๑.
๑.๑
ธรรมคุ้มครองโลกมีอะไรบ้าง
?
๑.๒
ธรรมข้อนี้จะคุ้มครองโลกได้อย่างไร
?
ตอบ:
๑.๑
มี
๒ อย่างคือ
๑)
หิริ
ความละอายแก่ใจ
๒)
โอตตัปปะ
ความเกรงกลัว
๑.๒
ธรรมข้อนี้จะคุ้มครองโลกได้
เนื่องจากปัจจุบันโลกที่เกิดวิกฤตการณ์ในด้านต่าง
ๆ ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะชาวโลกละทิ้งธรรม
คือ หิริ และโอตตัปปะ
ไม่ละอายแก่ใจ
ไม่เกรงกลัวต่อผลแห่งความชั่ว
ขาดเมตตากรุณา เป็นคนเห็นแก่ตัวจัด
มีการเบียดเบียน กระทำทุจริต
โดยวิธีการต่าง ๆ
หากชาวโลกมีธรรมคู่นี้ตั้งมั่นในใจแล้ว
ก็จะช่วยคุ้มครองโลกให้พ้นจากภาวะวิกฤตในปัจจุบันได้
๒.
๒.๑
พระรัตนตรัย
กับไตรสรณคมน์ เป็นอย่างเดียวกัน
หรือต่างกันอย่างไร ?
๒.๒
การเปล่งวาจาถึงรัตนะ
๓ เป็นที่พึ่ง จัดเป็นอย่างไหนใน
๒ อย่างนั้น ?
ตอบ:
๒.๑
ต่างกัน
พระรัตนตรัย ได้แก่หมวด ๓
แห่งรัตนะ คือ พระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนไตรสรณคมน์
ได้แก่การถึง (เข้าถึง)
พระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ
๒.๒
จัดเป็นไตรสรณคมน์
๓.
๓.๑
ปธาน ๔ มีอะไรบ้าง
?
๓.๒
คนเสพยาเสพย์ติด
เพียรพยายามจะเลิกให้ได้
ชื่อว่าตั้งอยู่ในปธานข้อไหน
?
ตอบ:
๓.๑
มี ๑)
สังวรปธาน
เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน
๒)
ปหานปธาน
เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
๓)
ภาวนาปธาน
เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน
๔)
อนุรักขนาปธาน
เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม
๓.๒
ตั้งอยู่ในปหานปธาน
๔.
๔.๑
อริยสัจ ๔
มีอะไรบ้าง ?
๔.๒
ปรารถนาสิ่งใด
ไม่ได้สมหวัง จัดเป็นอริยสัจข้อไหน
?
ตอบ:
๔.๑
มี
๑)
ทุกข์
๒)
สมุทัย
คือ เหตุให้ทุกข์เกิด
๓)
นิโรธ
คือ ความดับทุกข์
๔)
มรรค
คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
๔.๒
จัดเป็นทุกข์
๕.
๕.๑
กรรมที่เป็นบาปหนักที่สุด
มีชื่อเรียกว่าอะไร ?
คืออะไรบ้าง
?
๕.๒
เพราะเหตุไรจึงเป็นกรรมที่เป็นบาปหนักที่สุด
?
ตอบ:
๕.๑
มีชื่อเรียกว่า
อนันตริยกรรม
คือ
๑)
มาตุฆาต
ฆ่ามารดา
๒)
ปิตุฆาต
ฆ่าบิดา
๓)
อรหันตฆาต
ฆ่าพระอรหันต์
๔)
โลหิตุปบาท
ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงยังพระโลหิตให้ห้อขึ้นไป
๕)
สังฆเภท
ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน
๕.๒
เพราะห้ามสวรรค์
ห้ามนิพพาน
ตั้งอยู่ในฐานปาราชิกของผู้นับถือ พระพุทธศาสนา
ห้ามไม่ให้ทำเป็นเด็ดขาด
๖.
๖.๑
ทรัพย์ประเภทไหนเรียกว่าอริยทรัพย์
?
๖.๒
อริยทรัพย์ดีกว่าทรัพย์ภายนอกเพราะเหตุไร
?
ตอบ:
๖.๑
ทรัพย์
คือคุณความดีที่มีในสันดานอย่างประเสริฐ
เรียกว่า อริยทรัพย์ มี
ศรัทธา ศีล เป็นต้น
๖.๒
ดีกว่า
เพราะอริยทรัพย์ เป็นคุณธรรม
เครื่องบำรุงจิตใจให้ปลื้มให้อบอุ่น
มีแล้วไม่ต้องเป็นทุกข์กังวลในการคุ้มครองป้องกันโจรภัยเป็นต้น
ใครแย่งชิงไปไม่ได้
ใช้เท่าใดก็ไม่ต้องกลัวหมดสิ้น
ไม่ต้องเสี่ยงภัยในการแสวงหา
เป็นต้น
ทั้งสามารถติดตามเป็นที่พึ่งในสัมปรายภพได้ด้วย
๗.
๗.๑
โลกธรรมมีกี่อย่าง
?
อะไรบ้าง
?
๗.๒
ท่านสอนให้ปฏิบัติต่อโลกธรรมอย่างไร
?
ตอบ:
๗.๑
มี
๘ อย่าง คือ
มีลาภ
๑ ไม่มีลาภ ๑ มียศ ๑ ไม่มียศ
๑
สรรเสริญ
๑ นินทา
๑ สุข ๑ ทุกข์ ๑
๗.๒
สอนอย่างนี้
คือในโลกธรรมทั้ง ๘ อย่างนี้
อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
ควรพิจารณาว่า
สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
มันเป็นของไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ควรรู้ตามที่เป็นจริง
อย่าให้ครอบงำจิตได้
คืออย่ายินดีในส่วนที่ปรารถนา
อย่ายินร้ายในส่วนที่ไม่ปรารถนา
๘.
๘.๑
อบายมุข ๔
มีอะไรบ้าง ?
๘.๒
การเที่ยวกลางคืนมีโทษอย่างไรบ้าง
?
ตอบ:
๘.๑
มี ๑)
ความเป็นนักเลงหญิง
๒)
ความเป็นนักเลงสุรา
๓)
ความเป็นนักเลงเล่นการพนัน
๔)
ความคบคนชั่วเป็นมิตร
๘.๒
มีโทษ
๖ อย่างคือ
๑)
ชื่อว่าไม่รักษาตัว
๒)
ชื่อว่าไม่รักษาลูกเมีย
๓)
ชื่อว่าไม่รักษาทรัพย์สมบัติ
๔)
เป็นที่ระแวงของคนทั้งหลาย
๕)
มักถูกใส่ความ
๖)
ได้ความลำบากมาก
๙.
๙.๑
มิตตปฏิรูปได้แก่คนพวกไหนบ้าง
?
๙.๒
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ปฏิบัติต่อคนพวกนี้อย่างไร
?
ตอบ:
๙.๑
ได้แก่ ๑)
คนปอกลอก
๒)
คนดีแต่พูด
๓)
คนหัวประจบ
๔)
คนชักชวนในทางฉิบหาย
๙.๒
ทรงสอนให้หลีกเลี่ยงไม่ควรคบเป็นมิตร
เหมือนคนเดินทางหลีกเลี่ยงทางที่มีภัยอันตรายเสีย
ฉะนั้น
๑๐.
๑๐.๑
จงเขียนศีล ๕ ข้อที่ ๓
พร้อมทั้งคำแปล
๑๐.๒
อุบาสก อุบาสิกา
ควรงดเว้นการค้าขายที่ไม่ชอบธรรมอะไรบ้าง
?
ตอบ:
๑๐.๑
กาเมสุ
มิจฉาจารา เวรมณี
เว้นจากการประพฤติผิดในกาม
๑๐.๒
ควรงดเว้น ๑)
ค้าขายเครื่องประหาร
๒)
ค้าขายมนุษย์
๓)
ค้าขายสัตว์เป็นสำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหาร
๔)
ค้าขายน้ำเมา
๕)
ค้าขายยาพิษ
|
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen