๓๕๒. คนโกรธขาดเหตุผล
โกโธ อตฺถํ น ชานาติ, โกโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;
อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โกโธ สหเต นรํ.
คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ
คนโกรธย่อมไม่เห็นธรรม
ความโกรธครอบงำคนใด(เมื่อใด)
ความมืดบอดย่อมมี(แก่เขา)เมื่อนั้น.
(ธรรมนีติ ปกิณณกกถา ๓๕๒)
--
ศัพท์น่ารู้ :
โกโธ (ผู้โกรธ, คนมีความโกรธ) โกธ+สิ
อตฺถํ (อรรถ, ประโยชน์, ผล) อตฺถ+อํ
น (ไม่, หามิได้) นิบาตบอกปฏิเสธ
ชานาติ (รู้, ทราบ) √ญา+นา+ติ กิยาทิ. กัตตุ.
ธมฺมํ (ธรรม, เหตุ) ธมฺม+อํ
น ปสฺสติ (ย่อมไม่เห็น) ทิส+อ+ติ ภูวาทิ. กัตตุ. แปลง ทิส เป็น ปสฺส ด้วยสูตรว่า ทิสสฺส ปสฺส ทิสฺส ทกฺขา วา. (รู ๔๘๓)
อนฺธตมํ (ความมืดบอด) อนฺธ+ตม > อนฺธตม+สิ
ตทา (ในกาลนั้น) ต+ทา ปัจจัย ใช้ในอรรถสัตตมีวิภัตติ (กาลสัตตมี) จัดเป็น อัพยยศัพท์ หรือ นิบาต
โหติ (มี, เป็น) √หู+อ+ติ ภูวาทิ. กัตตุ.
ยํ (ใด) ย+อํ สัพพนาม
โกโธ (ความโกรธ) โกธ+สิ
สหเต (อดทน,ครอบงำ) √สห+อ+เต ภูวาทิ. กัตตุ.
นรํ (คน, นรชน) นร+อํ
--
อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ (พากย์ธัมมนีติ) ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้
คนโกรธไม่รู้จักผล คนโกรธไม่รู้จักเหตุ
ความโกรธครอบงำคนใด
ความมืดย่อมมีแก่คนนั้นในกาลนั้นแล.
--
อีกสำนวนหนึ่ง จากราชนีติ ธรรมนีติ โดย นายทอง หงศ์ลดารมภ์ (มหากิม) ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้..
คนโกรธย่อมไม่รู้จักผล
คนโกรธย่อมไม่รู้จักเหตุ
คนถูกความโกรธครอบงำแล้ว
ก็มืดแปดด้าน.
--

Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen