่อแผ่ การประพฤติประโยชน์แก่กัน

วาจาน่ารัก วางตนเสมอต้นเสมอปลาย

ทั้ง นี้เป็นเครื่องยึดน้ำใจโลกไว้ได้ ที่พระพุทธเจ้า

ผู้เป็นจอมปราชญ์ทรงประกาศไว้.


--

Keine Kommentare: