ปัญหาและเฉลยวิชาวินัย
นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์
ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๘
๑. ภิกษุผู้ละเมิดสิกขาบทนอกพระปาฏิโมกข์ต้องอาบัติอะไรได้บ้าง
?
๑. ต้องอาบัติถุลลัจจัย
และ ทุกกฏ ฯ
๒. พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ภิกษุไว้ผมได้ยาวที่สุดเท่าไร
?
ไว้ได้นานที่สุดเท่าไร
?
๒. ไม่เกิน
๒ นิ้ว ฯ ไม่เกิน ๒ เดือน ฯ
๓. ภิกษุไม่ต้องนำผ้าไตรจีวรไปครบสำรับ
มีพระพุทธานุญาตไว้ในกรณีใดบ้าง
?
๓. ใน
๒ กรณี คือ
๑.
ในกรณีเข้าบ้านมีพระพุทธานุญาตไว้อย่างนี้
คือ
๑. คราวเจ็บไข้
๒. สังเกตเห็นว่าฝนจะตก
๓. ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ
๔. วิหารคือกุฎีคุ้มได้ด้วยดาล
๕. ได้รับอานิสงส์พรรษา
๖. ได้กรานกฐิน
ฯ
๒.
ในกรณีต้องไปค้างแรมที่อื่น
มีพระพุทธานุญาตไว้อย่างนี้
คือ
๑.
ได้รับอานิสงส์พรรษา
๒.
ได้กรานกฐิน
ฯ
๔. ในพระวินัยส่วนอภิสมาจาร
มีพระพุทธบัญญัติสำหรับพระภิกษุผู้รับถือเสนาสนะ
ของสงฆ์ ควรเอาใจใส่รักษาเสนาสนะด้วยอาการอย่างไรบ้าง ?
ของสงฆ์ ควรเอาใจใส่รักษาเสนาสนะด้วยอาการอย่างไรบ้าง ?
๔. ควรเอาใจใส่รักษาอย่างนี้
คือ
๑.
อย่าทำเปรอะเปื้อน
๒.
ชำระให้สะอาด
๓.
ระวังไม่ให้ชำรุด
๔.
รักษาเครื่องเสนาสนะ
๕.
ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้ให้มีพร้อม
๖.
ของใช้สำหรับเสนาสนะหนึ่ง
อย่าเอาไปใช้ในที่อื่นให้กระจัดกระจาย
ฯ
๕. วัตร
๓ คืออะไรบ้าง ?
ภิกษุเหยียบผ้าขาวอันเขาลาดไว้ในที่นิมนต์ผิดวัตรข้อไหน
?
มีโทษให้เกิดความเสียหายอย่างไร ?
มีโทษให้เกิดความเสียหายอย่างไร ?
๕. คือ
กิจวัตร ๑ จริยาวัตร ๑ วิธิวัตร
๑ ฯ ผิดวัตรข้อจริยาวัตร ฯ
มีโทษให้เกิดความเสียหาย
คือเป็นการเสียมารยาทของพระ
ไม่ระวังกิริยา ทำให้
ผ้าขาวมีรอยเปื้อนสกปรกน่ารังเกียจ แม้ภิกษุพวกเดียวกันจะนั่งก็รังเกียจขยะแขยง
เป็นที่ตำหนิของบัณฑิตทั้งหลาย ฯ
ผ้าขาวมีรอยเปื้อนสกปรกน่ารังเกียจ แม้ภิกษุพวกเดียวกันจะนั่งก็รังเกียจขยะแขยง
เป็นที่ตำหนิของบัณฑิตทั้งหลาย ฯ
๖. ภิกษุพบพระเถระในเวลาเข้าบ้านหรือเดินอยู่ตามทาง
ควรปฏิบัติอย่างไร ?
๖. ไม่ควรไหว้
ควรหลีกทาง ลุกรับ และให้อาสนะแก่ท่าน
ฯ
๗. อเนสนา
คืออะไร ?
ภิกษุทำอเนสนา
ต้องอาบัติอะไรได้บ้าง ?
๗. คือ
กิริยาที่แสวงหาเลี้ยงชีพในทางไม่สมควร
ฯ ปาราชิก สังฆาทิเสส
ปาจิตตีย์
และ ทุกกฏ ฯ
และ ทุกกฏ ฯ
๘. ความรู้ในการทำเสน่ห์ให้ชายหญิงรักกัน
จัดเป็นดิรัจฉานวิชาเพราะเหตุไร
?
๘. เพราะเป็นความรู้ที่ไม่เกี่ยวกับธรรมวินัยของภิกษุ
และเป็นความรู้ที่ทำให้เขา
สงสัยว่าลวง ทำให้เขาหลงงมงาย ไม่ใช่ความรู้จริง ผู้บอกเป็นผู้ลวง ฝ่ายผู้เรียน
เป็นผู้หัดเพื่อลวง หรือเป็นผู้หลงงมงาย ฯ
สงสัยว่าลวง ทำให้เขาหลงงมงาย ไม่ใช่ความรู้จริง ผู้บอกเป็นผู้ลวง ฝ่ายผู้เรียน
เป็นผู้หัดเพื่อลวง หรือเป็นผู้หลงงมงาย ฯ
๙. สภาคาบัติ
คืออาบัติเช่นไร ?
๙. คือ
อาบัติที่ภิกษุต้องเหมือนกันเพราะล่วงละเมิดสิกขาบทเดียวกัน
ฯ
๑๐. การอธิษฐานเข้าพรรษา
กับการปวารณาออกพรรษา ทั้ง
๒ นี้ อย่างไหนกำหนด
ด้วยสงฆ์เท่าไร ? และกำหนดเขตอย่างไร ?
ด้วยสงฆ์เท่าไร ? และกำหนดเขตอย่างไร ?
๑๐. การอธิษฐานเข้าพรรษาไม่เป็นสังฆกรรมจึงไม่กำหนดด้วยสงฆ์
แต่เป็น
ธรรมเนียมปฏิบัติอธิษฐานเข้าพรรษาพร้อมๆ กัน จะอธิษฐานที่ไหนก็ได้ แต่ท่าน
ห้ามไม่ให้จำพรรษาในที่ไม่สมควรเท่านั้น เช่น ในโพรงไม้ บนค่าคบไม้ ในตุ่ม
หรือในกระท่อมผี เป็นต้น ฯ และให้กำหนดบริเวณอาวาสเป็นเขต ฯ
ธรรมเนียมปฏิบัติอธิษฐานเข้าพรรษาพร้อมๆ กัน จะอธิษฐานที่ไหนก็ได้ แต่ท่าน
ห้ามไม่ให้จำพรรษาในที่ไม่สมควรเท่านั้น เช่น ในโพรงไม้ บนค่าคบไม้ ในตุ่ม
หรือในกระท่อมผี เป็นต้น ฯ และให้กำหนดบริเวณอาวาสเป็นเขต ฯ
ส่วนการปวารณาออกพรรษาเป็นสังฆกรรม
กำหนดด้วยสงฆ์ตั้งแต่ ๕
รูปขึ้นไป ฯ
และกำหนดให้ทำภายในเขตสีมา ถ้าต่ำกว่า ๕ รูป ท่านให้ปวารณาเป็นการคณะ
ถ้ารูปเดียวให้อธิษฐานเป็นการบุคคล ฯ
และกำหนดให้ทำภายในเขตสีมา ถ้าต่ำกว่า ๕ รูป ท่านให้ปวารณาเป็นการคณะ
ถ้ารูปเดียวให้อธิษฐานเป็นการบุคคล ฯ
ผู้ออกข้อสอบ
|
:
|
๑.
|
พระพรหมเมธาจารย์
|
วัดบุรณศิริมาตยาราม
|
|
|
๒.
|
พระเทพปริยัติเมธี
|
วัดชลประทานรังสฤษฎ์
|
|
|
๓.
|
พระราชวรเมธี
|
วัดเทพธิดาราม
|
ตรวจ/ปรับปรุง
|
:
|
|
สนามหลวงแผนกธรรม
|
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen