ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ
ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันอังคาร
ที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๕๑
เวลา ๑๔.๐๐ น.
เวลา ๑๔.๐๐ น.
คำสั่ง
:
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
๑.
พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก
เพื่ออะไร
?
ก.
เป็นศาสดาสร้างสันติ ข.
เป็นศาสดาคุ้มครองโลก
ค.
เป็นศาสดาสร้างโลก
ง.
เป็นศาสดาสอนเวไนยสัตว์
๒.
ข้อใด
แสดงความเป็นผู้มีมานะถือตัวของชาวชมพูทวีป
?
ก.
ถือว่าโลกเที่ยง ข.
ถือว่าโลกมีที่สุด
ค.
ถือชั้นวรรณะ ง.
ถือว่าตายแล้วเกิด
๓.
พระโอรสของพระเจ้าโอกกากราช
เป็นผู้สร้างเมืองใด
?
ก.
เทวทหะ ข.
กบิลพัสดุ์
ค.
ราชคฤห์ ง.
สาวัตถี
๔.
ก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะมาอุบัติในโลกนี้
อยู่สวรรค์ชั้นใด ?
ก.
จาตุมหาราช ข.
ดาวดึงษ์
ค.
ยามา ง.
ดุสิต
๕.
พระมารดาของพระนางพิมพา
มีพระนามว่าอะไร
?
ก.
พระนางปชาบดีโคตมี ข.
พระนางปมิตา
ค.
พระนางกิสาโคตมี ง.
พระนางอมิตา
๖.
เจ้าชายสิทธัตถะทางเปล่งอาสภิวาจา
ในคราวใด ?
ก.
ประสูติ ข.
ตรัสรู้
ค.
แสดงปฐมเทศนา ง.
ปรินิพพาน
๗.
ใครเป็นผู้ทำนายพระสิตธัตถกุมารว่าจะต้องออกบวชแน่นอน
?
ก.
รามพราหมณ์ ข.
ยัญญพราหมณ์
ค.
โกณฑัญญพราหมณ์ ง.
สุทัตตพราหมณ์
๘.
การนึกถึง
ชรา พยาธิ และมรณะ เป็นเหตุให้ทำลายอะไร
?
ก.
อกุศลวิตก
๓ ข.
ความเมา
๓
ค.
ตัณหา
๓ ง.
อกุศลมูล
๓
๙.
การบำเพ็ญทุกรกิริยาในวาระที่
๓ คือข้อใด
?
ก.
กดพระทนต์ ข.
กดพระตาลุ
ค.
กลั้นลมหายใจ ง.
อดพระกระยาหาร
๑๐.
พระพุทธเจ้าทรงเปรียบธรรมใด
เหมือนกระจกเงา
?
ก.
เมตตา ข.
กรุณา
ค.
มุทิตา ง.
อุเบกขา
๑๑.
การที่ทรงได้ปัญญาเป็นเหตุให้สิ้นอาสวะ
ทำให้ได้พระนามอะไร
?
ก.
ภควา ข.
อรหํ
ค.
สุคโต ง.
โลกวิทู
๑๒.
พระพุทธเจ้าเสวยวิมุตติสุขที่ต้นราชายตนะ
ได้ทรงพบกับใคร
?
ก.
พราหมณ์หุหุกชาติ ข.
ตปุสสะ
และภัลลิกะ
ค.
พระยานาคมุจลินท์ ง.
ยสกุลบุตร
๑๓.
คำว่า
อุบาสก อุบาสิกา มีความหมายว่าอย่างไร
?
ก.
ผู้นั่งใกล้พระพุทธ ข.
ผู้นั่งใกล้พระธรรม
ค.
ผู้นั่งใกล้พระสงฆ์ ง.
ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย
๑๔.
สถานที่ทรงพิจารณาอภิธัมมปิฎก
ซึ่งเทวดานิรมิต เรียกว่าอะไร
?
ก.
อนิมิสเจดีย์ ข.
รัตนฆรเจดีย์
ค.
รัตนจงกรมเจดีย์ ง.
บริโภคเจดีย์
๑๕.
ข้อใด
พระองค์ทรงแสดงว่า บรรพชิตควรปฏิบัติ
?
ก.
กามสุขัลลิกานุโยค ข.
อัตตกิลมถานุโยค
ค.
มัชฌิมาปฏิปทา ง.
อปัณณกปฏิปทา
๑๖.
ข้อใด
เรียกว่า ปฏิปุจฉาพยากรณ์
?
ก.
ย้อนถามแล้วจึงแก้ปัญหา ข.
แยกปัญหาแก้ทีละข้อ
ค.
แก้ปัญหานั้นโดยส่วนเดียว ง.
ถามตอบไปทีละข้อ
๑๗.
ผู้ฉลาดในภาษาสามารถเข้าใจพูดให้คนอื่นเลื่อมใสได้
เรียกว่าอะไร
?
ก.
ธัมมปฏิสัมภิทา ข.
นิรุตติปฏิสัมภิทา
ค.
อัตถปฏิสัมภิทา ง.
ปฏิภาณปฏิสัมภิทา
๑๘.
พระพุทธเจ้าโปรดพระเจ้าพิมพิสาร
ด้วยธรรมอะไร
?
ก.
ทานกถา ข.
สีลกถา
ค.
สัคคกถา ง.
อนุปุพพีกถา
๑๙.
บุคคลใด
ไม่ใช่เป้าหมายของการทำปุพพเปตพลีของพราหมณ์
?
ก.
ปู่ย่า ข.
ตายาย
ค.
พ่อแม่ ง.
ลูกหลาน
๒๐.
พระองค์เป็นศาสดาของข้าพระองค์
ข้าพระองค์เป็นสาวก ใครกล่าว
?
ก.
พระมหากัสสปะ ข.
พระคยากัสสปะ
ค.
พระอุรุเวลากัสสปะ ง.
พระนทีกัสสปะ
๒๑.
ใครได้ถวายกุฎี
๖๐ หลัง ในกรุงราชคฤห์แก่พระพุทธเจ้า
?
ก.
พระเจ้าพิมพิสาร ข.
วิสาขามหาอุบาสิกา
ค.
อนาถปิณฑิกเศรษฐี ง.
ราชคหกเศรษฐี
๒๒.
อุปสรรคยุคแรกในการประกาศพระศาสนา
คืออะไร ?
ก.
อาหารไม่เพียงพอ ข.
ผู้คนดูถูกรังเกียจ
ค.
การสัญจรลำบาก ง.
ให้อุปสมบทเองไม่ได้
๒๓.
พระสารีบุตรบรรลุพระอรหัตผล
ที่ไหน ?
ก.
ถ้ำสุกรขาตา ข.
ถ้ำสัตตบรรณ
ค.
ถ้ำอินทศาล ง.
ถ้ำบิปผลิ
๒๔.
พระอัครสาวกทั้งสอง
บรรลุพระอรหัตในสำนักใคร
?
ก.
พระพุทธเจ้า ข.
สัญชัยปริพพาชก
ค.
พระอัสสชิ ง.
พราหมณ์พาวรี
๒๕.
ถ้ามีภิกษุมาทูลลาเที่ยวจาริกไปที่อื่น
พระศาสดาสั่งตรัสให้ไปลา
พระสารีบุตร
เพื่อประโยชน์ใด
?
ก.
เพื่อเรียนกัมมัฏฐาน ข.
เพื่อท่านจะได้สั่งสอน
ค.
เพื่อท่านจะได้ไปด้วย ง.
เพื่อป้องกันอันตราย
๒๖.
พระพุทธเจ้าตรัสชมเมืองใดว่า
ปลูกสร้างได้เป็นระเบียบ
?
ก.
ปาฏลีบุตร ข.
สาวัตถี
ค.
พาราณสี ง.
กุสินารา
๒๗.
อนาถปิณฑิกเศรษฐีได้ดวงตาเห็นธรรม
ณ สถานที่ใด
?
ก.
เชตวัน ข.
สีตวัน
ค.
เวฬุวัน ง.
มิคทายวัน
๒๘.
พระอานนท์ได้บรรลุโสดาปัตติผล
เพราะฟังธรรมจากใคร
?
ก.
พระพุทธเจ้า ข.
พระสารีบุตร
ค.
พระปุณณมันตานีบุตร ง.
พระอัสสชิ
๒๙.
สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด ใครกล่าว
?
ก.
พราหมณ์หุหุกชาติ ข.
พระสารีบุตร
ค.
ตปุสสะ
ภัลลิกะ ง.
อุปกาชีวก
๓๐.
อะไรเป็นเครื่องห้ามความอยากอันไหลไปสู่อารมณ์ต่าง
ๆ และจะละได้
ด้วยธรรมอะไร
ใครทูลถาม
?
ก.
อชิตมาณพ ข.
ปิงคิยมาณพ
ค.
นันทมาณพ ง.
ปุณณกมาณพ
๓๑.
ตัณหักขยธรรม
ธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา
ทรงแสดงที่ไหน
?
ก.
ถ้ำสุกรขาตา ข.
ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ค.
วัดเวฬุวัน ง.
กัลลวาลมุตตคาม
๓๒.
คำว่า
อรหันต์
เรียกกันมาตั้งแต่เมื่อไร
?
ก.
ก่อนพุทธกาล ข.
ครั้งพุทธกาล
ค.
หลังพุทธกาล
ง.
ครั้งปฐมสังคายนา
๓๓.
พระเจ้าจัณฑปัชโชตทรงสดับธรรมจากใคร
เป็นครั้งแรก
?
ก.
พระพุทธเจ้า ข.
พระมหากัจจายนะ
ค.
พระมหาโมคคัลลานะ ง.
พระมหากัสสปะ
๓๔.
ใครเป็นพระอุปัชฌายะของพระปุณณมันตานีบุตร
?
ก.
พระอัญญาโกณฑัญญะ ข.
พระอัสสชิ
ค.
พระมหากัสสปะ ง.
พระมหานามะ
๓๕.
ข้อใด
ชื่อว่าสามุกกังสิกเทศนา
ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเอง
?
ก.
เวทนาปริคคหสูตร ข.
วิสุทธิ
๗
ค.
กถาวัตถุ
๑๐ ง.
อริยสัจ
๔
๓๖.
พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมข้อใดมากเป็นพิเศษ
ที่บ้านภัณฑุคาม
?
ก.
ไตรลักษณ์ ข.
ไตรสิกขา
ค.
ไตรรัตน์ ง.
ไตรภูมิ
๓๗.
อุปติสสะและโกลิตะไปดูมหรสพ
คิดอย่างไรจึงออกบวช
?
ก.
สิ่งเหล่านี้เป็นมายา
ข.
คนพวกนี้หลงละเลิงในกิเลส
ค.
คนพวกนี้ไม่ถึงร้อยปีก็ตาย
ง.
คนพวกนี้หลอกลวงพวกเรา
๓๘.
ข้อใด
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์
?
ก.
ฝนโบกขรพรรษตก ข.
แสดงธรรมโปรดพระมารดา
ค.
กาฬุทายีอำมาตย์เชิญเสด็จ ง.
พระเจ้าพิมพิสารเข้าเฝ้า
๓๙.
อะไรเป็นมูลเหตุให้อุบาลีบวชก่อนเจ้าชายศากยะทั้ง
๖ ?
ก.
พระประสงค์ของพระพุทธเจ้า
ข.
ความต้องการของเจ้าศากยะทั้ง
๖
ค.
ความต้องการของอุบาลี
ง.
ให้ผู้มีอายุมากบวชก่อน
๔๐.
ข้อใด
ไม่ใช่บารมี ๑๐
ที่พระพุทธเจ้าใช้ต่อสู้กับกิเลสมาร
?
ก.
ทาน ข.
ศีล
ค.
สมาธิ ง.
ปัญญา
๔๑.
เวทนาปริคคหสูตร
ว่าด้วยเรื่องอะไร
?
ก.
อุบายเครื่องบรรเทา ข.
อุบายเครื่องไม่ถือมั่น
ค.
อุบายเครื่องงดเว้น ง.
อุบายเครื่องสำรวม
๔๒.
พระสาวกรูปใด
เปรียบวิสุทธิ ๗ ด้วยรถ ๗
ผลัดแก่พระสารีบุตร
?
ก.
พระอุรุเวลากัสสปะ ข.
พระมหากัสสปะ
ค.
พระอานนท์ ง.
พระปุณณมันตานีบุตร
๔๓.
พระสาวกรูปใด
ตั้งอยู่ในกถาวัตถุ ๑๐
มีความมักน้อยเป็นต้น
?
ก.
พระยมกะ ข.
พระปุณณมันตานีบุตร
ค.
พระสารีบุตร ง.
พระมหากัจจายนะ
๔๔.
ใครเป็นผู้แสดงธรรมุเทศ
๔ แก่พระเจ้าโกรัพยะ
?
ก.
พระสารีบุตร ข.
พระอานนท์
ค.
พระรัฐบาล ง.
พระมหากัจจายนะ
๔๕.
พระนางปชาบดี
แสดงความตั้งใจจะบวชด้วยวิธีใด
?
ก.
อดพระกระยาหาร ข.
กลั้นลมหายใจ
ค.
นั่งประท้วง ง.
ตัดพระเมาลี
๔๖.
พระนางเขมาเถรีได้รับเอตทัคคะด้านใด
?
ก.
มีปัญญามาก ข.
มีฤทธิ์มาก
ค.
ชำนาญสมาบัติ ง.
มีความเพียรมาก
๔๗.
อานุภาพแห่งธรรมใดสามารถให้ดำรงชีวิตได้
๑ อายุกัป
?
ก.
อธิษฐาน
๔ ข.
สังคหวัตถุ
๔
ค.
พรหมวิหาร
๔ ง.
อิทธิบาท
๔
๔๘.
ใครเป็นอัครศาสนูปถัมภกในคราวทำสังคายนา
ครั้งที่ ๓
?
ก.
พระเจ้าอชาตศัตรู ข.
พระเจ้าอโศกมหาราช
ค.
พระเจ้ากาลาโศกรา ง.
พระเจ้าปเสนทิโกศล
๔๙.
การสังคายนา
ครั้งที่ ๓ ปรารภเรื่องใด
?
ก.
เรื่องวัตถุ
๑๐ ข.
เดียรถีย์ปลอมบวช
ค.
ความเสื่อมถอย ง.
จ้วงจาบพระธรรมวินัย
๕๐.
เหตุใด
ปิงคิยมาณพ จึงไม่หลุดพ้นจากอาสวกิเลส
?
ก.
คิดถึงการงาน ข.
คิดถึงคนรัก
ค.
คิดถึงอาจารย์ ง.
คิดสงสัยในธรรม
***
*** ***
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen