Dienstag, 20. November 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๒๐. มรรควรรค


๒๐. มคฺควคฺโค
คาถาธรรมบท มรรควรรคที่ ๒๐

๒๗๓.
มคฺคานฏฺฐงฺคิโก เสฏฺโฐ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;

วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ, ทิปทานญฺจ จกฺขุมาฯ

ทางมีองค์แปด ประเสริฐกว่าทางทั้งหลาย ธรรมอันพระอริยะเจ้าพึงถึง ๔ ประการ
ประเสริฐกว่าสัจจะทั้งหลายวิราคธรรมประเสริฐกว่าธรรมทั้งหลาย พระตถาคตผู้มีจักษุ
ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้าและอรูปธรรมทั้งหลาย. (๒๐:)

๒๗๔.
เอเสว มคฺโค นตฺถญฺโญ, ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยา;

เอตญฺหิ ตุมฺเห ปฏิปชฺชถ, มารเสนปฺปโมหนํฯ

ทางนี้เท่านั้นเพื่อความหมดจดแห่งทัศนะ ทางอื่นไม่มี เพราะเหตุนั้นท่านทั้งหลาย
จงดำเนินไปตามทางนี้แหละ เพราะทางนี้เป็นที่ยังมารและเสนามารให้หลง. (๒๐:)

Montag, 19. November 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๙. ธัมมัฏฐวรรค


๑๙. ธมฺมฏฺฐวคฺโค

๒๕๖.
น เตน โหติ ธมฺมฏฺโฐ, เยนตฺถํ สหสา นเย;
โย จ อตฺถํ อนตฺถญฺจ, อุโภ นิจฺเฉยฺย ปณฺฑิโตฯ

บุคคลไม่ชื่อว่าตั้งอยู่ในธรรม ด้วยเหตุที่วินิจฉัยอรรถคดีโดยผลุนผลัน
ส่วนผู้ใดเป็นบัณฑิตวินิจฉัยอรรถคดี และความอันไม่เป็นอรรถคดีทั้งสอง. (๑๙:)

๒๕๗.
อสาหเสน ธมฺเมน, สเมน นยตี ปเร;

ธมฺมสฺส คุตฺโต เมธาวี, ธมฺมฏฺโฐติ ปวุจฺจติฯ

วินิจฉัยบุคคลเหล่าอื่นโดยความไม่ผลุนผลัน โดยธรรมสม่ำเสมอ
ผู้นั้นชื่อว่าคุ้มครองกฎหมายเป็นนักปราชญ์ เรากล่าวว่า ตั้งอยู่ในธรรม. (๑๙:)

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๘. มลวรรค


๑๘. มลวคฺโค
คาถาธรรมบท มลวรรคที่ ๑๘

๒๓๕.
ปณฺฑุปลาโสวทานิสิ; ยมปุริสาปิ จ เต อุปฏฺฐิตา;

อุยฺโยคมุเข จ ติฏฺฐสิ; ปาเถยฺยมฺปิ จ เต น วิชฺชติฯ

บัดนี้ท่านเป็นดุจใบไม้เหลือง
อนึ่งแม้บุรุษของพระยายมก็ปรากฏแก่ท่านแล้ว
ท่านตั้งอยู่ในปากแห่งความเสื่อม
อนึ่งเสบียงเดินทางของท่านก็ยังไม่มี. (๑๘:)

๒๓๖.
โส กโรหิ ทีปมตฺตโน; ขิปฺปํ วายม ปณฺฑิโต ภว;

นิทฺธนฺตมโล อนงฺคโณ; ทิพฺพํ อริยภูมึ อุเปหิสิฯ

ท่านจงทำที่พึงแก่ตน จงรีบพยายาม จงเป็นบัณฑิต
ท่านเป็นผู้มีมลทินอันขจัดแล้ว ไม่มีกิเลสเครื่องยียวน
จักถึงอริยภูมิอันเป็นทิพย์. (๑๘:)

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๗. โกธวรรค


๑๗. โกธวคฺโค
คาถาธรรมบท โกธวรรคที่ ๑๗

๒๒๑.
โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ; สญฺโญชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย;

ตนฺนามรูปสฺมึ อสชฺชมานํ; อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขาฯ

บุคคลพึงละความโกรธเสีย พึงละมานะเสีย
พึงก้าวล่วงสังโยชน์เสียทั้งหมด
ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ตกตามบุคคลนั้น
ผู้ไม่ข้องอยู่ในนามรูป ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล. (๑๗:)

๒๒๒.
โย เว อุปฺปติตํ โกธํ, รถํ ภนฺตํว วารเย;

ตมหํ สารถึ พฺรูมิ, รสฺมิคฺคาโห อิตโร ชโนฯ

บุคคลใดแล พึงห้ามความโกรธที่เกิดขึ้นแล้วไว้ได้
ดุจบุคคลห้ามรถซึ่งกำลังแล่นไปได้ ฉะนั้น
เรากล่าวบุคคลนั้นว่าเป็นสารถี คนนอกนี้เป็นคนถือเชือก. (๑๗:)

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๖. ปิยวรรค


๑๖. ปิยวคฺโค
คาถาธรรมบทปิยวรรคที่ ๑๖

๒๐๙.
อโยเค ยุญฺชมตฺตานํ, โยคสฺมิญฺจ อโยชยํ;

อตฺถํ หิตฺวา ปิยคฺคาหี, ปิเหตตฺตานุโยคินํฯ

บุคคลประกอบตนในกิจที่ไม่ควรประกอบ และไม่ประกอบ
ตนในกิจที่ควรประกอบ ละประโยชน์เสีย มักถือเอาสัตว์
หรือสังขารว่าเป็นที่รัก ย่อมทะเยอทะยานต่อบุคคลผู้ประกอบตามตน. (๑๖:)

๒๑๐.
มา ปิเยหิ สมาคญฺฉิ, อปฺปิเยหิ กุทาจนํ;

ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ, อปฺปิยานญฺจ ทสฺสนํฯ

บุคคลอย่าสมาคมแล้วด้วยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่
รัก หรือด้วยสัตว์หรือสังขารอันไม่เป็นที่รัก ในกาลไหนๆ
เพราะการไม่เห็นสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก และการเห็น
สัตว์หรือสังขารอันไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์. (๑๖:)

Sonntag, 18. November 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๕. สุขวรรค


๑๕. สุขวคฺโค
คาถาธรรมบท สุขวรรคที่ ๑๕

๑๙๗.
สุสุขํ วต ชีวาม, เวริเนสุ อเวริโน;
เวริเนสุ มนุสฺเสสุ, วิหราม อเวริโนฯ

เมื่อพวกมนุษย์มีเวรกันอยู่ เราเป็นผู้ไม่มีเวร
ในพวกมนุษย์ผู้มีเวรกัน เราเป็นผู้ไม่มีเวรอยู่
เป็นอยู่สบายดีหนอ. (๑๕:)

๑๙๘.
สุสุขํ วต ชีวาม, อาตุเรสุ อนาตุรา;

อาตุเรสุ มนุสฺเสสุ, วิหราม อนาตุราฯ

เมื่อพวกมนุษย์มีความเร่าร้อนกันอยู่ เราเป็นผู้ไม่เร่าร้อน
ในพวกมนุษย์ผู้มีเร่าร้อน เราเป็นผู้ไม่มีความเร่าร้อนอยู่
เป็นอยู่สบายดีหนอ. (๑๕:)

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๔. พุทธวรรค


๑๔. พุทฺธวคฺโค
คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔

๑๗๙.
ยสฺส ชิตํ นาวชียติ, ชิตมสฺส โน ยาติ โกจิ โลเก;

ตํ พุทฺธํ อนนฺตโคจรํ, อปทํ เกน ปเทน เนสฺสถฯ

กิเลสชาติอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงชนะแล้ว
อันพระองค์ย่อมไม่กลับแพ้ กิเลสชาติหน่อยหนึ่งในโลกย่อมไม่ไปหา
กิเลสชาติที่พระองค์ทรงชนะแล้ว ท่านทั้งหลายจักนำพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้มีอารมณ์หาที่สุดมิได้ ผู้ไม่มีร่องรอย ไปด้วยร่องรอยอะไร. (๑๔:)

๑๘๐.
ยสฺส ชาลินี วิสตฺติกา, ตณฺหา นตฺถิ กุหิญฺจิ เนตเว;

ตํ พุทฺธํ อนนฺตโคจรํ, อปทํ เกน ปเทน เนสฺสถฯ

ตัณหามีข่ายส่ายไปในอารมณ์ต่างๆ
ไม่มีแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด
เพื่อจะนำไปในภพไหนๆ ท่านทั้งหลายจัก
นำพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ตรัสรู้แล้ว
มีอารมณ์หาที่สุดมิได้ ผู้ไม่มีร่องรอย ไปด้วยร่องรอยอะไร. (๑๔:)

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๓. โลกวรรค



๑๓. โลกวคฺโค
คาถาธรรมบท โลกวรรคที่ ๑๓

๑๖๗.
หีนํ ธมฺมํ น เสเวยฺย, ปมาเทน น สํวเส;

มิจฺฉาทิฏฺฐึ น เสเวยฺย, น สิยา โลกวฑฺฒโนฯ

บุคคลไม่พึงเสพธรรมอันเลว ไม่พึงอยู่ร่วมกับความ
ประมาท ไม่พึงเสพมิจฉาทิฐิ ไม่พึงเป็นคนรกโลก. (๑๓:)

๑๖๘.
อุตฺติฏฺเฐ นปฺปมชฺเชยฺย, ธมฺมํ สุจริตํ จเร;

ธมฺมจารี สุขํ เสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จฯ

ภิกษุไม่พึงประมาทในบิณฑะที่ลุกพึงขึ้นยืนรับ
พึงประพฤติธรรมให้สุจริต ผู้ประพฤติธรรมย่อม
อยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า. (๑๓:)

ธัมมปทปาฬิ-แปล ๑๒. อัตตวรรค



๑๒. อตฺตวคฺโค
คาถาธรรมบท อัตตวรรคที่ ๑๒

๑๕๗.
อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา, รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ;

ติณฺณํ อญฺญตรํ ยามํ, ปฏิชคฺเคยฺย ปณฺฑิโตฯ

หากว่าบุคคลพึงรู้ว่าตนเป็นที่รักไซร้
พึงรักษาตนนั้นไว้ ให้เป็นอัตภาพอันตนรักษาดีแล้ว
บัณฑิตพึงประคับประคองตนไว้ ตลอดยามทั้งสาม ยามใดยามหนึ่ง (๑๒:)

๑๕๘.
อตฺตานเมว ปฐมํ, ปฏิรูเป นิเวสเย;

อถญฺญมนุสาเสยฺย, น กิลิสฺเสยฺย ปณฺฑิโตฯ

บุคคลพึงยังตนนั้นแลให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อน
พึงพร่ำสอนผู้อื่นในภายหลัง บัณฑิตไม่พึงเศร้าหมอง. (๑๒:)

Samstag, 19. Mai 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล_๒๖/ ๑๑. ชราวรรค


๑๑. ชราวคฺโค
คาถาธรรมบท ชราวรรคที่ ๑๑

๑๔๖.
โก นุ หาโส กิมานนฺโท, นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ
อนฺธกาเรน โอนทฺธา, ปทีปํ น คเวสถฯ

ร่าเริงอะไรกันหนอ ยินดีอะไรกัน 
ในเมื่อโลกสันนิวาสถูกไฟไหม้โพล่งแล้วเป็นนิตย์
 ท่านทั้งหลายถูกความมืดหุ้มห่อแล้ว 
เพราะเหตุไรจึงไม่แสวงหาประทีป. (๑๑:)

๑๔๗.
ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;
อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวณฺฐิติฯ

ท่านจงดูอัตภาพอันบุญกรรมทำให้วิจิตรแล้ว
มีกายเป็นแผล อันกระดูกสามร้อยท่อนปรุงขึ้นแล้ว
กระสับกระส่าย อันมหาชนดำริกันโดยมาก
ไม่มีความยั่งยืนมั่นคง. (๑๑:)

Donnerstag, 17. Mai 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล_๒๖/ ๑๐. ทัณฑวรรค


๑๐. ทณฺฑวคฺโค
คาถาธรรมบท ทัณฑวรรคที่ ๑๐

๑๒๙.
สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน;

อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา, น หเนยฺย น ฆาตเยฯ

ภิกษุทำตนให้เป็นอุปมาว่า สัตว์ทั้งปวงย่อม
สะดุ้งต่ออาชญาสัตว์ทั้งปวงย่อมกลัวต่อความตาย
แล้วไม่พึงฆ่าเอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า. (๑๐:)

๑๓๐.
สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพสํ ชีวิตํ ปิยํ
อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา, น หเนยฺย น ฆาตเยฯ

ภิกษุทำตนให้เป็นอุปมาว่า สัตว์ทั้งปวงย่อม
สะดุ้งต่ออาชญา ชีวิตเป็นที่รักของสัตว์ทั้งปวง
แล้วไม่พึงฆ่าเอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า. (๑๐:)

Samstag, 12. Mai 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล_๒๖/ ๙. ปาปวรรค


. ปาปวคฺโค
คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙

๑๑๖.
อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ, ปาปา จิตฺตํ นิวารเย;

ทนฺธํ หิ กรโต ปุญฺญํ, ปาปสฺมึ รมตี มโนฯ

บุคคลพึงรีบทำความดี พึงห้ามจิตจากบาป
เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจย่อมยินดีในบาป. (:)

๑๑๗.
ปาปญฺเจ ปุริโส กยิรา, น นํ กยิรา ปุนปฺปุนํ;
น ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ, ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโยฯ

หากบุรุษพึงทำบาปไซร้ ไม่พึงทำบาป
นั้นบ่อยๆ ไม่พึงทำความพอใจในบาปนั้น
เพราะการสั่งสมบาปนำทุกข์มาให้. (:)

Donnerstag, 10. Mai 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล_๒๖/ ๘. สหัสสวรรค


. สหสฺสวคฺโค
คาถาธรรมบท สหัสสวรรคที่ ๘
๑๐๐.
สหสฺสมปิ เจ วาจา, อนตฺถปทสญฺหิตา;
เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติฯ

หากว่าวาจาแม้ตั้งพันประกอบ
ด้วยบทอันไม่เป็นประโยชน์ไซร้
บทอันเป็นประโยชน์บทหนึ่ง
ที่บุคคลฟังแล้วย่อมสงบ ประเสริฐกว่า. (:)

๑๐๑.
สหสฺสมปิ เจ คาถา, อนตฺถปทสญฺหิตา;

เอกํ คาถาปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติฯ

คาถาแม้ตั้งพันประกอบด้วยบทอันไม่เป็นประโยชน์ไซร้
คาถาบทหนึ่งที่บุคคลฟังแล้วย่อมสงบประเสริฐกว่า. (:)

Mittwoch, 9. Mai 2018

ธัมมปทปาฬิ-แปล_๒๖/ ๗.อรหันตวรรค


. อรหนฺตวคฺโค
คาถาธรรมบท อรหันตวรรคที่ ๗

๙๐.
คตทฺธิโน วิโสกสฺส, วิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพธิ;

สพฺพคนฺถปฺปหีนสฺส, ปริฬาโห น วิชฺชติฯ

ความเร่าร้อนย่อมไม่มีแก่ผู้ที่มีทางไกลอันถึงแล้ว
ผู้มีความโศกปราศไปแล้ว ผู้พ้นวิเศษแล้วในธรรมทั้งปวง
ผู้มีกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวงอันละได้แล้ว. (:)

๙๑.
อุยฺยุญฺชนฺติ สตีมนฺโต, น นิเกเต รมนฺติ เต;

หํสาว ปลฺลลํ หิตฺวา, โอกโมกํ ชหนฺติ เตฯ

ท่านผู้มีสติย่อมขวนขวายท่านย่อมไม่ยินดีในที่อยู่
ท่านละความห่วงใยเสีย เหมือนหงส์สละเปือกตมไป ฉะนั้น. (:)